ตร.แถลงคดีรถบัสมรณะ พบติดตั้งถังแก๊ส 11 ถัง ไม่จดแจ้ง 5 ถัง ตั้งข้อหาหนักคนขับ

2 ต.ค.2567 - ที่กองบัญชาการตำรวจภะรภาค 1 (บช.ภ.1) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.) เป็นประธานแถลงความคืบหน้าคดีอุบัติเหตุเพลิงไหม้รถบัสรับส่งนักเรียนทัศนศึกษา โดยมี พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สพฐ.ตร., พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รอง ผบช.ภ.1 รรท.ผบช.ภ.1 , พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1 , พล.ต.ต.ยุทธนา จอนขุน ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี , พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร ผบก.พฐก. , พล.ต.ต.สุพิไชย ลิ่มศิวะวงศ์ ผบก.นต.รพ.ตร. และ นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก ร่วมแถลง โดยก่อนการแถลงข่าว รรท.ผบ.ตร.ได้เรียนเชิญทุกท่านร่วมยืนไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ รรท.ผบ.ตร.เปิดเผยว่า สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ได้ร่วมกับสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ (สพฐ.ตร.) ตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลทั้ง 23 รายเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างออกรายงานรับรองการเสียชีวิต และใบมรณะบัตร โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้อำนวยความสะดวกโดยจัดรถตำรวจทางหลวง และตำรวจท่องเที่ยวนำขบวนและอำนวยความสะดวกตลอดเส้นทาง พร้อมส่งกลับภูมิลำเนาที่ จ.อุทัยธานี และจัดการดูแลอำนวยความสะดวกให้บริการ พร้อมดูแลสภาพจิตใจของครอบครัวและผู้ใกล้ชิดของผู้ประสบเหตุอย่างเต็มที่

สำหรับผู้ขับขี่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้สั่งการให้ ภ.จว.ปทุมธานี และ บก.สส.ภ.1 เร่งรัด กดดัน ติดตามจับกุมตัวผู้ขับขี่ จนเมื่อวานนี้ (1 ตุลาคม 2567) เวลา 19.30 น. จึงได้ร่วมจับกุมผู้ขับขี่รถคันดังกล่าว แล้วนำตัวมาสอบสวนยัง สภ.คูคต และได้แจ้งข้อกล่าวหา “ขับรถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สิน เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ และขับรถในทางก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคล แล้วไม่หยุดรถให้การช่วยเหลือ ไม่แสดงตัวและไม่แจ้งเหตุต่อเจ้าพนักงาน เป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 และพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 43(4), 78, 157, 160 วรรคสอง ในเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ และพนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวไว้ ณ สภ.คูคต เตรียมที่จะนำตัวไปฝากขัง

รรท.ผบ.ตร.เปิดเผยต่อว่า โดยทางคดีพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานในทุกมิติ สอบพยานที่เกี่ยวข้องแล้วหลายปาก, วัตถุพยานในที่เกิดเหตุ , ภาพบันทึกกล้องวงจรปิด โดยเฉพาะผลตรวจพิสูจน์สภาพรถคันเกิดเหตุทางนิติวิทยาศาสตร์ประกอบตามกฎหมาย ส่วนรถบัสคันเกิดเหตุ สพฐ.ตร.ได้ร่วมกับกรมการขนส่งทางบก ตรวจสภาพและรายละเอียดที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาสาเหตุที่เกิดไฟลุกไหม้ขึ้น ในเบื้องต้นพบว่ารถบัสคันดังกล่าวมีถังแก๊สเชื้อเพลิงจำนวน 11 ถัง พบเบื้องต้นจดทะเบียนถูกต้องเพียง 6 ถัง ส่วนที่เหลือ 5 ถัง ไม่อยู่ในรายการจดแจ้งกับเจ้าหน้าที่ ส่วนรายละเอียดอื่นๆ จะต้องตรวจสอบอย่างละเอียดทางนิติวิทยาศาสตร์ต่อไป หากพบว่ามีบุคคลหรือบริษัทใดเกี่ยวข้อง หรือมีส่วนในการกระทำความผิด สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด

“สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ และขอความกรุณางดเผยแพร่ภาพ แชร์ภาพ แชร์คลิป ผู้เสียชีวิตจากเหตุดังกล่าว” รรท.ผบ.ตร.กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ชวน' ชี้ยกเลิกทัศนศึกษา ไม่ช่วยแก้ปัญหาอุบัติเหตุไฟไหม้ แต่อยู่ที่หน่วยงานต้องเข้มงวดจริงจัง

นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าว่า เรื่องทำนองนี้เกิดขึ้นหลายครั้ง แต่กรณีนี้กระทบกระเทือนคนมากเป็นพิเศษ เพราะเราต้องสูญเสียทรัพยากรสำคัญที่สุดของชาติคือนักเรียนถึง 23 คนบาดเจ็บรวมทั้งหมด 50 คน

'ในหลวง' ทรงรับผู้บาดเจ็บ-เสียชีวิตจากเหตุไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา ไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงเสียพระราชหฤทัยเป็นอย่างยิ่ง และทรงห่วงใยต่อเหตุการณ์รถบัสทัศนศึกษาของนักเรียนเกิดเพลิงไหม้ ของเด็กนักเรียนโรงเรียน วัดเขาพระยาสังฆาราม

'สุริยะใส' ชี้ทัศนศึกษายังสำคัญและจำเป็น เปิด 6 ข้อเสนอยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย

ดร.สุริยะใส กตะศิลา คณบดีวิทยาลัยผู้นำและนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง "ทัศนศึกษายังสำคัญและจำเป็น แต่..." โดยมีเนื้อหาดังนี้

ส่งร่างกลับภูมิลำเนา หลังพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลครบ 23 ราย เหตุไฟไหม้รถบัสนักเรียน

ที่นิติเวช รพ.ตำรวจ .เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง นำขบวนรถมูลนิธิร่วมกตัญญูนำร่างเด็กนักเรียน และครูโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม

'หมอประกิต' ยกประสบการณ์ 'ลูกโป่งระเบิด' ชงแก้ไขปัญหารถบัสนักเรียนไฟไหม้ทุกประเด็น

ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ ประธานมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ เผยแพร่บทความเรื่อง รถบัสเด็กนักเรียนไฟไหม้ สังคมไทยต้องเลิกคอยแต่จะ“ล้อมคอก”ท่าเดียว มีเนื้อหาดังนี้

กสม.ชี้ไฟไหม้รถบัสนักเรียนความหละหลวมปกป้องและคุ้มครองเด็ก จี้หยุดซ้ำเติมความโศกเศร้า

คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ออกแถลงการณ์ เรื่อง ขอแสดงความเสียใจต่อความสูญเสียครั้งใหญ่ในเหตุเพลิงไหม้รถบัสโดยสารนักเรียน มีใจความว่า