'อดุลย์' ยก 6 เหตุผล ค้านรับรองสว.ชุดใหม่ ชี้ขัดรธน. เฉ่งกกต.ละเว้นหน้าที่ผิดม.157

'อดุลย์' ยก 6 เหตุผล ค้านกกต.รับรองผลเลือกสว.ชุดใหม่ ชี้ต้นเหตุมาจากรธน.ชุด 'มีชัย' ที่เคยร่างรธน.ปี2534 จนเกิดเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ชำแหละสว. 200 ไม่ใช่ตัวแทนกลุ่มอาชีพและตัวแทนปวงชนชาวไทย ถือว่าขัดรธน. เฉ่ง กกต.ไม่ยับยั้งแก้ไขตั้งแต่แรก ละเว้นหน้าที่ผิดม.157 ติง 'อนุทิน' อย่าขึ้นเป็นนายกฯแบบมีมลทิน จะไม่เป็นผลดีในอนาคต

5 ก.ค.2567- นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา’35 ผู้ก่อตั้งสภาที่ 3 กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะประกาศรับรองสมาชิกวุฒิสภา (สว.) จำนวน 200 คน และสำรองอีก 100 คน ในวันที่ 7 ก.ค.นี้ ว่า เนื่องจากผลการเลือกสว.ที่ผ่านมา มีการจัดฮั้ว บล็อกโหวต กันอย่างชัดเจน จนเกิดความปั่นป่วนวุ่นวาย มีการยื่นฟ้องร้องต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึงความไม่ชอบมาพากลของกระบวนการเลือกสว.ครั้งนี้ ให้มีการนับคะแนนใหม่และให้การเลือกสว.เป็นโมฆะ ดังนั้นก่อนการรับรองสว.ทั้ง 200 คน จะต้องมีการตรวจสอบทั้งหมดให้เกิดความชัดเจนโปร่งใสในทุกด้าน ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายอันใหญ่หลวงกับประเทศชาติ ด้วยเหตุผล ดังนี้

1.ผลการเลือกส.ว.ครั้งนี้เป็นผลพวงจากรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 ร่างโดยคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ที่มีนายมีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นประธานฯ มีการออกแบบกระบวนการเลือกสว.ให้มีความซับซ้อนและซ่อนเร้นแอบแฝงเป้าหมายทางการเมือง เช่นเดียวกับที่นายมีชัย เป็นประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ปี 2534 ซึ่งแต่งตั้งโดยคณะรัฐประหาร รสช. จนเกิดวิกฤตทางการเมือง นำไปสู่เหตุการณ์พฤษภา’35

2. รัฐธรรมนูญ มาตรา 107 กำหนดให้มี สว. จำนวน 200 คน มาจากการเลือกกันเองของบุคคลซึ่งมีความรู้ ความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ อาชีพ ด้านต่างๆ ที่หลากหลายของสังคม แต่กลับได้ผลลัพธ์ในทางตรงกันข้าม เพราะรายชื่อผู้ได้รับเลือกเป็นสว. ส่วนใหญ่ ไม่ตรงปก ไม่ได้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ และไม่มีความผูกพันกับอาชีพของตนเองอย่างแท้จริง จึงไม่ใช่ ตัวแทนกลุ่มอาชีพที่หลากหลายของประชาชน ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด

3. รัฐธรรมนูญ มาตรา 107 ยังกำหนดไว้ว่า ให้ดำเนินการตั้งแต่ระดับอำเภอ ระดับจังหวัด และระดับประเทศ เพื่อให้สมาชิกวุฒิสภาเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทยในระดับประเทศ แต่ผลที่ออกมามีจังหวัดที่ไม่ได้รับเลือกเป็น ส.ว. ถึง 9 จังหวัด คือ 1. กาฬสินธุ์ 2. กำแพงเพชร 3. ตาก 4. นราธิวาส 5. เพชรบูรณ์ 6. แม่ฮ่องสอน 7. ร้อยเอ็ด 8. ลพบุรี 9. สกลนครซึ่งรวมจำนวนประชากรหลายล้านคน ขณะที่ จ.บุรีรัมย์ จังหวัดเดียว กลับมีสว.มากถึง 14 คน ดังนั้น สว.ชุดนี้ จึงไม่ถือว่าเป็น “ผู้แทนปวงชนชาวไทยในระดับประเทศ” จึงขัดกับรัฐธรรมนูญ มาตรา 107

4. พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 59 บัญญัติว่า “ก่อนประกาศผลการเลือก หากมีเหตุอันควรสงสัยว่าการเลือกมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม ให้คณะกรรมการมีอำนาจสั่งระงับ ยับยั้ง แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือ ยกเลิกการเลือกและสั่งให้ดำเนินการเลือกใหม่ หรือ นับคะแนนใหม่” ซึ่งตั้งแต่การเลือกระดับอำเภอ มีการร้องเรียนและเปิดเผยหลักฐานชัดเจนแล้วว่ามีการจัดฮั้ว บล็อกโหวต แต่กกต.กลับเมินเฉย ไม่ยับยั้ง แก้ไข ปล่อยผ่านจนถึงระดับประเทศ ซึ่งมีการร้องเรียนมากมาย แล้วจะประกาศไปก่อนสอยทีหลัง ถือว่ากกต.ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือ ปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตาม ป.อาญา 157

5. ตามอำนาจหน้าที่ของ สว. นอกจากการกลั่นกรองพิจารณากฎหมาย และการติดตามตรวจสอบการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลแล้ว อีกภารกิจสำคัญคือการให้ความเห็นชอบบุคคลให้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระตามรัฐ และให้ความเห็นชอบบุคคลดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งในปี 2567 นี้มีกรรมการในหลายองค์กรที่จะครบวาระ ถึง 12 ตำแหน่ง หากปล่อยให้สว.ชุดนี้ เลือกกรรมการในองค์กรอิสระ ก็จะทำตามใบสั่งของ “กลุ่มการเมือง” และจะได้กรรมการองค์กรอิสระที่ไม่อิสระ สามารถสั่งได้ตามผลประโยชน์ทางการเมืองซ้ำรอยเดิม กลไกการถ่วงดุลตรวจสอบจะล้มเหลว กลายเป็นระเบิดเวลาทางการเมืองในที่สุด

6. จากรายชื่อสว.ทั้งหมด มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็น “สว.สายสีน้ำเงิน” มากกว่า 130 คน ซึ่งหมายถึงเครือข่ายของ “พรรคภูมิใจไทย” นายอนุทิน ชาญวีรกูล ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และเจ้ากระทรวงมหาดไทย ที่คุมกลไกทางปกครอง จะปฏิเสธอย่างไรว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสว.ชุดใหม่ ประชาชนที่มีสติปัญญาก็คงไม่เชื่อ ดังนั้นคุณอนุทิน ซึ่งประชาชนเชียร์ให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป จะต้องดำเนินการทุกอย่างให้โปร่งใส สมกับที่ประชาชนไว้ใจ อย่าให้ต้องเป็นนายกฯโดยมีมลทินมัวหมอง เพราะจะไม่ส่งผลดีต่อตัวคุณอนุทินเองในอนาคต

“ขอเตือนสติของกกต.และผู้ที่เกี่ยวข้อง ต้องรอบคอบชัดเจน สุจริต เที่ยงธรรม มิฉะนั้นความเสียหายจากการที่สว.หรือสภาสูงที่มีอำนาจในการเลือกองค์กรอิสระ นำมาซึ่งความเสียหายประชาชนและบ้านเมืองอย่างคิดไม่ถึงมากมาย เห็นชัดเจนว่าไม่มีความผูกพันต่อประชาชนเลย แม้สว.ชุดเก่าและชุดใหม่ก็ไม่ได้ต่างกัน เพราะไม่มีอะไรผูกพันยึดโยงกับประชาชนเหมือนกัน แต่อย่างน้อยสว.ชุดเก่า ซึ่งถูกคัดเลือกโดยคสช. ทำอะไรไม่ถูกต้อง ก็ยังเกรงความรู้สึกของประชาชน แต่เห็นชื่อรายชื่อสว.ชุดนี้แล้ว ไม่มีหลักประกันว่าจะทำอะไรเพื่อประเทศชาติได้เลย จึงไม่ควรให้ปล่อยผ่านไปโดยง่าย ”นายอดุลย์ กล่าว