15 ต.ค.2567- เพจมูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ Watchdog Thailand Foundation – WDT โพสต์ข้อความอ้างว่า #ความจริงของช้างในสิ่งที่คนไทยส่วนใหญ่ไม่ทราบ
นี่คือเบื้องหลังการฝึกช้าง กุมภาพันธ์ 2566 (ขออภัย ของเดิม ลงพ.ศ.ผิด) การแยกแม่ลูกช้างออกมาเพื่อนำลูกช้างไปฝึกเพื่อนำไปใช้ทำงาน
เราอาจจะเห็นลูกช้างเต้นระบำ เต้นฮูลาฮูป ยิงฟุตบอล วาดรูปหรือมาเป็นช้างขี่และช้างแสดง
ช้างเหล่านี้ล้วนผ่านการฝึกมาแทบทั้งสิ้น
ไม่มีช้างตัวไหนเดินออกมาจากแม่แล้วไปทำงานเลย
ขั้นตอนการได้มาซึ่งลูกช้างก่อนการใช้งานคือการผสมพันธุ์ช้าง เพื่อให้แม่ช้างตั้งท้อง
ช้างตั้งท้อง 22-23 เดือน พอแม่ช้างคลอดลูก การนำลูกช้างไปฝึก จะอยู่แต่ละที่จะแยกลูกช้างในช่วงอายุที่แตกต่างกัน บางที่อาจะสองขวบ และบางที่อาจจะอ่อนกว่านั้น
การแยกลูกช้างออกมาฝึก บางครั้งแยกออกมาเล็กเกินไป ตั้งแต่ยังไม่หย่านม
จะทำให้ลูกช้างเสี่ยงต่อการเสียชีวิต เพราะลูกช้างไม่ได้ดื่มนมแม่อย่างเพียงพอ
ทำให้ลูกช้างอ่อนแอไม่มีภูมิต้านทานโรค
การฝึกลูกช้างล้วนแต่ใช้วิธการรุนแรงเลือดตกยางออก
ทั้งนี้เพราะคนเชื่อว่าช้างเป็นสัตว์ใหญ่ต้องทำให้เชื่องให้ได้
ผู้คนอาจจะมีความสุขกับการแสดงของช้าง แต่ใครจะรู้บ้างว่าเบื้องหลังฉากนั้นมันคือการฝึกเพื่อให้เขาเชื่อง ทำตามความต้องการ แต่มีใครมองเห็นความทุกข์ทรมานของช้างบ้าง
WDT ทำหน้าที่ต่อต้านการทารุณกรรมสัตว์ทุกรูปแบบ
จึงขอเสนอความจริงอันดำมืดที่เป็นการทารุณกรรมช้างอย่างโหดเหี้ยม
ซึ่งมันเกิดขึ้นในสังคมมานานแสนนานโดยไม่มีใครรู้
การตีแผ่ ข้อเท็จจริงของการทารุณกรรมสัตว์จึงเป็นหน้าที่ของ WDT
ที่มีอุดมการณ์ในการต่อต้าน ป้องปราม และบังคับใช้กฎหมายการทารุณกรรมสัตว์
เพราะการฝึกลูกช้างและการกระทำการทารุณ ย่ำยีเกียรติและศักดิ์ศรีช้างจะยังคงมีต่อไป
ตราบเท่าที่สังคมไทยยังเสพข่าวโดยไม่รู้ข้อเท็จจริง
ทีมงาน WDT ได้ทำการติดตามการใช้ช้างทำงานของช้าง
และเรามีภาพหลักฐานมากมายที่จะนำมาเสนอให้ท่านได้รับทราบถึงความดำมืดของการทารุณกรรมช้างในหลายรูปแบบ
โปรดติดตามตอนต่อไป
โพสต์นี้ของเพจ WDT ถูกวิจารณ์อย่างหนัก เพราะเป็นการลงคลิปซ้ำอีกครั้ง หลังก่อนนี้ไม่กี่วันที่ได้โพสต์ไปแต่ต้องลบทิ้งเพราะอ้างว่าลงพ.ศ.ผิด คือระบุว่าเป็นเหตุการณ์ปี 2567 เมื่อมาลงซ้ำได้ระบุใหม่ว่าเป็นปี 2566
ปรากฎว่าทัวร์ลงอย่างหนัก เพราะข้อมูลไม่ตรงกับข้อเท็จจริง เนื่องจากเป็นเหตุการณ์เมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้ว และยังถูกตั้งข้อสังเกตุว่าเป็นการจัดฉากอีกด้วย
เช่นคอมเมนต์ที่ว่า นสพ.ดร.สิทธิเดช มหาสาวังกุล ที่ปรึกษาเชี่ยวชาญด้านสัตว์แพทย์ องค์การอุตสาหกรรใป่าไม้ ออกมาบอกว่า คลิปนี้มีการเตรียมการเพื่อให้ดูโหดร้ายเกินจริง คุณหมอสามารถระบุสถานที่ถ่ายทำได้ด้วยว่าเกิดที่ไหน https://www.facebook.com/share/v/XcjjYihcysmeLcx6/
ทำไมเอาคลิปเก่าเมื่อ20กว่าปี มาลง โจมตี คนไทย กันเองล่ะคะ ทำไมเชิดชูต่างชาติละคะ แล้วมาใส่ร้าย คนเลี้ยงช้างในไทยทำไม เพจนี้เป็นของคนไทยไหมเจ้าของเพจก็เป็นคนไทยนี่ และเดี๋ยวนี้เขามีกฏหมาย ถ้ามีแบบนี้โดนจับหมดค่ะ เป็นเพจช่วยเหลือสัตว์หรือเปล่าค่ะเนี่ย ผิดหวังที่เคยร่วมสมทบโอนทำบุญกับเพจแต่ก่อนเลยค่ะ เป็นกลางไม่ได้ก็อย่าให้มันบิดเบี้ยวขนาดนี้เลยค่ะ เพจจริงๆก็รู้ดีว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นจริงไหมในปัจจุบัน ตั้งแต่เรื่องโดรนที่คอกโฮปแล้ว อย่าให้เพจต้องดูเสื่อมศรัทธาไปมากๆๆๆกว่านี้เลยค่ะ ด้วยความหวังดี
สรุปเพจหมาหรือเพจช้าง ปั่นให้คนเกลียดกันเก่งนะ อย่าลบโพสนะ ดูโง่ดี
https://www.facebook.com/share/v/HwBmTdt3GC8LN7KN/?
คลิปเก่าแล้ว รึเปล่าครับ แบบว่ามันไปคล้ายเหมือน คลิปปีเก่าเลย เอาคลิป 2544 แล้วมายืนยันว่าเป็นปี67 แบบนี้ ก็ ยังไงหาหลักฐาน ไว้พิสูจน์ด้วยนะครับ
https://www.facebook.com/100063887133149/posts/1013709897435239/?app=fbl
เดี๋ยวลบเดี๋ยวเปลี่ยนเดี๋ยวเพิ่มข้อความ อะไรกันแคร๊ะ‼️เพจนี้🤭 ตอนแรกบอกว่าปี 2567 นี่ แต่ได้ข่าวว่าคลิปนี้ มีมาเนิ่นนานไม่ใช่แล้วเหรอค่ะ อย่าลบอีกล่ะ
สรุปสั้นๆ เป็นคลิปเก่าที่เกิดขึ้นแล้วกว่า 20 ปี คลิปชุดเดียวกับที่ จนท. ได้ตรวจสอบ และพบว่าเป็นการสมรู้ร่วมคิดถ่ายทำออกมาให้คนเข้าใจผิด
.
