ขยับแล้ว! 'ภูมิธรรม' เรียกประชุมฉุกเฉิน สั่ง 10 กระทรวง เกาะติดน้ำท่วมภาคเหนือ

"ภูมิธรรม" สั่งตั้งวอร์รูมทันที เน้นการใช้ข้อมูลแม่นยำ แก้ไขปัญหาน้ำท่วม ป้องกันชีวิตและทรัพย์สินประชาชน พร้อมสั่ง พณ. คุมราคาสินค้า ต้องไม่แพง-ไม่ขาดแคลน ห้ามซ้ำเติมความเดือดร้อนชาวบ้าน

22 ส.ค.2567 - เวลา 13.00 น. ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ ชั้น 3 อาคาร 99 ปี อาคารหม่อมหลวงชูชาติ กำภู กรมชลประทาน (สามเสน) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ติดตามสถานการณ์น้ำ โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย รอ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รมช.เกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุม

นายภูมิธรรม กล่าวว่า วันนี้เป็นการประชุมฉุกเฉิน สืบเนื่องจากภาคเหนือเกิดอุทกภัย ฝนที่ตกลงมาอยู่ในจุดที่น่าเป็นห่วง ยืนยันว่าไม่ได้นิ่งนอนใจ ตั้งแต่เมื่อคืนได้มีการดำเนินการทำงานและสั่งการไปหมดแล้ว การประชุมในครั้งนี้เพื่อความไม่ประมาท โดยเฉพาะอย่างยิ่ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งยังไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ มีความเป็นห่วงและได้กำชับช่วยดูแลพี่น้องประชาชนที่กำลังประสบภัย

นายภูมิธรรม กล่าวว่า วันนี้ขอให้มุ่งไปยังภาคเหนือในจุดที่น้ำท่วม เช่น จังหวัดเชียงราย แพร่ น่าน พะเยา เป็นต้น เพื่อหาแนวทางคลี่คลายปัญหาโดยเร็ว โดยได้มอบนโยบายและสั่งการไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ 1. กระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัดให้ดำเนินการจัดตั้งหน่วยศูนย์ปฏิบัติการป้องกันฯ โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นหัวหน้าศูนย์ฯ ในการปฏิบัติการของจังหวัดนั้น ๆ รวมทั้งให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นำเครื่องมือเข้าไปช่วยระบายน้ำเร็วที่สุด ส่วนกรมทรัพยากรน้ำ ให้เตรียมข้อมูลที่ชัดเจน ตรงไปตรงมา รวมทั้งจัดรถโมบายเข้าไปยังจุดน้ำท่วมหนัก จัดทำเชื่อมโยงข้อมูลไปยังหน่วยงานราชการต่าง ๆ และส่วนกลาง

นายภูมิธรรม กล่าวว่า 2. กระทรวงศึกษาธิการ ให้พิจารณาปิดโรงเรียนที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงการปิดการเรียนการสอนชั่วคราว โดยให้ดูตามสถานการณ์ตามจริงในพื้นที่ เน้นความปลอดภัยของนักเรียนเป็นสำคัญ 3. กระทรวงมหาดไทย ให้ประสานขอความร่วมมือจากกองทัพภาคที่ 3 นำเครื่องมือ และกำลังพล พร้อมช่วยเหลือประชาชน 4. กรมชลประทาน ให้ตรวจสอบประตูระบายน้ำต่าง ๆ ในทุกพื้นที่ตั้งแต่พื้นที่ด้านบน-ล่าง หากพบปัญหาให้รีบแก้ไข

นายภูมิธรรม กล่าวว่า 5. สทนช. ให้นำโดรน รถโมบาย สำรวจข้อเท็จจริง เพื่อใช้ประเมินข้อมูลเหตุที่มีความรุนแรงวิกฤติ ให้ได้ตรงจุดที่สุด และสามารถแก้ไขปัญหาตรงนั้นได้อย่างดีและเร็วที่สุด 6. กระทรวงคมนาคมให้ตรวจดูเส้นทาง ถนนที่กั้นขวางทางน้ำหลาก ให้พิจารณาเจาะถนนปล่อยน้ำไหลต่อไปได้ และขอให้แจ้งการดำเนินการให้หมู่บ้านที่อยู่ปลายน้ำรับรู้สถานการณ์ด้วย 7. กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดูตามเงื่อนไขตามแนวสันป่าอยู่แล้ว และให้เร่งเข้าดำเนินการช่วยเหลือประชาชน

นายภูมิธรรม กล่าวว่า 8. กระทรวงสาธารณสุข ขอให้ลงพื้นที่เข้าไปดูแลประชาชน ที่อาจได้รับความเจ็บป่วย ต้องการความช่วยเหลือสุขภาพและสาธารณสุข 9. กระทรวงพาณิชย์ ให้ดูแลเรื่องราคาอาหาร ข้าวของต่าง ๆ ไม่ให้มีราคาแพง ผู้บริโภคต้องมีของกินของใช้ตลอดเวลา และ 10. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จัดตั้งวอร์รูมแก้ไขปัญหาน้ำท่วมทันที และติดตามช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรในพื้นที่ด้วย

“ขอให้นึกถึงประชาชนเป็นหลักและให้ความดูแลทันที โดยในส่วนของถุงยังชีพนั้น สำนักปลัดนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี ปภ. ได้มีการเตรียมการบางส่วนแล้ว ทุกหน่วยต้องทำงานบนข้อมูลเดียวกันร่วมกันดูแลพี่น้องประชาชน” นายภูมิธรรม กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อุตุฯ เตือนอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิลดลงอีก ใต้ฝนฟ้าคะนอง 10-20%

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้าว่า ประเทศไทยมีอากาศเย็นถึงหนาว โดยประเทศไทยตอนบนและภาคใต้ตอนบนจะมีอุณหภูมิลดลง กับมีลมแรง สำหรับบริเวณยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด

พยากรณ์อากาศ 15 วันล่วงหน้า ลมหนาวพัดแรง ยาวถึงปลายเดือน

กรมอุตุนิยมวิทยา อัปเดตผลการพยากรณ์ฝนสะสมรายวัน (ทุกๆ 24 ชม. : (นับตั้งแต่ 07.00 น. ถึง 07.00 น.วันรุ่งขึ้น) และลมที่ระดับ 925hPa (750 ม.) 15 วันล่วงหน้า ระหว่าง 10 - 24 ม.ค. 68

ประกาศกรมอุตุฯ ฉบับ 5 อากาศหนาวลดฮวบ 3-7 องศา คลื่นลมแรงสูง 4 เมตร

นางสาวสุกันยาณี ยะวิญชาญ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทย และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทยรวมทั้งทะเลอันดามัน (มีผลกระทบจนถึงวันที่ 13 มกราคม 2568) ฉบับที่ 5

อุตุฯ เตือนมวลอากาศเย็นระลอกใหม่แผ่ปกคลุม อุณหภูมิลด 1-3 องศา ใต้ฝนฟ้าคะนอง

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์ลักษณะอากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้าว่า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีน ได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศลาวตอนบนและเวียดนามตอนบนแล้ว