'เสธ.นิด' จับตา 'สหายใหญ่'นั่ง รมว.กห. คลื่นใต้น้ำรุนแรง หวั่นพรบ.ต้านการรัฐประหารเป็นอันตราย การรัฐประหารครั้งต่อไปจะรุนแรงและเสียเลือดเนื้อ แนะทำงานตามรัฐธรรมนูญ อย่าล้ำเส้นหรืออย่าทำตัวเป็นตัวควบคุม Regulator ก็แล้วกัน
4ก.ย.2567- พลอากาศโทวัชระ ฤทธาคนี หรือ เสธ.นิด อดีตนายทหารนักบินกองทัพอากาศ โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก ว่า
“แม้ว่าเสี่ยอ้วน ภูมิธรรม เวชยชัย” นักยุทธศาสตร์ระบอบทักษิณ สถาปนิกปฏิญญาฟินแลนด์ ผู้เคยใช้นามจัดตั้งแห่งพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ที่มีชื่อจัดตั้งว่า “สหายใหญ่” ในยุค ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙ จะมาคุ้มกองทัพในตำแหน่ง รมว.กห.ก็ตาม
แม้ว่านายภูมิธรรม ถือว่าเป็นนักยุทธศาสตร์การเมืองชั้นเทพ มีประสบการณ์สูง เพราะเคยเข้าป่าร่วมกับ พคท. ๓ ปี เคยเคลื่อนไหวและปฏิบัติการในเขตอีสานใต้ รวมทั้งเป็นคนสนิทแกนนำ พคท.ในฐานะคนขับรถและร่วมกันเคลื่อนไหวทางการเมืองของ พคท.ในลาว
มีความชำนาญยุทธวิธีทางทหาร การรบแบบกองโจร รู้แนวยุทธศาสตร์กองทัพไทยดี เป็นนักเคลื่อนไหวระดับยุทธศาสตร์ตั้งแต่เป็นนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รู้จักเล่ห์กลการเมืองไทยดีมากๆ
เมื่อเป็นนักเคลื่อนไหวทางการเมืองและรู้สึกกับทักษิณสมัยที่ นายทักษิณเป็นนายเวรนายปรีดา รมว.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เขาก็รู้จักทหารเพื่อนๆ นายทักษิณเป็นอย่างดีหลายคน จนทักษิณชวนตั้งพรรคไทยรักไทยเขาก็เป็นสถาปนิกสร้างพรรคคนหนึ่งและเมื่อรัฐมนตรีก็รู้จัก ผบ.เหล่าทัพหลายคนและที่เป็นองคมนตรีในปัจจุบัน
แต่จะควบคุมแบบเบ็ดเสร็จค่อนข้างยากเพราะตอนนี้ “ระบอบทักษิณ” ไม่มีทหารในราชการเป็นฐานหนุนแล้ว ไม่เหมือนช่วงรัฐบาลทักษิณต่อรัฐบาลนางยิ่งลักษณ์ ก็มี นายทหารเพื่อนรุ่นนักเรียนเตรียมทหารรุ่น ๑๐ คุมกำลังและมีรุ่นต่อๆ มาอีกเพียง รุ่น ๒ - ๓ รุ่น ที่ให้การสนับสนุนเพราะ “ลาภยศและตำแหน่งในรัฐวิสาหกิจ”
ทหารส่วนใหญ่รุ่นปัจจุบัน “ไม่มีส่วนใดที่เกี่ยวข้องกับระบอบทักษิณหรือมีก็น้อยมาก”
พรบ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหมในเชิงนิตินัย De jure รมว.กห.ก็ควบคุมไม่ได้ในเชิงพฤตินัย De facto
ดังนั้นการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารไม่เป็นไปตามครรลอง ย่อมส่งผลกระทบถึงรัฐบาลหาก “แหกคอก”
(ยกเว้น) หากมี นายทหารที่ลัดเส้นทางเพราะเลียก้นระบอบทักษิณ หรือตัวทักษิณหรือเสี่ยอ้วน อาจจะถูกต่อต้านไม่ได้รับความร่วมมือจากทหารในบังคับบัญชาเท่าที่ควรหรืองานดำเนินการช้าโดยเฉพาะในเรื่องการซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์แต่กองทัพก็สามารถดำรงภารกิจได้ตามอัตภาพเพราะเป็นหน้าที่ (นักการเมืองบีบทหารอาชีพไม่ได้ง่ายๆ ครับ)
ขั้นตอนการโยกย้ายมีขั้นตอนมากพอสมควร “คลื่นใต้น้ำในกองทัพนั้นรุนแรงเมื่อทุกเหล่าทัพร่วมมือกัน”
พรบ.ต้านการรัฐประหารนั้นเป็นอันตรายอย่างยิ่งเพราะว่า “การรัฐประหาร@ในครั้งต่อไปหากมี พรบ.นี้ จะรุนแรงและเสียเลือดเนื้ออย่างแน่นอน” เพราะฝ่ายรัฐประหารจะปฏิบัติการอย่างเฉียบขาดรุนแรง
ในอดีตการรัฐประหารมีการเจรจาระหว่างทหารกับทหารเหตุการณ์จึงสงบลงและฝ่ายที่ก่อรัฐประหารไม่สำเร็จต้องหนีออกนอกประเทศไปก่อนเสมอ ตกระกำลำบากพอสมควรจึงกลับเข้ามารับโทษ
การรัฐประหารเป็นการปฏิบัติการอย่างทางทหารหรือไม่ใช่ลักษณะทหารอย่างฉับพลันโดยหน่วยใดหน่วยหนึ่งและเมื่อปฏิบัติการแล้วจึงมีผู้ร่วมด้วยจึงสำเร็จ ตามหลักการจู่โจม (Surprise Principle) โดยเฉพาะในยุคดิจิตอล การสื่อสารรวดเร็วมาก
กองทัพมีแผนหลายแผนที่เกี่ยวข้องกับการสั่งการทางทหาร เพราะแผน คือ คำสั่ง เมื่อมีการสั่งการทุกหน่วยก็สามารถปฏิบัติตาม แผนนั้นๆ ได้ทันที
ในอดีตการรัฐประหารล้มเหลวเพราะ ๑. กองทัพขาดเอกภาพในเรื่องความคิดและขัดแย้งในการแบ่งมอบอำนาจ ๒. กองทัพอากาศไม่ร่วมมือด้วยเพราะขัดต่อแนวคิดของทหารอากาศ (กบฏพล.อ.ฉลาด หิรัญศิริ กบฏเมษายน พล.ต.มนูญ รูปขจร (ในขณะนั้น) ทหารอากาศไม่เอาด้วย (ไม่ใช่ใครจะขับเครื่องบินได้นะครับ!)
ในปัจจุบันทหารมีเอกภาพมากที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองกับทหาร
นายทหารมีได้ “โง่เง่าเต่าตุ่นอย่างที่คนหลายคนคิด แต่ก็เรียนขั้นมหาบัณฑิตกันทุกคน (หลักสูตร รร.เสนาธิการนั้นเทียบเท่าปริญญาโทอยู่แล้ว) และมีไม่น้อยที่จบปริญญาโททางพลเรือน
ดังนั้นทหารในปัจจุบัน ส่วนใหญ่เป็นทหารอาชีพ มีอุดมการณ์และเป้าหมายชีวิตที่ทุกคนยอมรับกันทุกคน (จึงซื้อตัวยาก)
ดังนั้นจึงขอเตือนว่า “คุณทำงานตามรัฐธรรมนูญ ทำตามที่มี พรบ.กำหนด หรือทำตามนโยบายที่ประกาศในสภาผู้แทนราษฏร อย่างล้ำเส้นหรืออย่าทำตัวเป็นตัวควบคุม Regulator ก็แล้วกัน”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ภูมิธรรม-ทวี' ระทึก! ศาลรัฐธรรมนูญนัดวินิจฉัยคดี 21 ม.ค.2569
ด่วน! ศาลรัฐธรรมนูญ ไต่สวน พยาน 6 ปากเสร็จ นัดยื่นคำแถลงปิดคดี 6 ม.ค. ก่อนแถลงคำวินิจฉัย 21 ม.ค.
'ภูมิธรรม' มั่นใจแจงศาลรัฐธรรมนูญได้ทุกเรื่องปมให้อำนาจแทรกแซงคดีฮั้ว สว.
ศาลรัฐธรรมนูญนัดไต่สวนพยานและผู้เกี่ยวข้อง คดีสถานะ อดีตรองนายกฯและอดีตรัฐมนตรียุติธรรม แทรกแซงคดีฮั้วเลือก สว. 'ภูมิธรรม' มั่นใจชี้แจงได้ทุกประเด็น
จบไม่สวยสักคน 'จตุพร' เตือนการเมืองแบบเครือญาติ 'ชินดาวงศ์' มีบทเรียนอย่างที่เห็น
'จตุพร' เตือนการเมืองแบบวงศ์วานเครือญาติ 'ชินดาวงศ์' มีบทเรียน รู้ผลลัพธ์จบไม่สวย มาแบบไหน ไปแบบนั้น ลั่นประเทศไม่ใช่ห้องทดลองการบริหารบ้านเมือง
ศาลรธน.ยังไม่นัดวินิจฉัยสถานะ 'ภูมิธรรม-ทวี' ปมแทรกแซงคดีฮั้วสว. รอความเห็นพยาน
ศาลรัฐธรรมนูญได้มีการพิจารณาคำร้องที่ประธานวุฒิสภาส่งคำร้องของสมาชิกวุฒิสภาที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 42
83 ปี พคท. กับบทเรียนของสังคมไทย:สังคมนิยมอัตลักษณ์ไทยทางออกของสังคมไทย
วันที่ 1 ธันวาคม 2568 วาระครบรอบ 83 ปี การก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) ประวัติศาสตร์การเมืองไทยได้หวนกลับมาอยู่ในพื้นที่สนทนาอีกครั้ง
ลุ้นกันยาวๆ 24 ธ.ค.ศาล รธน.นัดไต่สวนพยานคดี 'ภูมิธรรม-ทวี' จุ้นคดีฮั้ว สว.
ศาล รธน.นัดไต่สวนพยานคดีสถานะ 'ภูมิธรรม-ทวี' จุ้นคดีฮั้วเลือก สว. 24ธ.ค.นี้ พร้อมไม่อนุญาต 'สราวุธ' ถอนตัวจากการพิจารณาคดี

