'เชาว์' จวก 'ทวี' ตรรกะวิบัติ ยกเด็กทำผิดก่อนอายุ 18 ปี ยังเป็นผู้พิพากษาได้


20 ก.ย.2567 - นายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง ตรกกะวิบัติของ "พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง" มีเนื้อหาระบุว่า กรณีที่พันตำรวจเอกทวีสอดส่องรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เกี่ยวกับ เรื่องจริยธรรมและความซื่อสัตย์สุจริตของผู้ที่จะเข้ามาเป็นรัฐมนตรี ว่า “ บางทีวันนี้แม้แต่ศาลเอง ผู้ที่กระทำความผิดตอนที่เป็นเด็กอายุก่อนถึง 18 ปี มีประวัติอาชญากร ยังให้เป็นผู้พิพากษาได้เลย แต่องค์กรศาลเอง คือเราจะดูว่าเรามีกฎหมายเรื่องเด็กไว้ ถ้าเด็กและเยาวชนกระทำความผิดก่อน 18 ปี เขามองว่าเป็นการล้างโทษเลย และสามารถเข้ารับราชการเป็นตุลาการยังได้เลย แต่ทำไมพอเราไม่มีนิยามที่ชัดเจนของเรื่องจริยธรรม เลยทำให้กฎหมายหรือเจตนารมณ์ที่ดีกลายเป็นสมบัติส่วนตัว ซึ่งสำหรับประชาชนเองกว่าจะได้สส.มา 1 คน ต้องใช้ประชาชนจำนวนมากถึงจะได้ โดยเฉพาะพรรคการเมืองซึ่งเป็นพรรคที่ประชาชนเลือกที่มีปาร์ตี้ลิตส์เยอะ ๆ แสดงว่าเขาเป็นพรรคของประชาชน” ตนไม่เถียงพันตำรวจเอกทวีว่าเด็กและเยาวชนกระทำความผิดก่อน 18 ปี สามารถสมัคร รับราชการ เป็น ตุลาการได้ เพราะมีกฎหมาย กำหนดไว้เป็นการเฉพาะในการลบล้างโทษ ซึ่งไม่ใช่เฉพาะแต่องค์กรศาล แต่ทุกองค์กรต้องปฏิบัติตาม หลักกฏหมาย ในข้อนี้เพราะ เป็นเรื่อง ที่เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนสากล ของเด็กและเยาวชน จึงไม่เห็นว่าเกี่ยวอะไรกับ เรื่องจริยธรรมของคนที่จะมาเป็นรัฐมนตรี ตามที่พันตำรวจเอกทวีหยิบยกมากล่าวอ้าง แต่สิ่งที่พ.ต.อ.ทวี แสดงความเห็นไว้ สะท้อนถึงตรรกะวิบัติของคนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ซึ่งควรมีความรู้เรื่องกฎหมายดี แต่กลับตีความกฎหมายเข้าข้างตัวเอง เพราะประโยชน์บังตาคิดแต่จะกำจัดอุปสรรคในการเข้าสู่อำนาจของนักการเมืองสีเทา จนหน้ามืดอ้างข้อกฎหมายที่ไม่สามารถเทียบเคียงกันได้

"ความกระสันของนักการเมืองที่จับมือกันจะแก้มาตรฐานจริยธรรมของคนเป็นรัฐมนตรีให้ได้ ตอกย้ำว่า สส.ที่ควรเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทย ยังคงทำหน้าที่ได้แค่เป็นตัวแทนของฝ่ายการเมือง ให้ความสำคัญกับการรักษาประโยชน์ของตัวเองมากกว่าการแก้ปัญหาของประชาชน และขอเตือนไว้เลยว่าเริ่มต้นแบบนี้จะทำให้รัฐบาลมีจุดจบไม่สวย ซึ่งจะโทษใครไม่ได้เลยนอกจากตัวเองรนหาที่เอง" นายเชาว์ ระบุ

อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ระบุด้วยว่า ขอย้ำอีกทีว่าผมไม่เห็นด้วยกับการสุมหัวของนักการเมืองเพื่อแก้ไขกฎหมาย รัฐธรรมนูญ เกี่ยวกับจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพราะเท่าที่มีอยู่ ก็ ดีอยู่แล้ว ไม่ได้ เดือดร้อนใคร นอกจาก คนบางคนที่กำลังมีปัญหาเรื่องความซื่อสัตย์สุจริตและจริยธรรม โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยเคยถูกพิษจริยธรรม เล่นงานจนเป็นเหตุให้นายเศรษฐา ทวีสินต้องกระเด็นจากเก้าอี้ จึงต้องรีบแก้เพราะนายกฯ คนปัจจุบันของพรรคเพื่อไทย มีเรื่องร้องเรียน เกี่ยวกับจริยธรรม ทั้งตนเองและ แต่งตั้ง บุคคลบุคคลอื่น ซึ่ง ไม่แน่อาจ กระเด็นซ้ำรอย อดีตนายกฯ เศรษฐา หรือไม่ ขณะที่ พรรคประชาชน ที่ร่วม ประสานเสียงเล่นด้วย ก็เพราะ ยังมีประเด็นเกี่ยวกับ 44 สส พรรคก้าวไกลที่ถูกยุบพรรค มีผลต่อเนื่องตามมาจากคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ ว่า มีพฤติกรรมล้มล้างและเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข อันอาจเข้าข่ายฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง ด้วยหรือไม่ การจับมือกันเพื่อขอแก้รัฐธรรมนูญในเรื่องจริยธรรมของสองพรรคใหญ่จึงมองเป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกจากประโยชน์ส่วนตน มากกว่าผลประโยชน์ของชาติ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ทวี' เสียงแข็ง! 'ยิ่งลักษณ์' กลับไทย ต้องปฏิบัติตามกฏหมาย ไม่มี 'ทักษิณโมเดล'

ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการเดินทางกลับไทยของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชิน

เพื่อไทยฉวยคดีเขากระโดง สบช่องเตะตัดขาภูมิใจไทย

ปมขัดแย้งกรณีที่ดินเขากระโดง แม้แกนนำรัฐบาลของทั้ง 2 พรรคคือ “ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม แกนนำพรรคเพื่อไทย และ “อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกฯ รมว.มหาดไทย

'อดีตบิ๊กข่าวกรอง' เห็นนักการเมืองเกรงใจกัมพูชาเรื่องเกาะกูด แล้วรู้สึกอเนจอนาถใจ สิ้นไร้ไม้ตอก

นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความว่า อเนจอนาถ จะมีใครรู้สึกเหมือนผม