8 ต.ค. 2567 – นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์เฟซบุ๊ก #ประชานิยม + #การแทรกแซงธนาคารกลาง = #หายนะ เมื่อฝ่ายการเมืองคิดจะใช้นโยบายประชานิยม สิ่งที่ตามมาคือความพยายามในการแทรกแซงธนาคารกลาง และจะจบลงด้วยความหายนะของประเทศชาติ
นโยบายประชานิยม ด้วยการแจกเงินของพรรคแกนนำรัฐบาลโดยทั่วไป ไม่ได้เป็นเพียงมาตรการทางเศรษฐกิจ แต่ยังเป็นกลยุทธ์ทางการเมืองที่ใช้สร้างความนิยมและรักษาฐานเสียง
ซึ่งมักดำเนินการโดยอาจใช้เงินภาษีของประชาชน เงินงบประมาณ หรือแม้กระทั่งการกู้ยืมเงินในนามของรัฐบาลเพื่อสนับสนุนโครงการที่ดึงดูดใจประชาชนในระยะสั้น
ตัวอย่างนโยบายเช่นนี้ ได้แก่ การแจกเงินสด หรือการสร้างสวัสดิการโดยไม่คำนึงถึงความยั่งยืนทางเศรษฐกิจ
การใช้งบประมาณในลักษณะดังกล่าวอาจไม่สอดคล้องกับมาตรการของธนาคารกลาง และอาจเกิดผลกระทบในหลายด้าน ดังนี้:
1.การขัดแย้งกับนโยบายการเงินของธนาคารกลาง
ธนาคารกลางมีบทบาทในการรักษาเสถียรภาพทางการเงิน เมื่อรัฐบาลดำเนินนโยบายที่เน้นการกระตุ้นการใช้จ่าย เช่น การแจกเงิน จะทำให้ปริมาณเงินในระบบเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เงินเฟ้อสูงขึ้น
2.#ภาระหนี้สาธารณะ และการเงินการคลังของประเทศ
การใช้นโยบายประชานิยมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้นอาจนำไปสู่การกู้ยืมเงินเพิ่มเติมหรือการใช้เงินสำรองที่มีอยู่ ซึ่งทำให้หนี้สาธารณะเพิ่มสูงขึ้น เมื่อภาระหนี้เพิ่มขึ้น รัฐบาลจะต้องจ่ายดอกเบี้ยและชำระหนี้ที่สูงขึ้นในอนาคต ซึ่งจะเป็นภาระทางการคลังที่อาจต้องใช้เวลาหลายปีในการฟื้นฟู และหากเศรษฐกิจชะลอตัว ภาษีที่เก็บได้จะน้อยลง ทำให้ยิ่งยากต่อการชำระหนี้
3.การเบี่ยงเบนการใช้ทรัพยากรของประเทศ
การลงทุนของรัฐในโครงการประชานิยมอาจไม่ก่อให้เกิดการเติบโตของเศรษฐกิจในระยะยาว เพราะเงินถูกใช้ในด้านที่สร้างผลประโยชน์ทันทีแต่ไม่มีความยั่งยืน เช่น การแจกเงินสด โดยไม่ได้ส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาทางเศรษฐกิจจริง เช่น โครงสร้างพื้นฐาน ทำให้โอกาสที่ประเทศจะพัฒนาและมีเสถียรภาพในอนาคตลดลง
4.ผลกระทบต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในระยะยาว
การใช้งบประมาณโดยไม่ระมัดระวังและไม่สอดคล้องกับเป้าหมายของธนาคารกลาง ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ
5.ลดความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ
เพราะเห็นว่ารัฐบาลมุ่งเน้นผลประโยชน์ระยะสั้นมากกว่าความมั่นคงในระยะยาว ซึ่งทำให้เงินทุนไหลออกและค่าเงินอ่อนค่าลงได้
เมื่อฝ่ายการเมืองคิดจะใช้นโยบายประชานิยม สิ่งที่ตามมาคือการแทรกแซงธนาคารกลาง
หากธนาคารกลางไม่มีอิสระในการกำหนดนโยบายการเงิน ประเทศจะขาดเครื่องมือในการวางแผนเศรษฐกิจระยะยาว นโยบายเศรษฐกิจอาจจะมุ่งเน้นแต่ผลประโยชน์ระยะสั้นซึ่งมีผลต่อภาพรวมในระยะยาว เช่น การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การลงทุนในนวัตกรรม และการเตรียมตัวสู่ความท้าทายในอนาคตที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีหรือสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นผลให้ความสามารถในการแข่งขันของประเทศลดลงในเวทีโลก
การแทรกแซงธนาคารกลางไม่เพียงแต่ทำลายความเชื่อมั่นในระบบการเงินและเศรษฐกิจ แต่ยังบั่นทอนการพัฒนาทางเศรษฐกิจในระยะยาวของประเทศอีกด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'นายกต้อย' ไขก๊อก! อบจ.เมืองคอน อ้างเหตุผลสุดอึ้ง
างกนกพร เดชเดโช นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ยื่นหนังสือลาออกแล้วจากการปฏิบัติหน้าที่นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช
ถาม ‘พิชัย’ ตรงๆ ใครเห็นหัวคนรากหญ้ามากกว่ากัน ‘พท.’ หรือ ‘แบงก์ชาติ’
การแจกเงินของพรรคเพื่อไทยจึงไม่เพียงแต่เป็นมาตรการทางเศรษฐกิจ แต่ยังเป็นกลยุทธ์ทางการเมืองที่ใช้สร้างความนิยมและรักษาฐานเสียง
'อดีตสว.' เตือนแจกเงินหมื่นภาษีคนไทยทุกคนแบกหนี้ จี้ยกเลิกส่วนที่เหลือก่อนล้มละลาย
นายสมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.)โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า แจกเงินหมื่น #ภาษีของคนไทยทุกคน รัฐบาล สส นักการเมืองอย่าริฉวยเอาหน้า
นักวิชาการ ชำแหละ 10 ข้อ โซเชียลติดแฮชแท็ก 'พรรคประชาชนพม่า'
นักวิชาการสรุปประเด็น สส.ธิษะณา อภิปรายในสภาฯ ก่อนที่ในโลกโซเชียลได้แห่ติดแฮชแท็ก #พรรคประชาชนพม่า
เอ็ดดี้ บอกความบังเอิญไม่มีอยู่จริง พ่อพ้นโทษ ลูกรับตำแหน่งนายกฯคนใหม่
จังหวะชีวิตของทักษิณกลับมาขึ้นอีกครั้งหลังจากตกลงเหวมาเกือบ 2 ทศวรรษ จากนักโทษลี้ภัยในต่างแดนที่ได้กลับเมืองไทยแบบเท่ๆ
'ดร.เอ้' ฝากการบ้าน 'นายกฯใหม่' ถ้าทำได้จะได้ใจประชาชนเต็มๆ
ศาสตราจารย์ ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ (ดร.เอ้) รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กทม. โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ขอเสนอ 4 นโยบาย