รายละเอียดสอบสวนเป็นดังนี้
- การกระทำทารุณช้างตามที่ปรากฏในภาพวีดีทัศน์ เป็นการแต่งเติมเพื่อแสดงให้เห็นว่าเป็นการ กระทำที่โหดร้ายทารุณหรือไม่ ขอเรียนว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการร้องขอจากทีมงาน ของ นางแสงเดือน ชัยเลิศ ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ จำนวน 2 คนได้มาถ่ายทำวีดีโอเกี่ยวกับช้าง
โดยทีมงานฯ ได้ขอให้ นายแซ่แฮ คีรี ซึ่งเป็นผู้ทำพิธีผ่าจ้านลูกช้างให้ดีหัวช้าง แล้วทีมงานใช้น้ำยาสีม่วงทาที่หลัง และหัวช้างทำให้ดู คล้ายมีเลือดไหลแล้วถ่ายภาพเอาไว้ ซึ่งในการทำพิธีผ่าจ้านนั้นมิได้มีการกระทำรุนแรงหรือทำร้ายช้างแต่อย่างใด เนื่องจากคนเลี้ยงช้างทุกคนมีความรักช้างเหมือนกับเป็นลูกหลานคนหนึ่ง
การทำพิธีฯจะเป็นการทำเพื่อฝึก สอนช้าง และมีการใช้ไม้ตีเบา ๆ พอเป็นพิธีเท่านั้น ไม่ถึงกับทำให้เกิดบาดแผลหรือทำให้เกิดการบาดเจ็บแต่ อย่างใด
จากการที่ได้สอบปากคำผู้ให้ถ้อยคำแล้ว แจ้งว่าภาพวีดีทัศน์เป็นภาพที่แสดงเกินความจริง และมิใช่เป็น พิธีกรรมที่ถูกต้อง ซึ่งเชื่อว่ามีผลประโยชน์แอบแฝง อันไม่อาจคาดเดาได้ อย่างเช่น อาจจะต้องการทำลาย บรรยากาศการท่องเที่ยวของประเทศไทย หรือเพื่อดึงเงินเข้ามูลนิธิ
. - ลูกช้างที่ปรากฏในภาพวีดีทัศน์ปัจจุบันมีการเลี้ยงดูอยู่ที่ บ้านห้วยบง ตำบลแม่ศึก อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ในสภาพที่ดี มีร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง ส่วนข้อบ่งชี้นั้นมี นายชนัตร เลาหะวัฒนะ ผู้อำนวย การองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ เป็นผู้เข้าไปตรวจสอบลูกช้างในกรณีดังกล่าว
. - กระบวนการนำลูกช้างไปกระทำทารุณตามที่ปรากฏ เป็นเพียงกลุ่มบุคคลที่พานักท่องเที่ยวไป ถ่ายทำวีดีโอเท่านั้น ส่วนวัตถุประสงค์ในการกระทำยังไม่ทราบแน่ชัดว่ามีวัตถุประสงค์ทำขึ้นเพื่อประโยชน์ใด จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ พร้อมนี้ได้แนบเอกสารการสอบสวนที่เกี่ยวข้อง มาด้วยแล้ว
สรุป คลิปเก่าเล่าใหม่ คลิปการละคร.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เตือนข่าวปลอม! ธนาคารกรุงไทย เปิดลงทะเบียนเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นรอบใหม่
นายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจ
สั่งศูนย์ต้านเฟกนิวส์ สอบเพจรับบริจาคเงินช่วยเหตุบัสไฟไหม้
'ประเสริฐ' สั่งศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ตรวจสอบเพจเปิดรับบริจาคเงินช่วยนักเรียนบัสมรณะ ขอประชาชนอย่าหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ
ทัวร์ลงยับ! ถามหาจิตสำนึก โรงเรียนวัดเขาพระยาฯ รีบโพสต์รับบริจาคเงิน แต่ไว้อาลัยช้า
จากเหตุการณ์ไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษาเด็กนักเรียนโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 23 ราย เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา ล่าสุด เมื่อเวลา 11.30 น.
'ศปช.' สยบลือว่อนเนต! ยันไม่มีพายุใหญ่ถล่มไทย ทำน้ำท่วมหนักซ้ำปี 54
'ศปช.' สยบข่าวลือว่อนเนต พายุขนาดใหญ่ถล่มไทยเหมือนปี 54 ไม่เป็นความจริง ขออย่าแชร์ต่อ เผยสัปดาห์หน้าไทยหลายพื้นที่เข้าสู่ปลายฝนต้นหนาวแล้ว
กรมอุตุฯ สยบเฟกนิวส์ ยืนยันพายุโซนร้อน 'ซีมารอน' ไม่กระทบไทย
กรมอุตุนิยมวิทยา ชี้แจงกรณีข่าวลือที่เผยแพร่ผ่านทางโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คในขณะนี้ว่า พายุโซนร้อนซีมารอน (Cimaron) ซึ่งอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนนี้ คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นไปทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่
'เพ็ญแข' ไม่หวั่นทัวร์ลง ปูดมีคนใช้ AI เขียนด่า เล่นสนุกในการทำสงครามกันอยู่
นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กว่า ช่วงทัวร์ลงแบบนี้ ผมได้ความรู้ว่ามีคนที่ใช้ AI