เปิดผลสอบกิจกรรมเชียร์และแปรอักษรงาน 'ฟุตบอลจตุรมิตร' ไม่พบการละเมิดสิทธิเด็ก

กสม. เผยผลสอบเรื่องร้องเรียนกรณีการจัดกิจกรรมเชียร์และแปรอักษรงานฟุตบอลจตุรมิตร ไม่พบการละเมิดสิทธิเด็ก แต่มีข้อเสนอแนะไปยังโรงเรียนทั้งสี่เพื่อให้งานดียิ่งขึ้น

28 มิ.ย.2567 - นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เปิดเผยว่า คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ได้รับเรื่องร้องเรียนเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2566 จากผู้ร้องสามคน ระบุว่า โรงเรียนในเครือจตุรมิตร ได้แก่ โรงเรียนเทพศิรินทร์ โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย โรงเรียนอัสสัมชัญ และโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย บังคับให้นักเรียนเข้าร่วมงานฟุตบอลจตุรมิตรสามัคคี ครั้งที่ 30 ซึ่งจัดขึ้นที่สนามศุภชลาศัย สนามกีฬาแห่งชาติ ระหว่างวันที่ 11-18 พฤศจิกายน 2566 โดยนักเรียนถูกบังคับให้ซ้อมเชียร์และแปรอักษรก่อนวันจัดงาน ทำให้เสียเวลาที่ควรได้เข้ารับการศึกษาในหลายชั่วโมงเรียน ทั้งยังปรับชั่วโมงกิจกรรมชุมนุมเพื่อฝึกซ้อมเชียร์และแปรอักษร ซึ่งมีผลกระทบต่อการพิจารณาและประเมินผลการศึกษาให้ผ่านหรือไม่ผ่านในชั่วโมงกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน และในวันงานฟุตบอลจตุรมิตรสามัคคี นักเรียนจะต้องนั่งแปรอักษรบนอัฒจันทร์ที่แออัดท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนจัดติดต่อกันเกินกว่า 8 ชั่วโมง ไม่สามารถลุกจากที่นั่งหรือไปเข้าห้องน้ำได้ ทั้งยังมีความเสี่ยงต่ออันตรายจากการต้องปีนข้ามไปนั่งบนอัฒจันทร์ที่มีการต่อเติมบริเวณประตูทางขึ้นเพื่อเพิ่มจำนวนที่นั่ง นอกจากนี้ นักเรียนซึ่งเป็นผู้เข้าร่วมงานส่วนใหญ่กลับไม่มีส่วนร่วมในการกำหนดรูปแบบการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ผู้ร้องทั้งสามเห็นว่า การกระทำข้างต้นของโรงเรียนในเครือจตุรมิตรมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนของเด็ก โดยเฉพาะสิทธิทางการศึกษา สิทธิในสุขภาพ และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ จึงขอให้ตรวจสอบ

กสม. ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงจากทุกฝ่าย หลักกฎหมายและหลักสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวข้องแล้วเห็นว่า กรณีตามคำร้องมีประเด็นที่ต้องพิจารณา 2 ประเด็น ได้แก่ ประเด็นแรก การนำการเชียร์และแปรอักษรมาประกอบการพิจารณาและประเมินผลการศึกษาในชั่วโมงกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนเป็นการกระทำอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือไม่ จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงปรากฏว่า โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ไม่ได้นำการเชียร์และแปรอักษรปรับเป็นชั่วโมงกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน จึงไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการพิจารณาและการประเมินผลการศึกษาของนักเรียน ส่วนโรงเรียนเทพศิรินทร์ โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย และโรงเรียนอัสสัมชัญ ได้นำการเชียร์และแปรอักษรไปปรับเป็นชั่วโมงกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนในรายวิชากิจกรรมชุมนุม โดยสอดคล้องกับเจตนารมณ์และวัตถุประสงค์ของวิชากิจกรรมชุมนุมตามที่กำหนดไว้ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ประกอบกับการดำเนินการข้างต้นไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการพิจารณาและประเมินผลการศึกษา นักเรียนสามารถลาเชียร์และแปรอักษรได้ ทั้งระหว่างการซ้อมและในวันจัดการแข่งขัน และนักเรียนสามารถเข้าร่วมกิจกรรมชุมนุมอื่น ๆ ได้ตามความสนใจ ส่วนนักเรียนที่มีอาการเจ็บป่วยหรือมีปัญหาด้านสุขภาพไม่ต้องเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว

นอกจากนี้ โรงเรียนทั้งสี่ยังได้บริหารจัดการซ้อมเชียร์และแปรอักษร ผ่านการปรึกษาหารือร่วมกันระหว่างนักเรียน ครู และผู้บริหาร โดยให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของนักเรียนและฝ่ายวิชาการของแต่ละโรงเรียนในการจัดสรรตารางเวลาซ้อมเชียร์เพื่อให้กระทบกับการเรียนของนักเรียนน้อยที่สุด ประเด็นนี้จึงไม่ปรากฏว่าโรงเรียนผู้ถูกร้องทั้งสี่มีการกระทำอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน

ประเด็นที่สอง การจัดกิจกรรมเชียร์และแปรอักษรในการแข่งขันฟุตบอลจตุรมิตรสามัคคี ครั้งที่ 30 มีการกระทำหรือละเลยการกระทำอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือไม่ เห็นว่า พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2542 พระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม รวมทั้งอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก (CRC) ได้ให้ความสำคัญกับหลักการคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของเด็ก สิทธิในการมีส่วนร่วม สิทธิในการพัฒนา สิทธิในการได้รับบริการสาธารณสุข สิทธิในการปกป้องคุ้มครอง สิทธิในการเล่น และสิทธิในการพักผ่อน

จากการตรวจสอบปรากฏข้อเท็จจริงว่า โรงเรียนในเครือจตุรมิตรได้จัดให้มีมาตรการด้านความปลอดภัย มาตรการด้านสุขภาพ สุขอนามัย และมาตรการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งมีข้อปฏิบัติร่วมของทั้งสี่สถาบัน เพื่อดูแลความปลอดภัยให้แก่นักเรียนอย่างเหมาะสมตลอดระยะเวลาจัดการแข่งขัน ผ่านการประชุม หารือ และประสานงานร่วมกันทั้งในระดับโรงเรียนและระหว่างโรงเรียน โดยเฉพาะการทำงานร่วมกันระหว่างคณะอนุกรรมการชุดต่าง ๆ ทั้งฝ่ายครูและฝ่ายนักเรียน และมีการประสานความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ บุคคล และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันไม่ให้นักเรียนได้รับอันตราย หรือประสบเหตุร้ายแรงใด ๆ อีกทั้งมีมาตรการดูแลและช่วยเหลือนักเรียนที่อาจเจ็บป่วยหรือประสบอุบัติเหตุระหว่างเข้าร่วมกิจกรรมเชียร์

โดยเฉพาะการจัดอุปกรณ์ป้องกันแสงอาทิตย์และเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นอย่างเพียงพอ การจัดเตรียมทีมแพทย์และพยาบาลเพื่อให้ความช่วยเหลืออย่างทันท่วงที การจัดให้มีนักเรียนกลุ่มสำรองไว้คอยสลับเปลี่ยนการทำหน้าที่เชียร์และแปรอักษรบนอัฒจันทร์แทนนักเรียนที่ต้องการเข้าห้องน้ำ และการดูแลนักเรียนให้เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ รวมถึงมีการนำเทคโนโลยีต่าง ๆ มาใช้เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นักเรียน เช่น การแจกถุงปัสสาวะแบบเจล และการใช้ LINE OpenChat เพื่อสื่อสารกันระหว่างนักเรียนกับพี่เลี้ยงประจำแถว ทั้งยังให้ความสำคัญกับบทบาทการมีส่วนร่วมของนักเรียนในการจัดกิจกรรมเชียร์และแปรอักษร โดยมีผู้บริหาร ครู คณะอนุกรรมการ 21 ฝ่าย บุคคล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนภาคีเครือข่ายของโรงเรียนในเครือจตุรมิตรร่วมสนับสนุนการดำเนินการดังกล่าว จึงไม่ปรากฏว่ามีการกระทำหรือละเลยการกระทำอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนในประเด็นนี้เช่นเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม กสม. เห็นว่า เนื่องจากการจัดกิจกรรมเชียร์และแปรอักษรในการแข่งขันฟุตบอลจตุรมิตรสามัคคีมีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมาก และถือเป็นประเพณี ประวัติศาสตร์ และความภาคภูมิใจของชาวจตุรมิตรมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน ดังนั้น เพื่อให้นักเรียนในเครือจตุรมิตรที่เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวได้รับการปกป้องและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของเด็กเป็นสำคัญ กสม. ในคราวประชุมด้านการคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิมนุษยชน เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2567 จึงเห็นควรมีข้อเสนอแนะไปยังโรงเรียนในเครือจตุรมิตรทั้ง 4 แห่งในการจัดกิจกรรมเชียร์และแปรอักษร สรุปได้ดังนี้

