มาอีกแล้ว! ไวรัสตัวใหม่ 'มาร์บูร์ก' น้องๆอีโบลา

03 ต.ค.2567 - เพจศูนย์จีโนมทางการแพทย์ ศูนย์สนับสนุนพันธกิจ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล โพสต์รูปพร้อมเนื้อหาในหัวข้อ “วิกฤตไวรัสอันตราย “มาร์บูร์ก (Marburg virus)”: การระบาดในรวันดาและความเสี่ยงที่จะแพร่กระจายทั่วโลก” ระบุว่า การแพร่กระจายข้ามพรมแดนเริ่มปรากฏ: ผู้ต้องสงสัยติดเชื้อสองคนพบที่สถานีรถไฟฮัมบูร์ก (Hamburg) ในเยอรมนี (Germany) สะท้อนความยากลำบากในการควบคุมโรคยุคโลกาภิวัตน์ที่การเดินทางระหว่างประเทศรวดเร็วและแพร่หลาย

ความเข้าใจเกี่ยวกับไวรัสมาร์บูร์ก

ไวรัสมาร์บูร์กเป็นเชื้อก่อโรคที่อยู่ในตระกูลเดียวกับไวรัสอีโบลา ซึ่งสามารถก่อให้เกิดไข้เลือดออกรุนแรงในมนุษย์ ไวรัสนี้ติดต่อจากสัตว์สู่คน โดยมีค้างคาวผลไม้เป็นพาหะหลัก และสามารถแพร่กระจายระหว่างมนุษย์ผ่านการสัมผัสกับของเหลวในร่างกายของผู้ติดเชื้อ

อาการและการดำเนินโรค

ผู้ติดเชื้อมักแสดงอาการหลังระยะฟักตัว 2-21 วัน โดยเริ่มจากไข้สูงเฉียบพลัน ปวดศีรษะอย่างรุนแรง และอ่อนเพลียมาก ตามด้วยอาการอื่นๆ เช่น:
- ปวดกล้ามเนื้อและปวดข้อ
- คลื่นไส้อาเจียน และท้องเสีย
- ผื่นแดงตามผิวหนัง
- อาการเลือดออกผิดปกติ เช่น เลือดออกตามไรฟัน เลือดกำเดาไหล หรืออาเจียนเป็นเลือด

ในรายที่อาการรุนแรง อาจพบภาวะตับและไตล้มเหลว ซึ่งนำไปสู่ภาวะช็อกและเสียชีวิตในที่สุด
อัตราการเสียชีวิต

โรคไวรัสมาร์บูร์กมีอัตราการเสียชีวิตสูง โดยในการระบาดครั้งก่อนๆ พบว่ามีอัตราการเสียชีวิตอยู่ระหว่าง 24% ถึง 88% ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ของไวรัสและคุณภาพของการดูแลรักษา ในการระบาดครั้งนี้ในรวันดา อัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ประมาณ 34% (10 รายจาก 29 รายที่ยืนยัน) ซึ่งถือว่าสูงมากและเป็นสาเหตุของความกังวลอย่างมากในวงการสาธารณสุข

ภาพรวมการระบาด

ณ วันที่ 1 ตุลาคม 2567 รวันดา รายงานผู้ติดเชื้อยืนยัน 29 ราย เสียชีวิต 10 ราย และมีผู้สัมผัสใกล้ชิดที่อยู่ภายใต้การเฝ้าระวังมากกว่า 297 คน ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นบุคลากรทางการแพทย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ปฏิบัติงานในหน่วยบริบาลผู้ป่วยวิกฤต ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเสี่ยงสูงของการติดเชื้อในสถานพยาบาล
การแพร่กระจายระหว่างประเทศ

แม้ว่าการระบาดจะจำกัดอยู่ในรวันดา เป็นหลัก แต่ก็มีความกังวลเกี่ยวกับการแพร่กระจายข้ามพรมแดน มีรายงานผู้ต้องสงสัยที่สถานีรถไฟในฮัมบูร์ก (Hamburg) ประเทศเยอรมนี 2 คน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความท้าทายในการควบคุมการแพร่ระบาดในยุคที่การเดินทางระหว่างประเทศเป็นไปอย่างรวดเร็วและกว้างขวาง
การตอบสนองและมาตรการควบคุม

รัฐบาลรวันดา และองค์กรระหว่างประเทศ เช่น องค์การอนามัยโลก (WHO) และศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งแอฟริกา (Africa CDC) กำลังดำเนินมาตรการควบคุมการระบาดอย่างเข้มข้น รวมถึงการติดตามผู้สัมผัส การแยกกักผู้ป่วย และการเพิ่มความเข้มงวดของมาตรการตามแนวชายแดน โดยเฉพาะในเมืองหลวงคิกาลี (Kigali) และพื้นที่ชายแดนที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้าน องค์การอนามัยโลกกำลังเตรียมจัดส่งเวชภัณฑ์ฉุกเฉินจากศูนย์กลางในไนโรบี (Nairobi) ประเทศเคนยา (Kenya)

ความท้าทายในอนาคต

การขาดวัคซีนและยารักษาเฉพาะ รวมถึงความไม่แน่นอนเกี่ยวกับแหล่งที่มาของการระบาด ยังคงเป็นความท้าทายสำคัญ การติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดในสัปดาห์ข้างหน้าจะเป็นกุญแจสำคัญในการประเมินความเสี่ยงของการแพร่ระบาดในวงกว้างและการพัฒนามาตรการรับมือที่มีประสิทธิภาพ ความร่วมมือระหว่างประเทศจะมีบทบาทสำคัญในการจำกัดการแพร่กระจายของไวรัสนี้ไปยังภูมิภาคอื่นๆ ของโลก

https://www.thesun.co.uk/.../ebola-eye-bleeding-disease.../
https://www.latestly.com/.../marburg-virus-scare-in...

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ฮาแวร์ตซ์' หัวเข่าเดี้ยง ประกาศถอนทัพ 'อินทรีเหล็ก' ฟีฟ่าเดย์ตุลาคม

ไค ฮาแวร์ตซ์ ตัวรุกฟอร์มแรงของ "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล ถอนตัวจากทัพ "อินทรีเหล็ก" ทีมชาติเยอรมนีเป็นที่เรียบร้อย หลังมีปัญหาบาดเจ็บที่หัวเข่า

ศูนย์จีโนมฯ จับตาโอมิครอน KP.2.3/XEC ลูกผสมพันธุ์ใหม่ แพร่เร็วกว่าเดิม 2 เท่า

ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า โอมิครอน KP.2.3/XEC : ลูกผสมสายพันธุ์ใหม่แพร่เร็วกว่าเดิม 2 เท่า