28 ส.ค.2567 - จากกรณีที่พรรคเพื่อไทยได้เทียบเชิญพรรคประชาธิปัตย์อย่างเป็นทางการเพื่อเข้าร่วมรัฐบาล นั้น นายประพฤติ ฉัตรประภาชัย หรืออาจารย์อุ๋ย นักวิชาการด้านกฎหมายและอดีตผู้สมัคร สส. กรุงเทพมหานคร เขตบางกะปิ พรรคประชาธิปัตย์ ได้แสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊กว่า
"จากกรณีที่พรรคเพื่อไทยได้เทียบเชิญพรรคประชาธิปัตย์อย่างเป็นทางการเพื่อเข้าร่วมรัฐบาล สุดท้ายแล้วต้องรอมติจากกรรมการบริหารของพรรคประชาธิปัตย์ ว่าจะตอบรับคำเชิญหรือไม่ ในฐานะนักกฎหมายและสมาชิกพรรค ผมมีประเด็นว่าหากทางกรรมการบริหารมีมติเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย น่าจะเป็นมติที่ขัดกับข้อบังคับพรรคประชาธิปัตย์เสียเอง ด้วยเหตุผลดังนี้
1. ข้อบังคับพรรคประชาธิปัตย์ พ.ศ. 2567 หมวด 7 ว่าด้วยมาตรฐานทางจริยธรรมของกรรมการบริหารพรรคและสมาชิก ข้อ 26 กำหนดว่า กรรมการบริหารพรรคและสมาชิกต้องมีอุดมการณ์ในการทํางานด้วยความรับผิดชอบ ซื่อสัตย์สุจริต และเสียสละ โดยยึดถือและปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสําคัญ ไม่วางตนอยู่ภายใต้อิทธิพลทางการเงิน ผลประโยชน์หรือข้อต่อรองใดๆ เพื่อบุคคลหรือองค์กรใด
2. นายกแพทองธารมีประเด็นถูกร้องเรียนจริยธรรมเรื่องที่เคยถือหุ้นอัลไพน์ ธรณีสงฆ์ และเรื่องข้อสอบเอ็นทรานส์
3. คุณทักษิณซึ่งแสดงออกชัดเจนว่าเป็นเจ้าของพรรคเพื่อไทย มีประเด็นเรื่องปกปิดอาการป่วย ไม่ยอมเข้าเรือนจำ แต่งชุดขาวโดยไม่มีสิทธิ์ เป็นผู้ต้องหาคดี 112 และ ถูกร้องเรียนเรื่องการครอบงําพรรคการเมืองซึ่งตนไม่ได้เป็นสมาชิกอันเป็นความผิดตาม พรป. พรรคการเมือง
4. คําวินิจฉัยศาล รธน วินิจฉัยว่า การที่นายกเศรษฐา แต่งตั้งคุณพิชิต ที่ไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ไปเป็นรัฐมนตรี จึงถือว่าคุณเศรษฐาก็เป็นคนที่ “ไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์” ไปด้วย โดยคำวินิจฉัยนี้ มีผลผูกพันทุกองค์กร
5. ดังนั้น หากกรรมการบริหารของพรรคประชาธิปัตย์ มีมติให้พรรคเข้าร่วมกับรัฐบาลที่นําโดยบุคคลที่มีข้อสงสัยเรื่อง ความซื่อสัตย์สุจริต จะถือว่า กกบห ได้ดําเนินกิจกรรมพรรคด้วยอุดมการณ์ “ซื่อสัตย์สุจริต” ตามข้อ 26 ของข้อบังคับหรือไม่ ?
.
6. ข้อบังคับพรรคประชาธิปัตย์ ข้อ 27 วรรคท้าย ยังกำหนดอีกว่า ให้นํามาตรฐานทางจริยธรรมที่ใช้บังคับแก่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมาบังคับใช้กับกรรมการบริหารพรรคโดยอนุโลม ซึ่งกำหนดห้ามคบหาสมาคมกับคู่กรณี ผู้ประพฤติผิดกฎหมาย ผู้มีอิทธิพล หรือผู้มีความประพฤติ หรือผู้มีชื่อเสียงในทางเสื่อมเสีย อันอาจกระทบกระเทือนต่อความเชื่อถือศรัทธาของประชาชนในการปฏิบัติหน้าที่ อีกด้วย ดังนั้น การร่วมรัฐบาลที่นำโดยบุคคลซึ่งมีข้อสงสัยเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต จะถือว่าขัดกับหลักข้อนี้หรือไม่
ผมจึงขอฝากให้กรรมการบริหารพรรคทุกท่าน นำไปพิจารณาให้ถ้วนถี่ ก่อนมีมติใด ๆ ด้วยความปรารถนาดี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'บัญญัติ' รับได้ฉายา 'ประชาธิเป๋' บอกอีกสักพักก็แข็งแรงเดินตรงมากขึ้น
นายบัญญัติ บรรทัดฐาน สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงฉายาที่สื่อรัฐสภา ตั้งให้กับสภาผู้แทนราษฎรว่า “เหลี่ยม(จน)ชิน ว่าตรงกับที่ตนวิเคราะห์แล้วว่ารัฐบาลนี้ก็อยู่ด้วยการช่วงชิงกันมาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว
กมธ.คุ้มครองผู้บริโภครับลูกเร่งผลักดัน 3 กม.ของภาคประชาชน
'กมธ.คุ้มครองผู้บริโภค' รับหนังสือแก้ไขกฎหมาย 3 ฉบับ เร่งสภาผลักดัน แก้ปัญหาสินค้าไม่ตรงปก - ติดฉลาก -ให้ข้อมูลโภชนาการไม่สมบูรณ์
มีแม้วไม่มีเรา! วัดใจจุดยืน 'พรรคส้ม' หลังทักษิณขีดเส้นแบ่งข้างทุกเวทีแล้ว
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า "พรรคส้มกล้าไหม? มีแม้วไม่มีเรา!
'อิ๊งค์' เปิดตัว 9 ผู้สมัครนายก อบจ. ดีเอ็นเอเพื่อไทยชัด นามสกุลเดียวกับ สส.เพียบ
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรค และ สส.สระแก้ว , นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
พ่อนายกฯ ลั่นพรรคร่วมรัฐบาลต้องอยู่ด้วยกันจนครบเทอม
นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการประเมินสถานการณ์การเมืองในปี 2568 ว่า การเมืองคงไม่มีอะไร ยังเหมือนเดิม พรรคร่วมรัฐบาลก็เหมือนเดิม การที่ไม่เห็นด้วยกับอะไรกันบ้าง ก็เป็น
'ทักษิณ' แจงไปตีกอล์ฟ ไม่มีอะไรต้องเคลียร์ 'อนุทิน' เป็นเรื่องธรรมดาลิ้นกับฟัน
นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีปรากฎภาพตีกอล์ฟร่วมกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายสารัชถ์ รัตนาวะดี