'ศ.ธงทอง' เล่าการทำงานในยุคอดีตนายกฯ เศรษฐา

15 ส.ค.2567 - ศ.ธงทอง จันทรางศุ อดีตที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กพร้อมรูปภาพระบุว่า เจ็ดแปดเดือนที่ผ่านมา ผมได้รับมอบหมายจากอดีตนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน ให้เป็นประธานคณะกรรมการชุดหนึ่งมีหน้าที่พิจารณาปรับปรุงแก้ไขกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการประกอบธุรกิจ โดยผมมีอิสระเต็มที่ที่จะเลือกผู้ทรงคุณวุฒิทั้งหลายมาเป็นกรรมการ รวมถึงการเลือกกำหนดหน่วยงานที่จะมีหัวหน้าหน่วยงานมาร่วมเป็นกรรมการด้วย ถึงแม้เป็นเวลาไม่นานนัก และยังมีงานค้างอีกหลายชิ้น แต่เพียงเท่าที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ ผมตรวจการบ้านตัวเองแล้วอยากให้คะแนนว่า ไม่ขี้ริ้วครับ

ขึ้นต้นตั้งแต่การประชุมครั้งแรกของเรา เราระดมสมองและมีความเห็นร่วมกันว่าปัญหากฎหมายที่ต้องแก้ไขปรับปรุง มีทั้งระดับที่เป็นพระราชบัญญัติ และที่เป็นอนุบัญญัติย่อยกว่านั้น หรือแม้แต่เป็นแนวปฏิบัติที่เคยทำต่อเนื่องกันมาบ้าง เป็นมติคณะรัฐมนตรีบ้าง วิธีการแก้ไขก็ต้องใช้กลไกต่างกัน สิ่งที่เราเห็นพ้องกันอีกเรื่องหนึ่งคือ ปัญหาที่มีมากมายเป็นท้าวแสนปมนั้น ในเวลาที่มีอยู่จำกัด เราน่าจะเลือกเฉพาะประเด็นที่สามารถขับเคลื่อนได้เร็วแต่ส่งผลในวงกว้างมาทำงาน น่าจะดีที่สุด

ประเด็นที่เราหยิบขึ้นมาหัวข้อสำหรับทำงาน สามารถแบ่งย่อยเป็นสี่กลุ่มเรื่อง กลุ่มที่หนึ่งว่าด้วยเรื่องของการทำงาน การเข้าเมืองและเรื่องที่เกี่ยวข้องของแรงงานต่างด้าว ทั้งในระดับที่เป็นมันสมองซึ่งบ้านเราขาดแคลน ระดับกลางและระดับแรงงาน กลุ่มที่สองว่าด้วยธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร และการถ่ายทำภาพยนตร์ของคณะจากต่างประเทศ กลุ่มที่สามว่าด้วยเรื่องสินค้าผ่านแดน และสินค้าถ่ายลำ และกลุ่มที่สี่ซึ่งเป็นกลุ่มสุดท้ายเป็นเรื่องของพลังงานสะอาด และประเด็นเรื่องพลังงานทั้งหลาย แต่ละกลุ่มมีคณะอนุกรรมการเป็นผู้รับผิดชอบช่วยกันคิด ช่วยกันทำงาน

บางครั้งก็มีโจทย์หรือคำถามตรงมาจากนายกรัฐมนตรี เช่น ทำอย่างไรการส่งสินค้าผ่านแดนทั้งขาเข้าขาออกที่ด่านจังหวัดหนองคายซึ่งเป็นเส้นทางสำคัญเชื่อมต่อไปลาวและประเทศจีน เป็นประตูการค้าสำคัญของบ้านเราจะมีความคล่องตัวมากขึ้น โดยมีหน่วยร่วมปฏิบัติหลายกระทรวงหลายกรม เรื่องนี้ผมได้เดินทางไปพูดคุยกับผู้เกี่ยวข้องที่หนองคาย แล้วกลับมาคุยกับนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงทั้งหลาย การแก้ไขระบบระยะแรกสามารถทำงานได้สิ้นเดือนกันยายนนี้ และระบบใหญ่ที่มีความสัมพันธ์กันเต็มรูปจะทำงานได้ภายในสิ้นปีนี้

ตัวอย่างอีกเรื่องหนึ่งคือ การทำงานของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ซึ่งได้รับเสียงบ่นพึมพำมาช้านานเกี่ยวกับเรื่องความช้าและขั้นตอนต่างๆที่ยืดยาว ท่านนายกรัฐมนตรีฝากให้ผมไปช่วยพูดคุยหารือรายละเอียดกับผู้บริหารของหน่วยงาน ปรากฏว่าเราสามารถลดเวลาและขั้นตอนของกระบวนงานหลายอย่างลงได้อย่างน่าพอใจ เช่นเดียวกันกับภารกิจของกรมการจัดหางาน ผมได้รับความกรุณาเอื้อเฟื้อจากท่านอธิบดีและเพื่อนข้าราชการแก้ไขกฎระเบียบหลายอย่างให้ ทะมัดทะแมงขึ้น จนได้รับคำชมเชยจากภาคเอกชนที่ต้องติดต่อธุระการงานด้วยหลายหน่วยหลายคน ผมขอขอบคุณผู้บริหารและเพื่อนข้าราชการทุกคนนะครับ

ร่างกฎหมายเกี่ยวกับสินค้าถ่ายลำ ซึ่งหมายถึงการที่มีเรือสินค้าลำใหญ่มาจอดที่ท่าเรือแหลมฉบัง แล้วถ่ายสินค้าซึ่งบรรจุอยู่ในคอนเทนเนอร์ลงไปในเรือลำเล็กเพื่อกระจายสินค้าไปยังประเทศอื่นในภูมิภาค กำลังใกล้จะเสร็จเป็นร่างแรกแล้ว หวังว่างานชิ้นนี้จะไม่สูญหายไปกลางอากาศ และจะมีใครหยิบไปใช้ประโยชน์ต่อไปนะครับ

สมควรเล่าด้วยว่าในระหว่างหนทางประมาณครึ่งปีที่ผมและเพื่อนร่วมคณะทำงานมา มีนักธุรกิจทั้งไทยและเทศ ให้ความสนใจและเข้ามาพูดคุยกับผมอยู่เป็นประจำ มีหอการค้าจากหลายประเทศตัวอย่างเช่น ญี่ปุ่นและสหรัฐสหรัฐอเมริกาติดต่อกับผมด้วยเรื่องการงานเหล่านี้อยู่เสมอ ล่าสุดเมื่อประมาณสองสัปดาห์มานี้ก็มีสมาคมการค้าจากยุโรป ซึ่งเป็นผู้แทนของหลายประเทศ ในภูมิภาคนั้นเข้ามาพูดคุยหารือ มีบางประเด็นที่เสนอใหม่และผมได้รับไว้เพื่อคิดอ่านต่อไป รวมทั้งเป็นโอกาสให้ผมได้เล่าความคืบหน้าในเรื่องต่างๆให้ผู้ร่วมสนทนาได้รับทราบด้วย สังเกตดูท่าทีของผู้มาพบแล้ว เป็นไปด้วยความสบายใจครับ

แน่นอนว่าในการทำงานอย่างนี้ คณะกรรมการรวมทั้งตัวผมไม่ได้ทำงานอยู่โดยลำพัง แต่ได้รับความสนับสนุนในทางนโยบายจากนายกรัฐมนตรีอย่างเต็มที่ การรายงานความคืบหน้า หรือเสนอทางเลือกเพื่อแก้ไขปัญหาอุปสรรคต่างๆ เป็นการรายงานตรง รวมถึงการพูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมาระหว่างผมกับนายกรัฐมนตรีในประเด็นเหล่านั้นด้วย

อีกส่วนหนึ่งที่มีความสำคัญ คือ ทีมงานฝ่ายเลขานุการ ซึ่งมีท่านเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ กพร. ท่านรองเลขาธิการอารีพันธุ์ และน้องๆอีกจำนวนมากเป็นหัวเรี่ยวหัวแรง ผมขอขอบคุณทุกท่านที่ให้โอกาสผมได้ทำงานครั้งนี้ และผมเชื่อว่าความรู้สึกที่อยู่ในใจผมเวลานี้จะไม่ต่างกับความรู้สึกของเพื่อนกรรมการของผมทุกท่าน

ขอขอบคุณเพื่อนกรรมการทุกท่านทั้งที่เป็นกรรมการโดยตำแหน่งและในฐานะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ที่ช่วยกันทำงานอย่างเข้มแข็งตลอดเวลากว่าครึ่งปีที่ผ่านมา

ผมไม่เคยได้เล่าเรื่องนี้ให้สาธารณะชนฟังเป็นชิ้นเป็นอันโดยเฉพาะอย่างยิ่งใน Facebook นี้ มาก่อน เพราะอาจจะถูกแปลความเป็นประเด็นอื่นที่ผมไม่พึงประสงค์ได้ แต่เวลานี้ ในเมื่อภารกิจของคณะกรรมการจบสิ้นลงเพราะเป็นคณะกรรมการที่เกิดขึ้นจากคำสั่งของนายกรัฐมนตรี ผมจึงคิดว่าเป็นเวลาที่ควรจะเล่าสู่กันฟังได้แล้ว จริงไหมครับ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ทักษิณ-พท.ปิดดีลเร็ว เลือกนายกฯคนใหม่ สะพัด”ชัยเกษม”ผงาด

ฉากทัศน์การเมืองต่อจากนี้ต้องติดตามว่าใครจะขึ้นมาเป็น”นายกรัฐมนตรีคนที่ 31”ของประเทศไทย เพื่อมาแทน “เสี่ยนิด เศรษฐา ทวีสิน”ที่ปิดฉากชีวิตการเมืองเรียบร้อย อยู่เป็นนายกฯ คนที่ 30 ไม่ถึงหนึ่งปี และหลังจากนี้ คงกลับไปใช้ชีวิตการเป็นนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ กลับไปเป็นประธานบริษัทแสนสิริ ฯ ที่ตัวเองก่อตั้งและถือหุ้นใหญ่อยู่หลังก่อนหน้านี้โอนหุ้นแสนสิริฯให้กับลูกสาวไปในช่วงเข้ามาเล่นการเมือง