11 ต.ค. 2567 – นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ภูมิใจไทยงดออกเสียง พ.ร.บ.ประชามติ สัญญาณการแข็งข้อกับเพื่อไทย
การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ (ฉบับที่….) พ.ศ…. ซึ่งวุฒิสภาแก้ไขเพิ่มเติม ที่ประชุมมีมติไม่เห็นชอบกับร่างที่วุฒิสภาแก้ไขด้วยเสียง 348 เสียง ต่อ 0 งดออกเสียง 65 เสียง เมื่อตรวจสอบในรายละเอียดของการลงมติ พบว่า สส. งดออกเสียง 65 คนนั้น เป็นเสียงของ สส. พรรคภูมิใจไทยทั้งหมด สร้างความแปลกใจให้กับหลายฝ่ายเป็นอย่างมาก ไม่คาดคิดว่า สส. พรรคภูมิใจไทยจะงดออกเสียง เพราะกฎหมายฉบับนี้เป็นกฎหมายของรัฐบาล และเป็นความเห็นพ้องของ สส. ทุกพรรค ลงมติยืนยันร่างเดิมของสภาผู้แทนราษฎร และกฎหมายฉบับนี้ เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ในระหว่างการประชุมร่างดังกล่าว ในวาระ 2 มาตรา 6 แก้ไขมาตรา 13 ว่าด้วยเกณฑ์ออกเสียง ที่คณะกรรมาธิการเสียงข้างมากแก้ไขให้ใช้เสียงข้างมากเพียงชั้นเดียวนั้น มติที่ประชุมเห็นชอบด้วยคะแนน 406 ต่อ 1 งดออกเสียง 1 นั้น พบว่า สส. ภูมิใจไทย ที่มาประชุม ลงมติเห็นชอบทุกคน
แต่เมื่อมติของที่ประชุมวุฒิสภาไม่เห็นด้วยกับร่างของสภาผู้แทนราษฎร และมีการแก้ไขใหม่ ทำให้หลายฝ่ายจับตาดูว่า จุดยืนของพรรคภูมิใจไทยมีความเห็นต่อเรื่องนี้อย่างไร ยังยืนยันในมติเดิมหรือไม่ เพราะสมาชิกวุฒิสภาสายสีน้ำเงิน จำนวน 150 คน มีสายสัมพันธ์หรือคอนเน็คชั่นที่ดีกับพรรคภูมิใจไทย ได้ลงมติกลับความเห็นของสภาผู้แทนราษฎร น่าจะได้รับสัญญาณมาจากครูใหญ่แห่งบุรีรัมย์ และเมื่อร่างกฎหมายฉบับนี้ ส่งคืนมายังสภาผู้แทนราษฎรเพื่อลงมติยืนยัน ก็พบว่า สส. พรรคภูมิใจไทยทั้งหมดงดออกเสียง แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่าง สว. สายสีน้ำเงินกับพรรคภูมิใจไทยได้อย่างชัดเจน
การแสดงจุดยืนของพรรคภูมิใจไทย ในการงดออกเสียงครั้งนี้ เป็นการโหวตที่เห็นต่างกับมติของพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นพรรคแกนนำ และจะเป็นอีกสัญญาณหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่า พรรคภูมิใจไทยไม่แคร์ความรู้สึกของพรรคเพื่อไทย แม้จะมีการโหวตสวนกันพรรคเพื่อไทย ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ในบางครั้งยังโอนอ่อนผ่อนตามข้อเสนอของพรรคภูมิใจไทยด้วยซ้ำไป เช่น กรณีการจะนำกัญชาเข้าสู่บัญชียาเสพติดประเภท 5 แต่เมื่อพรรคภูมิใจไทยไม่เห็นด้วย ก็ยอมกลับไปผลักดัน พ.ร.บ.ควบคุมกัญชา ตามแนวทางของพรรคภูมิใจไทย หรือการแก้ไขประมวลจริยธรรมนักการเมือง ก็ถอยไปเมื่อพรรคภูมิใจไทยแสดงความเห็นด้วย
หลังจากนี้ต้องจับตัวจับตาดูความเคลื่อนไหวของพรรคภูมิใจไทยว่า จะรุกคืบในประเด็นใดบ้าง ที่ทำให้พรรคเพื่อไทยต้องยินยอมตามความต้องการของพรรคภูมิใจไทย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเปิดบ่อนกาสิโน หรือการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ จะมีการงดเว้นการแก้ไขหมวด 1 กับหมวด 2 หรือไม่ พ.ร.บ.นิโทษกรรม จะเอาอย่างไร หรือมีเรื่องอื่นๆ ที่จะตามมาในอนาคต
สัญญาณการแข็งข้อครั้งนี้ไม่ใช่เป็นครั้งแรก แต่จะมีครั้งต่อๆ ไปอีก เป็นการรุกคืบทางการเมืองของพรรคภูมิใจไทยแบบไม่ต้องเกรงใจใคร จนพรรคเพื่อไทยไม่กล้าหือ สัญญาณก็จะชัดขึ้นเรื่อยๆ ไม่เชื่อก็รอดู.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ไม่เอาไว้ทำพ่อ! 'ทักษิณ' ขู่ฟ่อ ต่อไปนี้ใครเล่นงาน จะเล่นกลับหมด บางคนให้ตังค์ใช้ พอไม่เลี้ยงโดนมันกัด
ช่วงเย็นวานนี้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีได้เดินทางมาปราศรัยหาเสียงช่วยนายพิชัย เลิศพงษ์อดิศร ผู้สมัครนายกองค์การบริหาร
'นายแบกเพื่อไทย' ตบปาก 'นายกฯว่าว' โทษฐาน แนะ 'นายกฯอิ๊งค์' ใช้เวทีสภาฯ ลบคำครหาเรื่องโพย พึ่งพ่อ
นายอิราวัต อารีกิจ หรือ หมออั้ม นักเคลื่อนไหวทางการเมืองผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความว่า พิธา แนะนายกฯอิ๊ง ให้ใช้เวทีสภาฯ แส
“พ่อเลี้ยง”เปลี่ยนสนามรบเป็นทุน “ดับไฟใต้-สันติภาพเมียนมา”
“ฉายารัฐบาลพ่อเลี้ยง” นับเป็นภาพการเมืองในฝ่ายบริหารที่ “วิญญูชน” พึงประจักษ์ได้ว่าเป็นอย่างไร โดยเฉพาะการขยับตัวและคำพูดของ “ทักษิณ ชินวัตร” วิทยากร-นักวิชาการของพรรคเพื่อไทย
'ทักษิณ' ปราศรัยเดือด ไม่ทนพวกเห่าหอน ซัดมาซัดกลับ เหน็บพรรคส้มขี้โม้
นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขึ้นเวทีปราศรัยช่วยนายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร หรือ สว.ก๊อง ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงใหม่ เบอร์ 2 หาเสียง โดย ทันทีที่นายทักษิณมาถึงได้เดินทักทายประชาชนที่มาร่วมฟังการปราศรัย
'เต้น' ปราศรัยเชียงใหม่ ขออย่าเปลี่ยนใจ ถามเลือกตั้ง สส. ทำไมเพื่อไทยได้แค่ 2 คน
นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขึ้นเวทีปราศรัยช่วยนายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร หรือ สว.ก๊อง ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงใหม่ เบอร์ 2 หาเสียง โดยมีนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี
เทวดาแม้วของขึ้น! เปิดศึกขาประจำกว่า 10 คน รวม ‘แก้วสรร-แฝดน้อง‘
นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พ่อน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงฉายา “ทวีไอพี” ของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการ