“อนาคตไกล” เตือน “พิธา” ชักศึกเข้าบ้าน ไทยไม่ได้ตกเป็นเมืองขึ้นของประเทศใด สับ “ชำนาญ” แกนนำคณะก้าวหน้า อย่าเพ้อฝัน
5 ส.ค. 2567 - สืบเนื่องจากกรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและประธานที่ปรึกษาพรรคก้าวไกล พบเอกอัครราชทูต อุปทูตและเจ้าหน้าที่จากประเทศในทวีปยุโรป 18 ประเทศ เพื่อหารือแลกเปลี่ยนวิกฤติประชาธิปไตยในประเทศไทยและกรณีศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคดียุบพรรคก้าวไกลในวันที่ 7 ส.ค.นั้น
ล่าสุด นายภวัต เชี่ยวชาญเรือ โฆษกพรรคอนาคตไกล กล่าวถึงเรื่องนี้ว่าก่อนอื่นตนขอแสดงความยินดีกับว่าที่นายก อบจ.ทั้ง 3 แห่ง นางสมทรง พันธ์เจริญวรกุล ว่าที่นายก อบจ.จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายธวัช สุทธวงศ์ ว่าที่นายก อบจ.จังหวัด และนางจิตร์ธนา ยิ่งทวีลาภา ว่าที่นายก อบจ.จังหวัดชัยนาท สะท้อนว่าขณะนี้ประเทศไทยไม่ได้อยู่ในสภาวะวิกฤติประชาธิปไตย แต่เกิดจากการกระทำของตนเอง ดังจะเห็นได้จากยุบพรรคการเมืองก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 30 พ.ค. 2550 พรรคไทยรักไทย พรรคพัฒนาชาติไทยและพรรคแผ่นดินไทย ถูกกล่าวหาว่าจ้างพรรคเล็กลงเลือกตั้ง
และเมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 2551 พรรคพลังประชาชน พรรคชาติไทย พรรคมัชฌิมาธิปไตย ถูกกล่าวหาว่า กก.บห.ทุจริตการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 7 มี.ค. 2562 พรรคไทยรักษาชาติ ถูกกล่าวหาว่า เสนอพระนามทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และเมื่อวันที่ 21 ก.พ. 2563 พรรคอนาคตใหม่ ถูกกล่าวหากรณีเงินกู้ 191.2 ล้านบาท ถามนายพิธาว่า ข้อเท็จจริงการยุบพรรคก้าวไกล เป็นวิกฤติประชาธิปไตยในประเทศไทยตรงไหน
นายภวัต กล่าวต่อไปว่า หากพิจารณาคำวินิจฉัย ศาลรัฐธรรมนูญที่ 3/2567 ที่ระบว่า “.....พรรคก้าวไกล...นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์.....มีเจตนาเซาะกร่อนบ่อนทำลาย สถาบันกษัตริย์ เป็นเหตุให้ชำรุดทรุดโทรม เสื่อมทราม หรืออ่อนแอลง นำไปสู่ล้มล้างการปกครอง ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขในที่สุด” อันเป็นเด็ดขาดและผูกพันทุกองค์กร ทาง กกต.ผู้ร้องจะปฏิบัติอย่างอื่นไม่ได้เพราะจะมีความผิด ปอ.มาตรา 157 พรรคการเมืองหาเสียงแล้วย่อมต้องรับผิดชอบตนเอง มิฉะนั้น จะหาเสียงในลักษณะใด ที่มีกระทบต่อความมั่นคง หรือกระทบต่อระบอบการปกครองอย่างไรก็ได้
