'ดร.มานะ' ชี้ว่าที่นายก อบจ.ปทุมฯต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ - กทม.จัดซื้อวิธีเฉพาะเจาะจง

3ก.ค.2567- ดร. มานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า

ความเห็นสองกรณี: ว่าที่นายก อบจ. ปทุมฯ ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ และ กทม. จัดซื้อด้วยวิธีเจาะจงมากถึง 94% ผิดปรกติหรือไม่
.
กรณีแรก “ว่าที่นายก อบจ. ปทุมธานี” หากเข้ารับตำแหน่งแล้วจะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่? เนื่องจากถูก ป.ป.ช. มีมติเอกฉันท์ชี้มูลความผิดคดีทุจริต ศาลฯ ประทับรับฟ้องแล้ว รอการไต่สวน
ความเห็น:

1. ปัจจุบันผู้บริหารท้องถิ่น “ไม่” ถือเป็นนักการเมือง ผลคือเมื่อเกิดคดีความไม่ต้องขึ้นศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมือง แต่ขึ้นศาลคดีทุจริตเหมือนข้าราชการและเจ้าหน้ารัฐทั่วไป
คดีของนักการเมืองหากศาลฎีกาฯ ประทับรับฟ้องจะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่โดยผลของกฎหมาย แต่หากเป็นศาลคดีทุจริตฯ ผู้ฟ้องต้องร้องขอให้ศาลมีคำสั่ง
เมื่อศาลจะไต่สวนแล้ว “อาจมีดุลยพินิจไปทางใดก็ได้” โดยยึดหลักสำคัญคือ สั่งหยุดแล้วเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะหรือไม่ ขณะเดียวกันก็คำนึงถึงการปกป้องสิทธิส่วนบุคคลด้วย
เรื่องนี้กฤษฎีกามีความเห็นว่าให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ทันทีโดยผลของกฎหมายเลย เพื่อป้องกันมิให้แทรกแซงเรื่องที่ผ่านมาหรือล้างแค้นคนที่เปิดโปง และป้องกันมิให้เกิดความเสียหายซ้ำอีก

2. ผู้เขียนเห็นด้วยกับแนวทางของศาลฎีกาฯ และ คกก. กฤษฎีกา เพราะคอร์รัปชันเป็นคดีอาชญากรรมร้ายแรง กอปรกับการไต่สวนคดีของ ป.ป.ช. ผู้ชำนาญในเรื่องนี้และคดีผ่านกระบวนที่ยากลำบากในการหาข้อมูล พยานหลักฐานก่อนที่จะมีการชี้มูลความผิด
อีกทั้งคดีทุจริตการจัดซื้อจัดจ้างฯ มักมีหลักฐานชัดเจน ต่างจากคดีประเภทผลประโยชน์ทับซ้อน หรือคอร์รัปชันเชิงนโยบาย

3. ผู้เขียนสนับสนุนข้อเสนอให้กำหนดเป็นแนวทางพิจารณาของศาลว่า คดีคอร์รัปชันเป็นอาชญากรรมร้ายแรงต่อประเทศชาติ จึงต้องลงโทษรุนแรง ไม่มีการรอลงอาญา หากเป็นผู้บริหารท้องถิ่นต้องให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ทุกรายที่ศาลรับฟ้อง เพื่อมิให้ไปยุ่งเกี่ยวแทรกแซงคดีเดิมหรือก่อคดีใหม่

4. กรณีนี้สะท้อนพฤติกรรมของพรรคการเมืองไทยที่ไม่รับผิดชอบต่อประชาชน ไม่ทำหน้าที่คัดสรรบุคคลที่เหมาะสมมาให้ประชาชนเลือก มุ่งแต่ประโยชน์ทางการเมืองของพวกตนเท่านั้น
..
กรณีที่สอง กทม. ยุคชัชชาติ จัดซื้อด้วยวิธีเฉพาะเจาะจงมากถึง 94% กว่าสองพันล้านบาท เป็นเรื่องผิดปรกติหรือไม่ (ข่าวจากเว็บไซต์ ไทยพับลิก้า, 1/7/2567)
ความเห็น:

1. เป็นเรื่องวิปริตที่ธรรมดามากสำหรับราชการไทย เพราะสถิติจากกรมบัญชีกลางระบุว่า ในปี 2566 ระบบ “อีบิดดิ้ง” ถูกนำมาใช้เพียงร้อยละ 2.75 ขณะที่การจัดซื้อด้วยวิธิพิเศษ คือ วิธีคัดเลือกและเฉพาะเจาะจง ถูกใช้มากถึงร้อยละ 97.15 ตัวเลขของ กทม. จึงไม่ต่างจากค่าเฉลี่ยนัก (จากบทความของผู้เขียนเรื่อง “พฤติกรรมการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ที่น่าจับตามอง”, 29/4/2567)

2. ทุกคนรู้ดีว่าตัวเลขนี้หมายถึงอะไร!!! หากใช้ “อีบิดดิ้ง” จะช่วยประหยัดงบประมาณร้อยละ 8.13 แต่หากจัดซื้อด้วยวิธีคัดเลือก (ผู้ซื้อเชิญผู้ขายบางรายมาร่วมเสนอราคา) จะได้เพียงร้อยละ 5.94 และลดเหลือเพียงร้อยละ 1.54 เมื่อใช้วิธีเฉพาะเจาะจง (ผู้ซื้อกำหนดว่าจะซื้อจากรายใด)

3. เหตุผลที่อ้างเพื่อใช้วิธีเจาะจงหรือคัดเลือกเช่น อ้างความจำเป็นเร่งด่วน ซื้อของที่ต้องเป็นยี่ห้อเดียวกันหรือเข้ากันได้ดีกับอุปกรณ์หลัก เช่น ซื้อหมึกพิมพ์ จ้างดูแลรักษาระบบไอที ซื้ออาวุธและอุปกรณ์ ฯลฯ มีผู้ขายหรือให้บริการน้อยราย ซอยโครงการให้วงเงินต่ำกว่ากฎหมายกำหนด ฯลฯ
โดยรวมแล้วทั้งสองเรื่องแม้ขัดใจขัดสามัญสำนึกประชาชน แต่มันจะยังคงเป็นเช่นนี้หากคนไทยยังยอมให้ผู้มีอำนาจใช้กฎหมายเพื่อปกครองบ้านเมือง (Rule by Law) โดยไม่คำนึงถึง #กติกาของกฎหมาย (Rule of Law)

ดร. มานะ นิมิตรมงคล
เลขาธิการ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย)

#คอร์รัปชัน #หยุดปฏิบัติหน้าที่ #วิธีเฉพาะเจาะจง #ปปช #ลุงชาญ #ชมรมสตรอง #ชมรมstrong

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'จุรินทร์' อัดรัฐบาล ซื้อเวลาไปวันๆ ทำไมไม่ถามกฤษฎีกาเรื่อง ดิจิตอล Wallet เสียที

'จุรินทร์' อัดรัฐบาล เรื่องดิจิตอล Wallet ทำไมไม่ถามกฤษฎีกาเสียที จะได้ชัดเจนว่าถูกหรือผิดกฎหมาย เพราะข้ออ้างยื้อเวลาฟังไม่ขึ้น เหมือนซื้อเวลาสร้างความหวังประชาชนไปวันๆ

ปชป.บี้ 'ลุงชาญ' แสดงสปิริต หยุดปฏิบัติหน้าที่ ไม่ต้องรอให้ใครสั่ง ยก 'อภิรักษ์' เป็นตัวอย่าง

นายประพฤติ ฉัตรประภาชัย หรือ อาจารย์อุ๋ย นักวิชาการด้านกฎหมายและอดีตผู้สมัคร สส. กรุงเทพมหานคร เขตบางกะปิ พรรคประชาธิปัตย์ ได้แสดงความเห็นว่า

ฉาวอีก! ทุ่นลอยน้ำ กทม. 2.5 ล้าน ส่วนต่างครึ่งๆ ใช้วิธีการคัดเลือก แทนที่จะใช้อีบิดดิ้ง

เพจ ชมรมSTRONGต้านทุจริตประเทศไทย โพสต์ข้อความการทุจริตการจัดซื้อจัดจ้างของกรุงเทพมหานคร(กทม.) ว่า

'เลขากฤษฎีกา' ยืนยัน 'ลุงชาญ' ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่อัตโนมัติ หลังนั่งนายกฯอบจ.ปทุมฯ

ที่มหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ให้สัมภาษณ์กรณีนายชาญ พวงเพ็ชร์