![](https://storage-wp.thaipost.net/2024/08/sibiydKN-1.webp)
11 ส.ค.2567-รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า สภานิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เผยแพร่หนังสือที่ลงนามโดยประธานสภานิสิตฯ ถึงศาสตราจารย์พิเศษ ดร. จิรนิติ หะวานนท์ ตุลการศาลรัฐธรรมนูญและอาจารย์พิเศษ คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะที่เป็นหนึ่งในตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่วินิจฉัยให้ยุบพรรคก้าวไกล และตัดสิทธิทางการเมืองกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล เนื่องจากมีข้อกังวลต่อคำวินิจฉัยของศาสตราจารย์พิเศษ จิรนิติใน 2 ประเด็นคือ 1. การละเลยความสำคัญของกระบวนการพิจารณาความ
2. การใช้อำนาจตุลาการศาลรัฐธรรมนูญตัดสินโทษยุบพรรคการเมือง
สภานิสิตจุฬาฯ จึงขอเรียนเชิญศาสตราจารย์พิเศษ ดร.จิรนิติ หะวานนท์ เข้าชี้แจงข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าว และชี้แจงแนวทางการจัดการเรียนการสอนในหลักสูตรนิติศาสตร์บัณทิต คณะนิติศาสตร์ต่อสภาฯในวันที่ 14 สิงหาคม 2567 เนื่องจากสภานิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมีความกังวลอย่างยิ่งต่อความถูกต้องเชิงวิชาการของการจัดการเรียนการสอนของศาสตราจารย์พิเศษ จิรนิติ ภายใต้หลักสูตรนิติศาสตร์บัณทิต อันเป็นเหตุมาจากการใช้อำนาจตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่ขัดต่อหลักการนิติรัฐและนิติธรรม ที่อาจส่งผลกระทบต่อมาตรฐานของนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ในปัจจุบันและอนาคต
ข้อความข้างต้นทั้งหมดเป็นการสรุปเนื้อความที่สภานิสิต จุฬาฯเชิญศาสตราจารย์ จิรนิติ มาชี้แจงเรื่องคำวินิจฉัยให้ยุบพรรคก้าวไกล และให้ชี้แจงแนวทางการจัดการเรียนการสอนในหลักสูตรนิติศาสตร์บัณทิต ของคณะนิติศาสตร์ สภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยคงมีความคิดที่ได้รับการซึมซับกันมาว่า “อำนาจเป็นของประชาชน” หรือ”ประชาชนต้องเป็นใหญ่” จึงนึกว่าสภาฯตัวเองมีอำนาจล้นฟ้า สามารถเชิญตุลาการศาลรัฐธรรมนูญให้มาชี้แจงการวินิจฉัยให้ยุบพรรคก้าวไกล ด้วยข้อกล่าวหาว่า อาจขัดต่อหลักนิติรัฐและนิติธรรม โดยอ้างว่าอาจมีผลกระทบต่อมาตรฐานการเรียนการสอน ในหลักสูตรนิติศาสตร์บัณทิตก็ได้
ก่อนอื่นต้องขอบอกว่า การดำเนินงานกิจการนิสิตนักศึกษาในมหาวิทยาลัย มุ่งให้นิสิตนักศึกษาปกครองตนเอง ได้ในระดับหนึ่ง โดยมีองค์กรภายในมหาวิทยาลัยอันประกอบด้วยองค์การนิสิตนักศึกษา ทำหน้าที่ดำเนินกิจการของนิสิตนักศึกษา และสภานิสิตนักศึกษาทำหน้าที่เป็นตัวแทนนิสิตนักศึกษา ควบคุมติดตามการทำงานขององค์การนิสิตนักศึกษา มีอำนาจเช่น พิจารณางบประมาณที่มหาวิทยาลัยจัดสรรให้เพื่อกิจการนักศึกษา ตามที่ได้เก็บค่าธรรมเนียมจากนิสิตนักศึกษาเป็นค่ากิจกรรมนิสิตนักศึกษา หรือมีอำนาจเชิญองค์การนิสิตนักศึกษา หรือชมรมหรือชุมนุมกิจกรรมนิสิตนักศึกษาต่างๆมาชี้แจงเกี่ยวกับการดำเนินงานของชมรมและชุมนุมนั้นๆได้
ขอบเขตอำนาจของสภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จึงครอบคลุมเฉพาะกิจการที่เกี่ยวกับนิสิตเท่านั้น ไม่มีอำนาจไปกำกับดูแลการเรียนการสอน ไม่มีอำนาจแม้แต่จะเชิญอาจารย์ผู้สอนในมหาวิทยาลัยมาให้ชี้แจงไม่ว่าจะเป็นเรื่องใด อย่าว่าแต่จะเชิญให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมาชี้แจงเรื่องคำวินิจฉัยของศาลเลย ซึ่งแม้แต่สภาผู้แทนผู้แทนราษฎรหรือวุฒิสภา และนายกรัฐมนตรีก็ไม่มีอำนาจ เพราะนั่นคืออำนาจตุลาการ ซึ่งในระบอบประชาธิปไตยได้แบ่งแยกกันแล้วคือ อำนาจบริหารเป็นของรัฐบาล อำนาจนิติบัญญัติเป็นของสภา และอำนาจตุลาการเป็นของศาล หรือว่าสภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยไม่เข้าใจหรือไม่มีความรู้เรื่องนี้
ข้อกังวล 2 ข้อที่อ้าง ดูแล้วก็เป็นแนวเดียวกับข้อโต้แย้งของ ศาสตราจารย์ ดร.สุรพล นิติไกรพจน์ ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญก็ได้มีคำวินิจฉัยแก้ข้อโต้แย้งทั้งหมดอย่างชัดเจนไปแล้ว
สภานิสิต จุฬาลงกรณ์อาศัยอำนาจอะไรไปเรียกให้ตุลาการศาลธรรมนูญมาชี้แจงเรื่องการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ นี่คือการล้ำเส้นอย่างไม่น่าให้อภัย จะเรียกว่าเป็นการ “เหิมเกริม” อย่างไม่มีขีดจำกัดก็คงไม่ผิดความจริงแต่อย่างใด แลยังเข้าข่ายละเมิดอำนาจศาลเสียด้วยซ้ำ
ก็แปลกที่สภานิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกลับไม่ติดใจการที่โฆษกกระทรวงต่างประเทศ สหรัฐอเมริกาออกแถลงการณ์อันเป็นการแทรกแซงการทำงานของศาลไทยและประเทศไทย อันเป็นการผิดมารยาททางการทูตอย่างชัดเจน ในขณะที่รัฐบาลประเทศเรา ไม่เคยออกแถลงการณ์วิพากษ์วิจารณ์กรณีการก่อสงครามของสหรัฐอเมริกา และการให้การสนับสนุนอิสราเอลในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ แต่อย่างใดเลย หรือเป็นเพราะเห็นว่าเป็นพวกเดียวกัน หรือกระทำสิ่งที่ถูกใจ แต่คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เป็นคำวินิจฉัยที่ไม่ถูกใจ อย่างนั้นกระมัง
ท่านรองอธิการบดีฝ่ายกิจการนิสิตและท่านอธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จะดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อปกป้องเกียติยศของศาสตราจารย์พิเศษ ผู้ซึ่งมีอาชีพหลักเป็นผู้พิพากษามาอย่างยาวนาน และสละเวลามาให้ความรู้จากที่ได้เรียนมาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศ และจากประสบการณ์จริงที่ท่านมีอย่างมหาศาลหรือไม่ หรือท่านจะวางเฉยอย่างที่เคยทำมาโดยตลอด เราต้องคอยติดตามต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ไทยภักดี' ลั่นตัดรากถอนโคนภัยต่อชาติ ไม่ให้เกิดการแตกหน่อของแนวคิดอันตราย
เพจ พรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความของ ดร.กรรญดา ณ หนองคาย เป็นหัวหน้าพรรคไทยภักดี ที่ระบุว่า
'นิสิตเก่า จุฬาฯ' ฟาดรุ่นน้อง โง่แล้วยังอวดเก่ง สั่งให้ครูที่สอนมาบอกว่า ครูคิดอะไร
นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ นิสิตเก่าคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สิงห์ดำรุ่น 22 โพสต์เฟซบุ๊กว่า
'ป้าธิดา' เย้ยเครือข่ายจารีตอำนาจนิยมราดน้ำกรดใส่ฝั่งตนเอง เรากำลังอยู่ในระบอบอื่นที่ไม่ใช่ประชาธิปไตย
เพจ อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ อดีตแกนนำนปช. โพสต์ข้อความกรณีศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกลว่า จากคำวินิจฉัยขอ
'ดุสิตโพล' เผยคนไทยเกาะติดการเมืองเพิ่มขึ้น กว่า 63% ไม่เชื่อมั่นรัฐบาลเศรษฐา
ประธานสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิตสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “สถานการณ์การเมืองไทย ณ วันนี้”
'สุพิศาล' คอนเฟิร์ม นำชื่อแกนนนำพรรคใหม่ ชงที่ประชุม รับมี 1 คนไม่ได้มาร่วม
'สุพิศาล' รับกระแสข่าว ชื่อพรรค 'ประชาชน' 'ณัฐพงศ์' ถูกเสนอนั่ง 'หัวหน้าพรรค' 'ศราวุธ' เป็น 'เลขาธิการพรรค' ไม่หวั่น พร้อมต่อสู้คดี 44 สส.เข้าชื่อแก้ ม.112 เผย'จุลพงษ์ อยู่เกษ'ไม่ได้มาร่วม
ทำแล้วทำต่อ 'อดีตบิ๊กข่าวกรอง' ยกคำวินิจฉัยศาลรธน.ชี้ 44 สส.แก้ม.112 ผิดสำเร็วแล้ว
นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความเฟซบุ๊ก ระบุว่า