ในหลวง รัชกาลที่ 9 ทรงริเริ่มโครงการเลี้ยงปลาบริเวณโครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดา
18 ก.ค.2567 นายนิธิพัฒน์ พันธุ์ธุมจินดา นักธุรกิจฟาร์มปลาสวยงาม โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว Nitipat Bhandhumachinda ว่า ในช่วงสามสี่วันมานี้ มีคนบางคนพยายามใช้กรณีปลาหมอคางดำ เพื่อนำมาแซะโครงการปลานิลจิตรลดาในพระราชดำริ ซึ่งก็ทำให้ผมต้องไปนั่งอ่านงานวิจัยที่มาที่ไปของโครงการดังกล่าว เพื่อจะใช้ในการโต้แย้งไม่ให้สังคมถูกชักจูงให้เชื่อในข้อมูลผิดๆ
ก็เลยทำให้พบว่า โครงการดังกล่าวของในหลวงรัชกาลที่เก้านั้น มีการวิจัย การวิเคราะห์ การพิถีพิถันในการเลือกสายพันธุ์ การจดบันทึก และการติดตามผล โดยมีข้อสงสัยอะไรตรงไหน ก็จะนำตัวอย่างส่งเพื่อการพิสูจน์ในสถาบันวิจัยต่างๆทั้งในและต่างประเทศ เพื่อให้มั่นใจว่าดำเนินการมาอย่างถูกต้องตามหลักวิทยาศาสตร์ที่สุด
ซึ่งตลอดการดำเนินงานของโครงการฯนั้นก็เน้นการผลิตปลานิลที่โตเร็วมีขนาดใหญ่เนื้อเยอะ ให้คุณประโยชน์ทางโภชนาการสูง เป็นแหล่งโปรตีนราคาถูกสำหรับประชาชนทั่วไป อีกทั้งเป็นแหล่งรายได้ให้กับเกษตรกร
และที่สำคัญคือเป็นสายพันธุ์ที่เพาะขึ้นโดยยึดหลักที่ว่า แม้จะเป็น"สัตว์ต่างถิ่น" แต่ก็สามารถอยู่ร่วมในระบบนิเวศของไทยได้อย่างค่อนข้างเหมาะสม ไม่ก้าวร้าวหรือรุกราน ทำร้ายธรรมชาติและสัตว์ต่างๆในพื้นที่อาศัยเดียวกันจนเข้าข่ายสายพันธุ์"สัตร์รุกราน"
การมีคนมาสร้างความเข้าใจที่ผิด ก็ทำให้ผมได้ศึกษาและยิ่งสร้างความประทับใจในพระปรีชาสามารถ ความมุมานะ อีกทั้งวิสัยทัศน์ของพระองค์ท่านอย่างที่สุด
จนอยากนำมาเล่าแบ่งปันให้เพื่อนๆฟังเช่นนี้ครับ
"น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ"
ก่อนหน้านี้ นายนิธิพัฒน์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กว่ามีผู้บิดเบือนข้อมูลในทำนองว่า ปลาหมอคางดำเป็นปลาที่นำเข้ามาเพื่อพัฒนาปลานิลจิตรลดา โดยมีการระบุด้วยว่าเป็นปลานิลจิตรลดารุ่นที่สาม เนื่องจากในรายงานนั้น ปลานิลจิตรลดารุ่นที่สาม มีการพัฒนาจากสายพันธุ์หลายชนิดรวมทั้งปลานิลจากประเทศกานา
ก็เลยอยากจะเรียนให้ทราบว่า ปลานิลสายพันธุ์จิตรลดารุ่นที่สามนั้น เป็นผลผลิตของการนำปลาที่ได้รับการพัฒนาสายพันธุ์ปลานิลเพื่อการบริโภค ซึ่งเป็นผลงานการวิจัยที่ทำการทดลองกันที่ หน่วยงานวิจัย ICLARM ในประเทศฟิลิปปินส์ โดยการผสมชนิดปลานิลหลายๆสายพันธุ์(รวมทั้งสายพันธุ์จิตรลดารุ่นก่อนๆ)จนได้ลูกที่เรียกกันว่า GIFT (Genetic Improvement of Farmed Tilapia) รุ่นที่ ๕
และได้นำลูกปลาสายพันธุ์ผสมในรูปแบบสายพันธุ์ที่พัฒนามาแล้วรุ่นนี้จากหน่วยงานการวิจัยดังกล่าว เข้ามาในประเทศไทยเมื่อปี พศ. ๒๕๓๘ และก็มีการวิจัยพัฒนาต่อเนื่องจนสามารถนำออกมาจำหน่ายจ่ายแจกให้กับเกษตรกรในชื่อรุ่น "นิลจิตรลดารุ่นที่ ๓" ซึ่งแตกต่างอย่างมากจากการนำปลาชนิดใดชนิดหนึ่งซึ่งเป็นชนิดแท้ (ในกรณีนี้คือปลาหมอคางดำ) เข้ามาในประเทศแล้วหลุดรอดออกไปจนเกิดปัญหาการรุกรานดังที่เป็นข่าวอยู่ในขณะนี้นะครับ
จึงขอเรียนนำเสนอข้อเท็จจริงให้ทราบ เผื่อใครจะคิดว่าต้นเหตุปัญหาเกิดจากโครงการปลานิลจิตรลดาครับ
มีรายงานว่า หนึ่งในผู้ที่โพสต์ข้อมูลบิดเบือนเรื่องปลาหมอคางดำเพื่อหวังแซะสถาบันก็คือ นายนิธิวัต วรรณศิริ ผู้ต้องหาคดีมาตรา 112 ซึ่งหลบหนี้อยู่ในประเทศฝรั่งเศส เจ้าของเฟซบุ๊ก "จอมไฟเย็น ปฏิกษัตริย์นิยม" ได้โพสต์ข้อความว่า "ปลานิลคางดำ ถูกนำเข้ามาพัฒนาสายพันธุ์ปลานิลจิตรลดา จนได้สายพันธุ์นิลจิตรลดา 3"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ประมงนครฯ และสุราษฎร์ฯ ยันปลาหมอคางดำเบาบางลง หลังมาตรการได้ผล เดินหน้าต่อ จับมือ CPF ปล่อยปลาผู้ล่าลดปริมาณปลาในระยาว
ประมงจังหวัดนครศรีธรรมราช และประมงจังหวัดสุราษฎร์ธานี โชว์มาตรการปราบปลาหมอคางดำได้ผลดีทั้งสองจังหวัด หลังสำรวจพบปลาหมอคางดำเบาบางลง พร้อมเดินหน้ามาตรการต่อเนื่องทันที ด้านบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ หนุนอีก 3
เอาแล้ว! เลขาฯไบโอไทย เจอหมายเรียกปมปลาหมอคางดำ
เฟซบุ๊กเพจ BIOTHAI ของมูลนิธิชีววิถีโพสต์ข้อความ ระบุว่าหมายเรียกจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งแจ้งความดำเนินคดี นายวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ
ฟ้องแพ่งเอกชน ‘คางดำ’ระบาด! ชดใช้4.4พันล้าน
กลุ่มชาวประมงผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของ "ปลาหมอคางดำ" ยื่นฟ้องเเพ่งเรียกค่าเสียหายเอกชนกว่า 4 พันล้านบาท
กลุ่มชาวประมง ยื่นฟ้องแพ่ง เรียกค่าเสียหายเอกชนหลายพันล้าน ทำปลาหมอคางดำแพร่ระบาด
นายปัญญา โตกทอง อายุ 66 ปี สมาชิกเครือข่ายรักษ์อ่าวไทยตอนบน และเครือข่ายประชาคมคนรักแม่กลอง พร้อมชาวบ้านกลุ่มผู้ประกอบอาชีพประมงเพาะเลี้ยงสัตว์น้ํา และประมงพื้นบ้าน ในเขตอําเภออัมพวา อําเภอบางคนที