กมธ.งบเพิ่มเติมปี 67 เผยหน่วยงานแจง กันเงินไว้เบิกเหลื่อมปี ใช้ทำดิจิทัลวอลเล็ต

“กมธ.งบเพิ่มเติม 67 “เผย หน่วยงานแจง มีการกันเบิกเงินเหลื่อมปีในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตแล้ว แต่ต้องเป็นไปตามระเบียบการเบิกจ่าย

24 ก.ค.2567 - เมื่อเวลา 14.30 น. ที่รัฐสภา นายธีระชัย แสนแก้ว สส.อุดรธานีพรรคเพื่อไทย ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 แถลงผลการประชุมกมธ.ฯว่า การประชุมเมื่อวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมเพื่อตอบข้อซักถาม จำนวน 9 หน่วยงาน ได้แก่ กระทรวงการคลัง กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ สำนักงบประมาณ สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และ สมาคมธนาคารไทย โดยที่ประชุมมีการพิจารณาในประเด็นที่สำคัญเกี่ยวกับการกันเงินไว้เบิกเงินเหลื่อมปี ซึ่งโครงการดิจิทัลวอลเล็ต มีกำหนดการเปิดลงทะเบียนและการจ่ายเงินอยู่คนละปีงบประมาณ

นายธีระชัย กล่าวต่อว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ชี้แจงว่า การกันเงินไว้เบิกเงินเหลื่อมปี ต้องเป็นไปตามระเบียบว่าด้วยการเบิกจ่ายเงิน ตามที่กระทรวงการคลังกำหนด ทั้งนี้เงื่อนไขของโครงการดิจิทัลวอลเล็ต คือ เมื่อมีผู้ประสงค์เข้าร่วมโครงการ จะมีการตรวจสอบสิทธิ์ว่าบุคคลดังกล่าวมีคุณสมบัติตามเงื่อนไขของโครงการหรือไม่ ทั้งเรื่องของรายได้ อายุ และเงินฝาก เป็นต้น และเมื่อผ่านการตรวจสอบสิทธิ์เรียบร้อยแล้ว จะมีระบบตอบกลับไปยังผู้ประสงค์เข้าร่วมโครงการ ซึ่งถือเป็นการเสนอและการสนองที่ทำให้เกิดนิติสัมพันธ์ขึ้น และมีผลทำให้สามารถดำเนินการกันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีได้

นายธีระชัย กล่าวตอว่า ส่วนประเด็นกำหนดรายการยกเว้นสินค้า ของโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ตามมติคณะรัฐมนตรี(ครม.)เมื่อวันที่ 23 เม.ย.67 ได้กำหนด จำนวน 15 รายการ และมติของคณะกรรมการนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตล่าสุด ได้เพิ่มสินค้าในรายการยกเว้น อีก 3 รายการ คือ เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องมือสื่อสาร ดังนั้น สินค้ายกเว้นทั้งหมดมี18 รายการ รวมธุรกิจบริการอีก 1 รายการ รวมเป็น 19 รายการ ทั้งนี้กระทรวงพาณิชย์สามารถเสนอแก้ไขปรับปรุงรายการสินค้ายกเว้น เพิ่มเติมได้

นายธีระชัย กล่าวด้วยว่าที่ประชุมกมธ.ยังมีข้อสังเกตว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะสำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า ต้องดำเนินการศึกษาและวิเคราะห์ผลกระทบของการดำเนินโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ในประเด็นผลกระทบของการมีอำนาจเหนือตลาดและการผูกขาด รวมทั้งศึกษาว่าการดำเนินโครงการจะนำไปสู่การเพิ่มสวัสดิการของสังคมหรือผู้บริโภคในส่วนของครัวเรือนอย่างไร ทั้งนี้ที่ประชุมได้ลงมติรายมาตรา ผลปรากฏว่ากมธ.เสียงข้างมาก เห็นชอบตามร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว โดยมีกมธ.บางสงวนความเห็น ในมาตรา 3 มาตรา 4 และมาตรา 5 และนัดประชุมกมธ.ครั้งต่อไปในวันที่ 25 ก.ค.เวลา 13.30 น.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'นิพนธ์' ซัดรัฐบาลแจกเงินหมื่น เฟส 2 หวังผลการเมือง ไม่ใช่กระตุ้นเศรษฐกิจ

นายนิพนธ์ บุญญามณี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย-อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และอดีตนายก อบจ. พรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจ เฟส 2 ของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยมีการแจกเงินสด 10,000 บาท ให้แก่ผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป ที่ลงทะเบียนในระบบและยืนยันตัวตนแล้ว รวมกว่า 4 ล้านคน

ป้า 67 ป่วยหลายโรค หาบเร่ขายของเลี้ยงชีพ หวังได้เงินหมื่น เฟส 2 หวั่นตกหล่น บัตรคนจนก็ไม่มี

บุรีรัมย์ ป้า 67 ป่วยความดัน มีก้อนเนื้อที่คอ แต่ต้องหาบเร่ขายของเลี้ยงชีพและลูกพิการ หวังได้เงินหมื่น เฟสสอง มาแบ่งเบา

รัฐบาลเคาะแจกเงินหมื่น เฟส 2 ให้คนอายุ 60 ปีขึ้นไป ก่อนวันตรุษจีนปี 68

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งที่ 1/2567 โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.การคลัง

คกก.นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ นัดประชุมครั้งแรก 19 พ.ย. ถกแจกเงินดิจิทัลรอบใหม่

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เปิดเผยภายหลังหารือกับ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง และหน่วยงานเศรษฐกิจว่า ในวงหารือได้เคาะวันประชุมคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