โฆษกพรรคอนาคตไกล กล่าวว่า พรรคการเมืองย่อมต้องใช้ความระมัดระวังในการหาเสียง ต้องรับผิดชอบในการกระทำของพรรคการเมืองที่ตนสังกัด จะเห็นได้จากกรณีล้มล้างการปกครองหรือกระทำปฏิปักษ์การปกครอง เท่าที่พบเห็น คือ พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย หรือพรรคไทยรักษาชาติ เป็นบรรทัดฐานที่เป็นพฤติกรรรมล้มล้างการปกครองหรือปฏิปักษ์กับสถาบันพระมหากษัตริย์ ให้พี่น้องประชาชนย้อนกลับไปดู สนธิสัญญาเบาริ่ง ที่ประเทศสยามในขณะนั้น เสียสิทธิสภาพอาณาเขตทางศาลเพราะต่างชาติแทรกแซงกิจการภายในประเทศ ทำให้ขาดอิสระในการดำเนินคดีทางศาลกว่าจะหลุดพ้น
"กรณีใช้วิชามาร โดยเทคนิก ร่อนหนังสือเชิญชวนท่านทูต อุปทูตในประเทศยุโรป อ้างเหตุ หารือวิกฤติประชาธิปไตยไทย ไม่ได้เป็นการกระทำของรัฐบาลไทย นายพิธา มีอำนาจอะไรเรียกทูตมาหารือ เป็นการชักศึกเข้าบ้าน ให้ต่างชาติเข้ามาแทรกแซงกิจการภายในของประเทศหรือไม่ อย่างไร โดยเฉพาะกระบวนการยุติธรรม ไทยเคยเสียสิทธิสภาพอาณาเขตมาแล้วครั้งหนึ่ง นายพิธา จะให้ต่างชาติเข้ามาแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมของไทยโดยการกดดันศาลหรือไม่ อย่างไร ส่งผลให้ภาพลักษณ์ของประเทศไทยให้เกิดความเสียหาย
อย่าลืมว่า รัฐบาลมาจากการเลือกตั้ง ไม่ได้มาจากการยึดอำนาจ รัฐธรรมนูญ ฉบับ 2560 พรป.วิธีพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 พรป.พรรคการเมือง ใช้บังคับกับทุกพรรคการเมือง และภายในราชอาณาจักรไทย และการยุบพรรคการเมืองในประเทศเกิดขึ้นหลายครั้ง ไม่ได้เป็นวิกฤติประชาธิปไตย ส่วนวิชามารโดยให้วุฒิสมาชิก สหรัฐอเมริกา ในสภาคองเกรส ร่อนหนังสือถึงกระทรวงการต่างประเทศ ลักษณะเป็นห่วงประชาธิปไตยไทย ควรกระทำหรือไม่ การหารือท่านฑูต หรืออุปฑูตต่างประเทศก็ดี การแถลงการณ์ปิดคดีนอกศาลก็ดี เข้าข่ายลักษณะเอาต่างชาติมากดดันการทำหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยตามที่พวกของตนเองต้องการเท่านั้น"
นายภวัต กล่าวด้วยว่า ส่วนที่ถามว่า มีแกนนำคณะก้าวหน้าคือ นายชำนาญ จันทร์เรือง ฟันธงวิเคราะห์คำตัดสินว่าจะออก 2 แนวทาง คือ ไม่ยุบพรรคก้าวไกล หรือยกคำร้อง นั้น นายชำนาญ จันทร์เรือง อดีต กก.บห.พรรคอนาคตใหม่ ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสิทธิทางการเมือง ที่แปลงร่างมาเป็นแกนนำคณะก้าวหน้า ให้ความเห็นไปเรื่อย ไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของหลักกฎหมาย ไม่เกี่ยวกับเวทีต่างประเทศในการที่ไทยเป็นเจ้าภาพประชุมสมาคมศาลรัฐธรรมนูญและสถาบันแห่งเที่ยบเท่าเอเชีย(AACC) ครั้งที่ 6 ระหว่างวันที่ 17-21 กันยายน 2567 ที่มีภาคีสมาชิกประเทศมาประชุมร่วม
ตนเห็นว่า อย่าเอาประเด็นนี้ มากดดันศาล ศาลรัฐธรรมนูญจะยุบพรรคก้าวไกลหรือไม่ เป็นดุลพินิจของศาล อย่าชี้นำศาลหรือไปกดดันศาล ระวังละเมิดอำนาจศาล ไม่เข้าท่าเลย ส่วนที่นายชำนาญ วิเคราะห์ว่า มติของวันที่ 7 สิงหาคม ไม่เป็นเอกฉันท์ โดยมติ 5 ต่อ 4 หรือมติ 6 ต่อ 3 โดยอ้างเหตุผลในคำวินิจฉัย ตนเห็นว่า เป็นการโยนหินถามทางและหมอเดาเท่านั้น ให้พี่น้องประชาชนติดตามคำวินิจฉัยของศาล ดีกว่า การวิเคราะห์ล่วงหน้า กินยาผิดซองหรือไม่ ไปรับยาช่อง 4 ดีหรือไม่ เพ้อฝัน ระวังจะฝันค้าง วิเคราะห์ไม่ได้อยู่บนหลักการพื้นฐานของกฎหมาย เพื่อผลประโยชน์กลุ่มของตนเองล้วนๆ ควรสงบจิต สงบใจ อย่าร้อนรน หรือดิ้นพล่าน
นายภวัต เชื่อว่า วันที่ 7 สิงหาคม ตรงกับวันพระบิดาแห่งกฎหมายไทย พระสยามเทวาธิราชประเทศไทยมีจริง สยามไม่ตกเป็นเมืองขึ้นของประเทศใด ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัย เหตุผล ตรรกะในปัญหาข้อกฎหมายและปัญหาข้อเท็จจริงบนพื้นฐานหลักนิติรัฐและนิติธรรม ประชาชนภายในประเทศยอมรับอย่างแน่นอน ขอให้พี่น้องประชาชนใจเย็นๆ คอยฟังข่าวสาร และอยู่ในที่ตั้ง.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เอาแล้ว 'อิ๊งค์' มีสิทธิ์หลุดเก้าอี้นายกฯ เซ่นตั้ง 'เลี้ยบ' นั่งรองประธานที่ปรึกษาของนายกฯ
นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศ (คปท.) โพสต์เฟซบุ๊กว่า “รัดแน่นกว่าเดิม”
ความเป็นมาของรัฐธรรมนูญฉบับที่ 4 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2490 (ตอนที่ 43)
ก่อนจะเกิดรัฐธรรมนูฉบับที่ 4 หรือรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2490 เรามีรัฐธรรมนูญฉบับที่ 2 คือฉบับ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475
'วิสุทธิ์' วอน สว. 80-90 เสียง หนุนร่างแก้รธน. ตัดอำนาจวุฒิสภาให้ประเทศเป็นปชต.
นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์กรณีการยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมของพรรคร่วมรัฐบาลพรรคอื่น
'วรชัย' พูดเต็มปาก! 'ชวน' ไม่ควรว่าทักษิณ ถ้ายังกวาดบ้านตัวเองไม่สะอาด
นายวรชัย เหมะ อดีตสส.สมุทรปราการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ทำนองว่า ตัวเองเป็นนักการเมืองรุ่นเก่าที่ไม่โกง
ดิเรกฤทธิ์ : ปัญหาประชาธิปไตยสุจริตวันนี้
ดร.ดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม ประธานสถาบันสุจริตไทย และ อดีตสมาชิกวุฒิสภา(สว.) โพสต์เฟซบุ๊กว่าปัญหาประชาธิปไตยสุจริตวันนี้(11 มกรา
แม่หมอ..มองทะลุ ปี 68 เปลี่ยนนายกฯ ..ยุบสภา-ลาออก!!.. I อิสรภาพแห่งความคิด กับ..สำราญ รอดเพชร
อิสรภาพแห่งความคิด กับ..สำราญ รอดเพชร : วันเสาร์ที่ 11 มกราคม 2568