ให้จัดเตรียมเวชภัณฑ์และเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่าง ๆ ให้เพียงพอ เช่น อุปกรณ์ป้องกันฝน ถุงเก็บปัสสาวะฉุกเฉินหรือถุงเก็บปัสสาวะแบบเจล เพื่อดูแลอำนวยความสะดวกให้แก่นักเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรมอย่างทั่วถึง รวมทั้งร่วมกันถอดบทเรียนการจัดกิจกรรมเชียร์และแปรอักษรในการแข่งขันฟุตบอลจตุรมิตรสามัคคี ครั้งที่ 30 เพื่อรับทราบสภาพปัญหา อุปสรรค หรือข้อจำกัดต่าง ๆ สำหรับใช้กำหนดแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาหรือแนวปฏิบัติร่วมกันที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะประเด็นการบริหารจัดการเวลาหลังเสร็จสิ้นการจัดกิจกรรมเพื่อไม่ให้นักเรียนต้องใช้เวลาอยู่บนอัฒจันทร์นานเกินกว่าที่จำเป็น การเพิ่มเวลาพัก และการกำหนดมาตรการหมุนเวียนสับเปลี่ยนนักเรียนที่ทำหน้าที่เชียร์และแปรอักษร

ทั้งนี้ ควรจัดให้มีกระบวนการรับฟังความเห็นของนักเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรมเชียร์และแปรอักษรให้มากยิ่งขึ้น เช่น การจัดทำแบบสอบถามความคิดเห็น การประเมินความพึงพอใจในการเข้าร่วมกิจกรรม โดยพิจารณาให้ความสำคัญกับความคิดเห็นของเด็กอย่างเหมาะสมตามอายุและวุฒิภาวะของเด็กด้วย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กสม. ชื่นชมรัฐบาล เร่งรัดกระบวนการกำหนดสถานะบุคคลแก่ผู้ที่ยังมีปัญหาไร้รัฐไร้สัญชาติ

คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) โดยนายวสันต์ ภัยหลีกลี้ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ แถลงว่า ตามที่รัฐบาลประกาศเจตนารมณ์ไว้ในการประชุมระดับสูงว่าด้วยความไร้รัฐ (High-Level Segment on Statelessness) เ

กสม.ชงนายกฯ ทบทวนปิดศูนย์การเรียนรู้เด็กต่างด้าว ห่วงผลกระทบเป็นลูกโซ่

'กสม.' มีหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ขอให้คุ้มครองสิทธิเด็กลูกหลานแรงงานต่างด้าวอย่างเป็นระบบ ทบทวนมาตรการปิดศูนย์การเรียนรู้เด็กต่างด้าว ห่วงผลกระทบกว้างขวางเป็นลูกโซ่

กสม. ชี้การปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจในเหตุการณ์ที่ 'สารวัตรกานต์' เสียชีวิต เป็นการละเมิดสิทธิฯ

กสม. ชี้ การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในเหตุการณ์ที่ 'สารวัตรกานต์' เสียชีวิต เป็นการละเมิดสิทธิฯ แนะ ตร. อบรมเสริมความรู้ด้านการบริหารเหตุการณ์วิกฤติ

ป.ป.ช.โวยขอภาพวงจรปิดชั้น14ไปนานแล้วยังไม่ได้ ให้จนท.พิจารณาเชิญ 'เสรีพิศุทธ์' เป็นพยาน

ป.ป.ช.โวยขอภาพวงจรปิดชั้น 14ไปนานแล้วแต่ยังไม่ได้ ลั่นถ้าไม่ให้ต้องตรวจสอบเหตุผล ไม่ฟันธง เชิญ 'เสรีพิศุทธ์' เป็นพยานหรือไม่ หลังเข้าเยี่ยม 'ทักษิณ'

ธำรงวินัยทหารเกณฑ์จนตายย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ กสม.ร้องเอาผิด!

กสม.ชี้กรณีทหารเกณฑ์วัย 18 ปี ถูกธำรงวินัยจนเสียชีวิต ละเมิดสิทธิในชีวิตและร่างกาย เตรียมส่งเรื่องให้อัยการสูงสุด - คกก.ป้องกันการทรมานฯ เอาผิดตามกฎหมาย

'กสม.' ชี้ ก่อสร้างโรงแรมใน ภูเก็ต ขาดการมีส่วนร่วมปชช. จี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไข

'กสม.' ชี้ โครงการก่อสร้างโรงแรมของบริษัทเอกชนใน จ.ภูเก็ต ขาดการมีส่วนร่วมของประชาชน กระทบสิทธิและวิถีชีวิตของชาวเลราไวย์ แนะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไข