‘อดีตบิ๊กศรภ.’ ยก 4 เหตุผลสำคัญ ไทยจะไม่มีทางเป็นประเทศที่ล้มเหลวในอนาคตแน่นอน 

28 ก.ค.2567-พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์เฟซบุ๊กหัวข้อ “สถาบันพระมหากษัตริย์ กับ ประเทศไทย ในอนาคต ตอนที่ 1” ระบุว่า นอกจากเรื่องสงครามนิวเคลียร์แล้ว สถานการณ์ต่างๆในประเทศไทย และของโลก ในปัจจุบัน ได้ทำให้พวกเราหลายคนกังวลว่า อีกไม่นานประเทศไทยอาจจะกลายเป็น “ประเทศที่ล้มเหลว” (Failed State)ในอนาคตอันใกล้นี้ได้ !

ผมขอยืนยันว่าประเทศไทยจะไม่มีทางเป็น Failed State แน่นอน  จากเหตุผลที่ไม่เข้าเงื่อนไขหลายประการ ได้แก่

1.เงื่อนไขสำคัญของการเป็นรัฐล้มเหลว คือการที่รัฐบาลไม่สามารถควบคุมพื้นที่บางส่วนของประเทศได้ ซึ่งรัฐบาลไทย แม้จะขี้โกงขนาดไหน ก็ยังเป็นคนไทย ไม่กล้าปล่อยให้พื้นที่ไหนขาดการควบคุม  และประชาชนคนไทยก็ไม่ได้โง่ เพียงแต่ส่วนใหญ่อยากอยู่สงบๆ และเรียบง่าย  แต่ถ้ามีเรื่องเกี่ยวข้องกับความมั่นคงของชาติแล้ว คนไทยก็ไม่เคยนิ่งเฉยสักครั้งเลย ส่วนเหตุความรุนแรงในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น  ถ้าจะแก้ไขปัญหากันอย่างจริงจัง ก็ย่อมทำได้ แต่ผู้คนเหล่านั้น ก็คือ คนไทย ตามที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ   ประกอบกับการที่ทุกคนเป็นประชาชนที่มีพระเจ้าอยู่หัวพระองค์เดียวกันอีก ดังนั้น ฝ่ายทหาร จึงมักใช้วิธีการพูดคุยกัน  เป็นหลัก ก่อนการใช้ความรุนแรงปราบปราม

2.โครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ที่เป็นส่วนประกอบของรัฐชาตินั้น ประเทศไทยยังมีอยู่ครบถ้วน ทั้ง ด้านการศึกษา การสาธารณสุข การคมนาคม ฯลฯ ซึ่งแม้องค์กรเหล่านี้จะไม่เข็มแข็งนักเพราะต้องลู่ตามลมการเมือง แต่เราก็มี ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คอยคัดท้ายอยู่  ส่วนองค์กรทางด้านความมั่นคงส่วนใหญ่ ยังเข็มแข็ง พอที่จะป้องกันประเทศได้ หรือสามารถตอบอย่างเต็มปากเต็มคำ ว่า “ทหารมีไว้ทำไม”

3.ปัจจุบันประเทศไทยไม่มีสงครามกลางเมือง หรือ การก่อการร้าย เงินเฟ้อยังอยู่ในระดับการควบคุมได้ (หลังแจกเงินดิจิตอลแล้วค่อยมาพูดกันอีกที) ส่วนเรื่องสิทธิมนุษยชนของไทยนั้น  ดีเยี่ยมกว่าทุกประเทศในเอเซีย การตกงานแม้จะเริ่มสูงขึ้น ถึงกับมีข่าวการตกงานกันแทบทุกวัน  แต่ถ้าไม่เลือกงาน ก็ยังพอไหว สิ่งที่น่าวิตกมากสุด คือ เรื่องของการคอรัปชั่น ที่กำลังก้าวขึ้นสู่ระดับที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ตรงนี้ดูเหมือนคนไทยจะคุ้นชินกันไปซะแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าห่วงไยพอควรทีเดียว

4.จุดแข็งของประเทผศไทย คือ คนไทยเรามี สถาบันพระมหากษัตริย์อยู่ในจิตสำนึก แม้พระองค์จะอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ แต่พระองค์ก็ทรงงานช่วยเหลือประชาชนอยู่ตลอดเวลา ไม่มีวันหยุด ไม่เหมือนนักการเมือง ที่มีวาระการทำงาน หมดวาระก็เลิกทำ   พระองค์จึงต่างกับนักการเมือง ที่สามารถทรงงานแก้ไขปัญหาของประชาชนได้ อย่างต่อเนื่อง และ ยังเป็นสถาบันหลักของชาติเพียงสถาบันเดียวในปัจจุบัน  ที่นักการเมืองขี้โกงทั้งหลาย และผู้ที่คิดร้ายต่อประเทศ  ยังต้องพะวงหน้าพะวังหลังอยู่  เนื่องจากรู้ดีว่า เบื้องหลังพระองค์ยังมีประชาชนจำนวนมหาศาลที่ ยืนอยู่เคียงข้างพระองค์ อย่างเงียบๆ อยู่ตลอดเวลา

ดังนั้นประเทศไทยยังอยู่ได้อีกนานครับ ไม่ต้องหนีไปไหน แต่ “ความเจริญก้าวหน้าอาจจะชะลอคงที่อยู่ ไม่รุดหน้าไปเหมือนประเทศอื่นๆ”แค่นั้น   ซึ่งจะส่งผลทำให้คนไทยจะจนลงเรื่อยๆ คนชั้นกลางที่เคยเป็นผู้ออกมารักษาผลประโยชน์ของชาติ  ก็จะลดน้อยลงไป

การทุจริตก็จะกลายเป็นเรื่องปกติ   ซึ่งเรื่องเหล่านี้จะแก้ได้หรือไม่ก็อยู่ที่ตัวเราเองด้วยครับ  คิดเสียว่าในอนาคตน่าจะดีขึ้นก็ได้ครับ

ข้อเขียนเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา ใหลวง รัชกาลที่ 10 ตอนที่ 1

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'จเด็จ' เสียดายแต่ไม่เสียใจ 'ช้างศึก' พ่ายจุดโทษออสเตรเลีย ศึก U-16 อาเซียน

จเด็จ มีลาภ ยอมรับว่าเขารู้สึกเสียดาย ที่ทีมชาติไทย U17 พลาดโอกาสการคว้าแชมป์อาเซียน ประจำปี 2024 ที่ประเทศอินโดนีเซีย มาครอง แต่ก็ไม่เสียใจกับผลงานโดยรวมของทีม

'ช้างศึก' สู้เต็มที่ก่อนพ่ายจุดโทษ 'ออสซี่' คว้ารองแชมป์ U-16 อาเซียน

วันที่ 3 กรกฎาคม 2567 เวลา 19.30 น. ณ มานาฮาน สเตเดียม เมืองสุราการ์ต้า ประเทศอินโดนีเซีย การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี รอบชิงขนะเลิศ ทีมชาติไทย พบกับ ทีมชาติออสเตรเลีย

ไทยเฉือนซาอุฯ คว้าแชมป์เดวิสคัพโซนเอเชียฯ กอดคอเลื่อนขึ้น'เพลย์ออฟ เวิลด์กรุ๊ป2'

การแข่งขันเทนนิสชิงแชมป์โลก ประเภททีมชาย รายการ "2024 เดวิสคัพ" โซนเอเชีย/โอเชียเนีย กลุ่ม 3 ที่สนามเทนนิสของสหพันธ์เทนนิสจอร์แดน กรุงอัมมาน ประเทศจอร์แดน เข้าสู่การแข่งขันวันสุดท้าย ซึ่งจบลงเมื่อคืนวันที่ 15 มิ.ย. 2567 ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับวันที่ 16 มิ.ย. ตามเวลาประเทศไทย และยังเป็นอีกวันพิเศษของทีมไทย โดย นายสุภาค โปร่งธุระ เอกอัครราชทูต ณ กรุงอัมมาน พร้อมด้วย นางศิริวรรณ โปร่งธุระ ภริยาเอกอัครราชทูต ให้เกียรติเดินทางมาร่วมชมและเชียร์นักเทนนิสทีมชาติไทย นอกจากนี้ยังมีข้าราชการและเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตฯ รวมทั้งคนไทยในจอร์แดนมาร่วมเชียร์ด้วย

เดวิสคัพไทย สยบเจ้าภาพ ขึ้นที่ 1 กลุ่มบี ทะยานสู่เพลย์ออฟ 'เวิลด์กรุ๊ป 2' ทันที

การแข่งขันเทนนิสชิงแชมป์โลก ประเภททีมชาย รายการ "2024 เดวิสคัพ" โซนเอเชีย/โอเชียเนีย กลุ่ม 3 ที่สนามเทนนิสของสหพันธ์เทนนิสจอร์แดน กรุงอัมมาน ประเทศจอร์แดน เมื่อคืนวันที่ 13 มิ.ย. 2567 ทีมชาติไทย พบกับ ทีมชาติจอร์แดน เจ้าภาพ