ช่างมัน 'หมอเหรียญทอง' ไม่วอรี่ ถูกตราหน้า 'ขวาจัดสุดโต่ง'

16 ม.ค.2565 - พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่า เมื่อคืนคุณดนัย เอกมหาสวัสดิ์ สัมภาษณถึงการเป็นคนขวาจัดสุดโต่งของผม ในทำนองว่าสังคมไทยนั้นไม่สบายใจ (ผมไม่เคืองคุณดนัยที่มีคำถามเช่นนั้น เพราะคุณดนัยทำหน้าที่สื่อสารมวลชนนะครับ ผมชอบเสียด้วยซ้ำ ผมจะได้พูดผ่านสื่อชัดๆ) ผมก็แปลกใจลึกๆว่าสังคมไทยนั้นไม่สบายใจอะไรกับการที่ผมมีความชัดเจนในหน้าที่การพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ซึ่งเป็นหน้าที่ของคนไทยตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยกันล่ะครับ

ผมบอกตรงๆว่าผมไม่สนใจสังคมคนโลกสวยเลยนะครับ เพราะมันเป็น 'สังคมของคนเมืองในกรุงศรีอยุธยาก่อนกรุงแตกครั้งที่ 2' เป็นสังคมของคนที่ไม่พร้อมปกป้องความมั่นคงของชาติ...ผมเป็นคนที่มีค่านิยม 'การเป็นนักรบ' ต่างหากครับ ถึงแม้ผมจะเป็นแค่หมอแก่ๆก็ตาม

ผมมีชีวิตที่สุขสบายจะตายไป จะเห็นแก่ประโยชน์สุขส่วนตัว ใช้ชีวิตโลกสวยอย่างไรก็ได้ แต่เพราะสถานการณ์บ้านเมือง สถานการณ์การคุกคามบั่นทอนสถาบันพระมหากษัตริย์ ผมจึงไม่นิ่งดูดาย ไม่เพิกเฉย และแสดงความชัดเจนร่วมกับประชาชนที่แสดงออกถึงความจงรักภักดีที่พร้อมปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างตาต่อตา ฟันต่อฟัน ด้วยคนเท่านั้น

ผมเคยโพสต์อวดร่ำอวดรวยน่าหมั่นไส้ว่า เมื่อผมลาออกจากราชการแล้ว ผมจะต้องไปพักผ่อนที่บ้านพักตากอากาศของพ่อแม่ริมทะเลที่ เมืองเพิร์ธ รัฐออสเตรเลียตะวันตก ทุกๆ 6 เดือน จนเมื่อผมได้พบเห็นการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพจาบจ้วงพระเจ้าอยู่หัวฯและพระบรมวงศานุวงศ์ แล้วทำให้ผมรู้สึกว่า "ผมเห็นแก่ตัว ทอดทิ้งพระเจ้าแผ่นดิน เป็นการตระบัดสัตย์ต่อองค์จอมทัพ" นับจากวันนั้น ผมเลิกเดินทางไปพักผ่อนใช้ชีวิตสุขนิยมอีกเลย

จากวันนั้นถึงวันนี้ ชีวิตผมไม่สงบและต้องเผชิญความขัดแย้งต่างๆนานา บางครั้งผมก็รู้สึกอยากเห็นแก่ตัว กลับไปใช้ชีวิตสุขนิยมโลกสวยมากๆๆๆๆของผมอีก ...โคตรมีความสุขมากๆ และน่าอิจฉาสำหรับสังคมคนโลกสวยเลยนะครับ

แต่เพราะจะไม่ทอดทิ้งพระเจ้าแผ่นดินอีกต่อไปแล้ว ก็ทำให้การสละความสุขส่วนตัวของผมก็ถือเป็นความภาคภูมิใจต่อตนเองและวงศ์ตระกูล ใครจะรังเกียจ 'คนขวาจัดสุดโต่ง'อย่างผม ก็ชั่งหัวมัน คนขวาจัดสุดโต่งอย่างผมนี่แหละที่จะปกป้องชาติราชบัลลังได้จริง ไม่ดีแต่พูดหรือสร้างวาทกรรมสวยหรู แต่ไม่กล้าจริง

ผมไม่กลัวคนเกลียด ไม่แสวงหาคนรัก ไม่เอาใจใคร ไม่สนใจว่าสังคมจะตัดสินผมอย่างไร ผมสนใจอย่างเดียว คือ ผมทำดีต่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชนแล้วหรือไม่ ถ้าผม'ทำดี มันก็ดีแล้ว' ตามที่ท่านพุทธทาสสอน ...ใครจะรังเกียจผม ก็ 'ชั่งหัวมัน' ครับ

30 ม.ค.65 หากการเลือกตั้งซ่อม สส.หลักสี่-จตุจักร ผู้สมัคร สส หมายเลข 1 จากพรรคไทยภักดีพ่ายแพ้...ผมก็ไม่รู้สึกเสียใจ เพราะผมถือว่าผมได้ส่งเสริมคนดีแล้ว แต่เมื่อไม่สำเร็จก็ 'ชั่งหัวมัน' นะจ๊ะ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เดชอิศม์' เปิดใจเว้นวรรคการเมือง ไม่ลงสมัครเลือกตั้ง ไม่เป็นสมาชิกพรรค

นายเดชอิศม์ ขาวทอง อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ และอดีต สส.สงขลา เขต 5 โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า เปิดใจนายกชาย "ผมขอหยุด เพื่อประกาศให้คนไทยเห็นว่าผมไม่เห็นด้วยกับระบบการเมืองที่บิดเบี้ยวในขณะนี้"

เพื่อไทยแปดริ้ว ดัน ‘โจ๊ะ’ พันธุ์พงศ์ ชิง สส.เขต 2

สนามเลือกตั้ง เพื่อไทยแปดริ้ว “เฮียเน้า” สมชัย อัศวชัยโสภณ ดันลูกชาย “โจ๊ะ” พันธุ์พงศ์ ชิงพื้นที่ เขต 2 จ.ฉะเชิงเทรา อ้อนคนในพื้นที่ขอชนะใจด้วยการทำงาน เชื่อได้รับความไว้วางใจจากประชาชน ไม่ประมาทคู่แข่ง