16 ต.ค.2567- จากกรณีองค์กรคุ้มครองสัตว์ People for the Ethical Treatment of Animal (PETA) ร้องเรียนวุฒิสภาของไทย กรณีมีการทารุณลูกช้าง และได้ทำหนังสือด่วนที่สุด ลงวันที่ 25 พ.ย.2545 ถึงตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อขอให้สอบสวนข้อเท็จจริง
นายนริศโรจน์ เฟื่องระบิล อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงเรื่องดังกล่าวว่า
จุดเริ่มต้น -> มีผู้หญิงไทยจากกลุ่มชาติพันธ์คนนึงสมรู้ร่วมคิดกับฝรั่ง 2 คน ไปถ่ายทำพิธี “ผ่าจ้าน”
แต่พิธีผ่าจ้านจริงๆ ยังไม่หนำใจฝรั่ง ก็เลย จัดฉาก set up ให้มีฉากการทารุณช้างให้มากขึ้น
จากนั้นก็ใช้คลิป “ผ่าจ้าน” ที่จัดฉากนี้ในการ PR ดิสเครดิตประเพณีและวิถีการฝึกช้างว่าทารุณ หาเงินบริจาคอ้างว่าเพื่อช่วยช้าง
เรื่องนี้ทำให้วุฒิสภา US ยื่นเรื่องประท้วงขอให้สืบสวน
ทางการไทยสืบสวนพบว่า ชาวบ้านและช้างที่จากคลิปนั้น มีการจัดฉากจริง
แต่ช้างในพิธีผ่าจ้าน ยังมีตัวตนและอยู่ร่วมกับชาวบ้านได้อย่างปกติ ตามรายงานผลการสืบสวนของทางการไทย จากเอกสารประกอบที่แนบมา
คลิป “ผ่าจ้าน” ถูกเวียนนำมาใช้หากินมานานแล้วกว่า 20 ปี เรียกเงินบริจาคเข้ามูลนิธิและเครือข่ายเป็นจำนวนมหาศาล
ในขณะเดียวกัน หญิงคนนี้และพวกก็ใช้เรื่อง ผ่าจ้าน มาทำแคมเปญในทำนองช่วยช้าง โดยใช้ประเด็นเรื่อง ช้างถูกทารุณ เป็นตัวชูโรง
มีพรรคการเมืองนึงช่วยผสมโรง ชงกฏหมายเข้าสภา
ผลลัพธ์ในภาพรวมคือ ชาวต่างชาติเข้าใจผิดเกี่ยวกับวิถีการเลี้ยงช้างแบบไทย
ปท.ไทยถูกดิสเครดิต ->ผู้ประกอบการเลี้ยงช้างตามวิถีไทยโดนแทรกแซง ถูกห้าม จนทำให้กิจการซวนเซ ขาดทุน
แต่ทางศูนย์ของหญิงคนนี้ได้รับการชื่นชม จนหน่วยงานต่างๆประเคนรางวัลให้ และทำผลกำไรมหาศาล
ปัจจุบัน ยังมีศูนย์หรือมูลนิธิเกี่ยวกับช้างที่มีฝรั่ง NGO เป็นเจ้าของตามจังหวัดต่างๆของไทย เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต สมุย ก็ยังใช้คลิปจัดฉากเรื่อง “ผ่าจ้าน” นี้ในการ PR หาเงินเข้ามูลนิธิจนถึงทุกวันนี้
นี่คือสรุปคร่าวๆ ในสิ่งที่ผมรับรู้มาตลอดหลายปีที่ผ่านมาครับ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อดีตทูตนริศโรจน์' เตือนสติเรื่องทับลานบอกอย่าให้ความสำคัญกลับหัวกลับหาง!
นายนริศโรจน์ เฟื่องระบิล อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบัวโนสไอเรส