อดีตผู้สมัครสว.ชงอสส.ยื่นศาลฯฟันกกต.ล้มล้างการปกครอง เหตุจะทำให้เกิดวิกฤตร้ายแรง

12 ก.ค.2567 - นายพลภาขุน เศรษฐญาบดี ตัวแทนผู้ประสานงาน คณะราษฎรไทยแห่งชาติ (ครช.) และอดีตผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา(สว.) กลุ่ม 17 จ.นครปฐม เปิดเผยว่า ได้ยื่นเรื่องขอให้อัยการสูงสุด ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 กรณี บุคคล 8 คน 1.นายอิทธิพร บุญประคอง 2.ศาสตราจารย์สันทัด ศิริอนันต์ไพบูลย์ 3.นายปกรณ์ มหรรณพ 4.นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ 5.นายฐิติเชฏฐ์ นุชนาฏ 6.นายชาย นครชัย 7.นายสิทธิโชติ อินทรวิเศษ 8.นายแสวง บุญมี ได้ใช้สิทธิ์ในการจัดการการเลือกตั้งที่มีการเลือกปฏิบัติที่ไม่ได้เป็นไปตามกฎหมายส่งผลให้การเลือกตั้งระดับประเทศวันที่ 26 ที่ผ่านมาเป็นวิกฤตร้ายแรง ที่ทำให้ได้สมาชิกวุฒิสภา(สว.) ระดับประเทศ ที่เห็นว่ามีสภาพบกพร่องและเป็นภัยร้ายแรง เข้าขั้นล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตย จึงขอให้อัยการสูงสุดยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยโดยด่วน

ทั้งนี้ได้ส่ง คำคัดค้าน ฯ ศาลฎีกา (ศาลจังหวัดนครปฐม) คดีหมายเลขดำที่ ลต4/2567 ลว 19,21/6/2567 และ คลิปเสียง ยาว 17.42 นาที ขนาด2.09mb แนบมาด้วย

หนังสือดังกล่าว สรุปใจความว่า ข้าพเจ้าได้พบว่าเห็นว่า ผู้ถูกร้องได้ใช้สิทธิ อำนาจของตนไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย มีการเลือกปฏิบัติ ที่เห็นว่ามีเจตนาพิเศษ ไม่ดำเนินการระงับยับยั้ง ซึ่งอาจจะมีการร่วมเป็นองค์ประกอบ กับ พรรคการเมืองใหญ่ ในการปล่อยปละ ให้มีการเปิดช่องทุจริต ในการเปิดช่องให้ผู้ที่จะสมัครสว. ที่เป็นคนจนรับจ้างเข้าสู่การสมัครเป็นสว.ได้หลายกลุ่มที่จะสามารถหาคนของตน เข้ามาตามกลุ่มต่างๆ ตามการวางแผน เพื่อเข้าสู่การเลือกกันเอง เลือกไขว้ได้ อย่างเป็นระบบแบบแผนที่กลุ่มตนวางไว้ได้ และร่วมกันให้มีการจัดกลุ่มคนเข้ามาสมัคร สว. และเลือกกันเอง เพื่อให้กลุ่มตนเข้าไปเป็น สว. กุมอำนาจรัฐฝ่ายนิติบัญญัติ

ซึ่งตามข่าวปรากฏชัดเจนว่า มีผู้ผ่านการสมัครสว.ระดับประเทศ มากกว่า 140 คน ที่มีวุฒิการศึกษาระดับ ป.7 บ้าง เป็นคนขับรถ บ้างเป็นผู้รับจ้าง บ้างเป็นกลุ่มที่มีเครือข่ายสัมพันธ์กับ กลุ่มนักการเมืองโดยที่มีหลักฐานปรากฏตามสื่อมากมาย โดยที่ผู้สมัครอิสระที่มีคุณสมบัติจริง มีความรู้ความสามารถจริงที่มาอิสระลำพัง ได้โดนกลุ่มคนเหล่านั้น ตัดออก ไปตั้งแต่ชั้นอำเภอ ชั้นเลือกกันเองแทบทั้งหมดแล้ว แทบไม่มีผู้สมัครอิสระที่มีคุณสมบัติจริงผ่านระดับประเทศเลย ผู้ผ่านการเลือก สว.ระดับประเทศ โดยมากล้วนมาจากการจัดตั้งวางแผนมาอย่างเป็นระบบแทบทั้งสิ้น

ผลของใช้การสิทธิอำนาจ ในการ ไม่ระงับยับยั้ง ไม่มีประกาศการเลือกตั้งใหม่ ไม่มีการแก้ไขกฎหมายในการเลือก สว.ใหม่ จักทำให้ สว.ที่ทำหน้าที่ในสภา ตามระบอบประชาธิปไตป จึงเป็น สภาหุ่นเชิด และจักนำไปสู่การล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ในที่สุด

โดยที่ทราบว่า กลุ่มพรรคการเมืองที่อยู่เบื้องหลังตามข่าวนั้น ก็มีกลุ่มผลประโยชน์ที่อยู่ในสภาผู้แทนจำนวนมาก ก็จะกลายเป็น สภาเผด็จการ ที่เลวร้ายยิ่ง เป็นภาวะที่อันตรายร้ายแรงต่อราชอาณาจักรไทยอย่างยิ่ง

ด้วยกฎหมายแนวทางในการระงับยับยั้ง ด้วยสิทธิของปชช.ชุมชน มีจำกัด ไม่อาจยื่นฟ้องต่อศาล ได้โดยตรง ด้วยเหตุดังกล่าวอาศัย รธน. ม 3 25 41 43 50 51 53 63 ประกอบ ม 49 จึงขอท่านโปรดดำเนินการยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ผู้ถูกร้อง ใช้สิทธิ อำนาจที่มีเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย และขอศาลมีคำสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดกระทำ ให้ประกาศว่าการเลือกสว.ที่มีการเลือกระดับประเทศวันที่ 26/6/2567 นั้น มิชอบด้วยกฎหมาย เป็นอันโมฆะและให้มีการนำ พรป.สว. เข้าสู่การแก้ไขใหม่ โดยมีส่วนร่วมของภาคประชาชน ก่อนจัดให้มีการเลือกสว.ใหม่

จึงนำเรียนเพื่อโปรดพิจารณาดำเนินการโดยเร่งด่วน ทั้งนี้ หากได้ผลประการใดโปรดแจ้งเป็นหนังสือใน 15 วัน จักเป็นพระคุณยิ่ง

ส่วนกรณีกกต. ได้มีประกาศรับรอง 200 สว. มาในวันที่ 10 กค2567 นั้น นายพลภาขุน เห็นว่า เป็นการใช้สิทธิอำนาจ โดยมีเจตนาพิเศษ โดยไม่อิงกับเจตนารมณ์ในการสรรหาสว. ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 107 และ 108 ตามภาระกิจ ตาม รธน. ม 224 215 63 และไม่พิจารณา เห็นตามสภาพความเป็นจริงที่ปรากฏ ที่ปรากฏว่า ผู้ผ่านการสรรหาสว.ด้วยระบบพิสดารที่จัดขึ้นครั้งแรกในโลกนี้ มีสภาพวิกฤตร้ายแรงที่เป็นภัยแก่ราชอาณาจักรไทย เพราะเป็นการจัดตั้งมาเลือกกันเอง เพื่อเข้าสู่การเป็นฝ่ายนิติบัญญัติที่จะไปเป็นสภาหุ่นเชิด กินรวบทั้งแผ่นดิน เป็นการทุจริตตั้งแต่ในชั้นออกประกาศ ฯ เพื่อเปิดช่องให้มีการทุจริต และในชั้นตรวจสอบคุณสมบัติ โดยตามข่าวที่ปรากฎก็พบว่ามีการร้องเรียนว่าทุจริตเกือบพัน เรื่อง โดยการสอบสวนก็เป็นไปด้วยความเชื่องช้า การจะใช้อำนาจในการสอยสว. ก็เต็มไปด้วยช่องในการทุจริตในการเรียกรับเงิน ในกระบวนการใช้อำนาจและในกระบวนการยุติธรรมอีกมากมาย

"ในฐานะประชาชนไทยที่เป็นผู้เสียภาษีเป็นผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงไม่อาจยอมรับได้ และประชาชนทั่วไปก็มีความเห็นเช่นเดียวกับตนโดยทั่ว และคงจะนำเรื่องดังกล่าวนี้ ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างแน่นอน และเชื่อว่า กกต. อาจไม่พ้นโทษอาญาเป็นแน่ "นายพลภาขุน กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ไพศาล' เผยเหตุศาลรธน. ให้อัยการสูงสุดชี้แจงคำร้องสอบ 'ทักษิณ-เพื่อไทย' ล้มล้างการปกครอง

นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า ทำไมศาลรัฐธรรมนูญต้องให้อัยการสูงสุดชี้แจงคำร้องขอเกี่ยวกับการล้มล้างการปกครอง

ดร.ณัฏฐ์-นักกม.มหาชน ชี้ชัด 'ล้มล้างการปกครอง' ต้องมีข้อเท็จจริงที่ชัดเจน ไม่ห่างไกลเกินกว่าเหตุ

มือกฎหมายมหาชน ชี้ “ล้มล้างการปกครอง” สารตั้งต้นนำไปสู่ยุบพรรคเพื่อไทย ต้องมีข้อเท็จจริงที่ชัดเจน เพียงพอ กำลังดำเนินอยู่และไม่ห่างไกลเกินกว่าเหตุ

ลุ้นศาลรับคำร้อง! 'หมอวรงค์' ชี้พฤติการณ์ชั้น 14 มัด 'ทักษิณ-พท.'

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ในหัวข้อ "ทักษิณจะถือว่าล้มล้างการปกครองหรือไม่?" โดยระบุว่า

จับตา! ปม 'นักโทษเทวดา' จุดตาย 'ทักษิณ-เพื่อไทย'

รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า เป็นเพราะคุณไพบูลย์ นิติตะวัน โปรโมตเรื่องหมัดเด็ดที่อาจจะทำให้พรรคเพื่อไทยล่มสลายดีเกินไป