25 ก.ย.2567- นายเดชา ศิริภัทร ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ เจ้าของสูตรน้ำมันกัญชา (ตำรับหมอเดชา) โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า
วันที่ 28 กันยายน 2567 นี้ มีการอบรม วิธีใช้และวิธีการทำ น้ำมันกัญชาตำรับหมอเดชา
เพื่อให้ใช้เป็นและทำเป็น พึ่งตัวเองได้ พร้อมทั้งเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ไปยังผู้ป่วยอื่นๆได้ด้วย
ผมได้รับวิธีการทำและใช้น้ำมันกัญชาฯตำรับนี้ จากหลวงปู่พระปลัดยม มากว่า 10 ปีแล้ว
และได้เผยแพร่น้ำมันกัญชาฯตำรับนี้ มาตั้งแต่ก่อนที่กัญชา จะถูกนำออกจากยาเสพติด
จนกระทั่งเกิดเรื่องเมื่อเดือนเมษายน 2562 ผมจึงได้รับการแต่งตั้งเป็น "หมอพื้นบ้าน"
และน้ำมันกัญชาฯตำรับนี้ ได้รับการ "ขึ้นตำรับ" เป็นยา ชื่อ "น้ำมันกัญชาตำรับหมอเดชา"
ถูกนำไปวิจัย 2 ปี คนไข้มากกว่า 180,000 คน รักษาโรค 8โรค ได้ผลเกิน 80% ทุกโรค
ได้รับการบรรจุใน "บัญชียาหลักแห่งชาติ" และใช้ในโครงการ "30 บาทรักษาทุกโรค"
ตั้งแต่ปลายปี 2564 ในโรงพยาบาลกว่า 300 โรง คือ โรคมะเร็ง พาร์คินสัน และไมเกรน
ผ่านมา 3 ปีเศษ มีเสียงสะท้อนจากผู้ป่วยว่า หมอส่วนใหญ่ ไม่ยอมจ่ายน้ำมันกัญชาฯ
เช่น เมื่อเป็นมะเร็ง หมอก็สั่งให้ใช้แพทย์แผนใหม่ เช่น เคมีบำบัด ไม่ให้ใช้ น้ำมันกัญชาฯ
รวมทั้งโรค พาร์คินสัน และไมเกรน ก็เป็นอย่างเดียวกัน ทั้งๆที่งานวิจัย มีผลออกมาชัดเจน
ว่าโรคเหล่านี้ การรักษาด้วยน้ำมันกัญชาตำรับหมอเดชา ได้ผลดีกว่า และถูกกว่ามาก
รวมทั้ง หมอในกระทรวงสาธารณสุขส่วนใหญ่ ยังต้องการให้กัญชากลับไปเป็นยาเสพติด
ผมจึงประเมินว่า ผู้ป่วยคนไทย คงหวังพึ่งน้ำมันกัญชาฯ จากภาครัฐบาล ไม่ได้เท่าที่ควร
ความหวังจึงอยู่ที่ ภาคประชาชน ทำน้ำมันกัญชาฯเอง รักษาตัวเอง และช่วยเหลือกันเอง
โครงการอบรมการใช้ และการทำน้ำมันกัญชาตำรับหมอเดชา จึงเกิดขึ้นมาหลายปีแล้ว
เพื่อให้คนไทยทั่วไป ทำน้ำมันกัญชาตำรับหมอเดชา ได้เอง แจกจ่าย และสอนผู้อื่นต่อไป
ด้วยวิธีการนี้ (อาจเรียกว่า"ไฟลามทุ่ง" ก็ได้) อีกไม่ช้า ผู้ป่วยส่วนใหญ่ ก็จะเข้าถึงยานี้ได้
มีความพยายามจะสกัดกั้น โดยผลักดันให้นำกัญชา กลับไปเป็นยาเสพติดอีก เมื่อเร็วๆนี้
แต่ก็ล้มเหลว เพราะถูกประชาชนคนไทย ร่วมกันต่อสู้อย่างจริงจัง จนรัฐบาลต้องยอมถอย
คนไทยจึงมีสิทธิ์ ปลูก และใช้ประโยชน์จากกัญชาได้มาก โดยเฉพาะการทำยารักษาโรค
หากใครที่ยังใช้น้ำมันกัญชาตำรับหมอเดชาไม่เป็น หรือใช้เป็นแล้ว แต่ยังทำใช้เองไม่เป็น
ก็ขอเชิญสละเวลาสักวัน และเงินสัก 900 บาท ช่วยค่าใช้จ่าย เข้าร่วมงานอบรมนี้ด้วยกัน
ถ้าไม่สดวกลงทะเบียนล่วงหน้า ก็มาลงทะเบียนที่หน้างานได้เลยครับ รับรองมีที่นั่งทุกคน
มาร่วมกันเป็นส่วนหนึ่ง ของการเปลี่ยนแปลงสังคมไทย ให้พึ่งตัวเองได้ทางสุขภาพ
แทนที่จะปล่อยให้ บริษัทยาต่างชาติ เข้ามาสูบเลือดคนไทย ไปปีละ หลายแสนล้านบาท
โดยร่วมมือและแบ่งผลประโยชน์ กับโรงพยาบาล และหมอที่ใช้ยาของเขา ในเมืองไทย
ดูตัวอย่างจาก กรณีโรคโควิด-19 ระหว่าง ยา ฟาวิฟิราเวีย กับยา ฟ้าทะลายโจร ดูก็ได้
จะเห็นได้ชัดว่า ใครสนับสนุน ยาฟาวิฟิราเวีย ทั้งๆที่ประเทศญี่ปุ่น (ผู้ผลิต) ยังไม่ยอมใช้
และใครต่อต้าน ยาฟ้าทะลายโจร ที่วิจัยแล้วว่าใช้ได้ผลดี และราคาถูกกว่าหลายเท่า
การต่อต้านกีดกัน น้ำมันกัญชาฯ ที่ผ่านการวิจัยแล้วว่าได้ผลดี ก็เหมือนยาฟ้าทะลายโจร
ก็เพราะ น้ำมันกัญชาฯ รักษาโรคได้ผลดีกว่า และเสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่าหลายเท่า นั่นเอง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'หมอเดชา' ย้ำกาสิโนเป็นนโยบายที่ไร้ธรรมะและสิ้นคิด
นายเดชา ศิริภัทร ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ เจ้าของสูตรน้ำมันกัญชา (ตำรับหมอเดชา)
'หมอเดชา' ไม่รอ 'แอ๊ด' เผยกก.มีมติสร้างโรงพยาบาลจนสำเร็จ วางศิลาฤกษ์ก่อนสงกรานต์
นายเดชา ศิริภัทร ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ เจ้าของสูตรน้ำมันกัญชา (ตำรับหมอเดชา) โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า วันนี้ ผมได้รับรายงานการประชุมของคณะกรรมการฯ ที่ผมขอร้องให้มาช่วยแก้ปัญหา
'หมอเดชา' ยก 'อีลอน มัสก์' ประณาม USAID หนุนวิจัยอาวุธชีวภาพ หากยังมีคนเชื่อ mRNA ขอให้ไปที่ชอบๆ
นายเดชา ศิริภัทร ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ เจ้าของสูตรน้ำมันกัญชา (ตำรับหมอเดชา) โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่า มีข่าวเกี่ยวกับอันตรายจาก วัคซีน โควิด-19 ชนิด mRNA มากมาย ทั้งไทยและทั่วโลก
'หมอเดชา' รำลึกเรื่องประทับใจกับ 'แอ๊ด คาราบาว' จากเพลง คนเก็บฟืน ลงท้ายที่ พระอภัยมณี
นายเดชา ศิริภัทร ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ เจ้าของสูตรน้ำมันกัญชา (ตำรับหมอเดชา) โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ว่า
บทเรียน '18 บอส ดิไอคอน' โดนจับ 'สัจธรรม' ในธรรมะ แสดงผล ถูก 'อสรพิษ' ทำร้าย
นายเดชา ศิริภัทร ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ เจ้าของสูตรน้ำมันกัญชา (ตำรับหมอเดชา) โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า วันนี้ (17 ตุลาคม 2567) เป็นวันออกพรรษา นับเป็นวันมงคลของชาวพุทธฯ
ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ กระตุก นายกฯอิ๊งค์ ปท.ไม่ใช่ของเล่น ต้องฝึกสติเร่งด่วน
การดำรงตำแหน่งสำคัญสูงสุดของฝ่ายบริหาร สมควรต้องมีความระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะ เมื่ออยู่ในพิธีการ หรืออยู่ต่อหน้าสาธารณชน