ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด 3 บิ๊กนักการเมืองท้องถิ่น ทุจริตต่อหน้าที่

27 ส.ค.2567 - นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แถลงว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลกรณีกล่าวหานายมงคล เพ็งสมภาร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลผาตั้ง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย เรียกรับเงินค่าตอบแทนการต่อสัญญาจ้างจากพนักงานจ้าง จำนวน 18 ราย โดยข้อเท็จจริงจากการไต่สวนปรากฏว่า ในระหว่างปี พ.ศ. 2555 - 2558นายมงคล ซึ่งมีอำนาจในการสั่งอนุญาต อนุมัติ ให้ต่อสัญญาจ้างของพนักงานจ้างองค์การบริหารส่วนตำบลผาตั้งได้เรียกรับเงินเป็นค่าตอบแทนในการต่อสัญญาจ้างจากพนักงานจ้าง จำนวน 18 รายๆ ละ 20,000 – 50,000 บาท การกระทำของนายมงคลจึงเป็นการเรียกรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการอย่างใดในตำแหน่ง ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่

คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้ว มีมติดังนี้ การกระทำของนายมงคล เพ็งสมภาร มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 91 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปรามปรามการทุจริต พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91และมีมูลความผิดตามพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 92 ให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี และส่งสำนวนการไต่สวนและเอกสารหลักฐาน พร้อมความเห็นไปยังผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอน เพื่อพิจารณาดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจตามฐานความผิดดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 91 (1) (2) และมาตรา 98 แล้วแต่กรณี

อีกกรณี คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลกรณีกล่าวหานายอนันต์ คำชัยวงค์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลหนองจ๊อม อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ และนางสุทิศา ทัศเกตุ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งประธานสภาเทศบาลตําบลหนองจ๊อมนำรถยนต์ส่วนกลางของเทศบาลตำบลหนองจ๊อมไปใช้ส่วนตัว โดยข้อเท็จจริงจากการไต่สวนปรากฏว่า เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2561 นายอนันต์ ได้ขับรถยนต์ส่วนกลาง หมายเลขทะเบียน ขง 2946 เชียงใหม่ ไปซื้อเครื่องไม้เฟอร์นิเจอร์ไม้สักเพื่อใช้เป็นการส่วนตัวที่อำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่ และเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2561ได้ให้บุคคลภายนอกขับรถตู้ส่วนกลาง หมายเลขทะเบียน นง 4104 เชียงใหม่ ไปงานศพที่อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่

ส่วนนางสุทิศาได้นำกุญแจรถตู้ส่วนกลาง หมายเลขทะเบียน นง 4104 เชียงใหม่ให้บุคคลภายนอกขับพากลุ่มสาวรำวงไปร่วมงานประกวดแข่งขันรำวงย้อนยุคที่ศูนย์การค้าบิ๊กซี อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2561 โดยการใช้รถยนต์ดังกล่าว ซึ่งนายอนันต์และนางสุทิศาไม่ได้ขออนุญาตใช้รถและไม่ได้ลงบันทึกการใช้รถตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการใช้รถและรักษารถยนต์ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2548 อีกทั้ง เทศบาลตำบลหนองจ๊อมไม่มีระเบียบใด กำหนดให้ผู้บริหารหรือพนักงานเทศบาลนำรถส่วนกลางเดินทางไปงานหรือกิจกรรมที่มิได้เป็นไปเพื่อประโยชน์ของทางราชการแต่อย่างใด

คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วมีมติดังนี้ 1. การกระทำของนายอนันต์ มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และมาตรา 157 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172) และตามพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ.2496 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 73

2.การกระทำของนางสุทิศา มีมูลความผิดทางอาญา ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123 ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 171 และตามพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 73 ให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัยไปยัง อัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี และส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน และคำวินิจฉัยไปยังผู้บังคับบัญชา เพื่อดำเนินการทางวินัย ตามฐานความผิดดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 91 (1) (2) และมาตรา 98 แล้วแต่กรณีต่อไปและให้แจ้งผู้บังคับบัญชาหรือผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอน ดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจเพื่อให้มีการชดใช้ค่าเสียหาย ตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539รวมทั้ง ให้แจ้งผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งทราบด้วย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ป.ป.ช. ฟัน อดีตนายกอบต.โพธิ์ศรีสว่าง เรียกรับเงิน 1.9 แสนบาท แลกเข้าทำงานมิชอบ

นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แถลงว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดกรณีกล่าวหานายรังสรรค์ บุญมี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลโพธิ์ศรีสว่าง อำเภอโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด ติดต่อเรียกรับเงินจากบุคคลที่ประสงค์จะเข้าทำงานที่องค์การบริหารส่วนตำบลโพธิ์ศรีสว่างโดยมิชอบ

ป.ป.ช. ฟัน '2 บิ๊กนักการเมืองท้องถิ่น' ร่ำรวยผิดปกติ

นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แถลงว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด นางเรณู พลเสน

มหากาพย์ส่วยน้ำมันเถื่อน! ป.ป.ช. ฟัน 'บุญสืบ' อดีต ผบก.ตำรวจน้ำ รวยผิดปกติ

นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แถลงว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิด นายบุญสืบ ไพรเถื่อน เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้บังคับการตำรวจน้ำ กองบังคับการตำรวจน้ำกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง

ป.ป.ช. ชี้มูล 2 ตำรวจปราบยาเสพติด ร่ำรวยผิดปกติ เสนอสั่งไล่ออก-ฟ้องยึดทรัพย์

นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แถลงว่า คณะกรรมการป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิด พ.ต.อ.นพดล นิลมานนท์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองผู้บังคับการ

ป.ป.ช.ลุยสอบคดีจริยธรรม 'เศรษฐา' เตรียมคัดคำวินิจฉัยศาล รธน.

นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย