ปูดรัฐบาลเหิมเกริมสั่งสื่อทีวีปิดปาก 'จตุพร' แลกผลประโยชน์ ปลุกปชช.ลุกขึ้นเปลี่ยนแปลง

ปูดรัฐบาลเหิมเกริม สั่งสื่อทีวีปิดปาก 'จตุพร' แลกผลประโยชน์ หวั่นขุดความจริงประจาน ทำ ปชช.รู้ทัน จตุพร ลั่นพูดสื่อไม่ได้ต้องไปพูดผ่านเครื่องกระจายเสียง 'ทนายนกเขา' ปลอบ ปชช.เลิกสิ้นหวังกับตนเอง กระตุ้นลุกขึ้นเปลี่ยนแปลง อย่าจมจ่อมกับแสดงพลังชุมนุม แนะแต่ละคนลงถนนแสดงฉันทามติ เชื่อเป็นพลังใหญ่ได้

28 มิ.ย. 2567 - นายจตุพร พรหมพันธุ์ และ นายนิติธร ล้ำเหลือ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ระบุว่า ผู้มีอำนาจในรัฐบาลพยายามสั่งสื่อทีวีห้ามนำนายจตุพรมาร่วมรายการ โดยมุ่งหวังปิดปากไม่ให้พูดความจริง เพราะกลัวประชาชนจะรู้เท่าทันโครงการรัฐบาลที่สร้างความเสียหายให้ประเทศ

นายนิติธร กล่าวว่า ผู้มีอำนาจสั่งการผ่านสื่อมวลชนอย่าได้เชิญนายจตุพร มาออกรายการ เพราะจะเป็นการให้ความรู้กับประชาชนจนเกิดความแข็งแรง เมื่อรายการเริ่มถูกแชร์ขยายออกไป ประชาชนรับฟังมีจำนวนมากขึ้น กลุ่มผู้มีอำนาจจึงสั่งการโดยให้ผลประโยชน์ตอบแทนสื่อเพื่อปิดกั้นนายจตุพรได้ออกสื่อทีวี

"หลายเรื่องกำลังมีปัญหาโดยเฉพาะโครงการประชานิยมต่างๆ ทั้งแลนด์บริดจ์ บ่อนการพนัน อสังหาริมทรัพย์ จนนำไปสู่การปั่นข้อกล่าวหารับงานนักการเมือง พรรคการเมือง คนนั้นคนนี้ เพื่อให้ได้เป็นรัฐบาล กระบวนการผู้มีอำนาจปลุกปั่นปิดปากกล่าวหานายจตุพรดำเนินการมาต่อเนื่อง"

อีกทั้งกล่าวว่า ประชาชนที่สิ้นหวังนั้น เป็นการสิ้นหวังจากการเมือง แต่ไม่ได้สิ้นหวังกับตัวเอง เพราะความหวังของตัวเองยังมีอยู่และสร้างได้อีก ดังนั้น การสิ้นหวังจากการเมืองจะทำร้ายความหวังของตัวเอง จึงอยู่ที่ว่า ประชาชนจะทำอย่างไรกับมัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำได้

"คุณอย่าไปนึกถึงการชุมนุมที่ต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ การเปลี่ยนแปลงประเทศแค่ประชาชนออกมาบนถนน ไม่ต้องไปสะพานมัฆวานรังสรรค์ ไม่ต้องไปทำเนียบก็ได้ ไม่ต้องไปสะพานชมัยมรุเชฐก็ได้ ถ้าประชาชนต้องการเปลี่ยนแปลง ควรกำจัดสิ่งเหล่านี้ให้สิ้นซาก หากประชาชนต้องการสัญญาไม่มีการทุจริตคอรัปชัน แค่ประชาชนออกมาบนถนน จอดรถและรอฟังการตัดสินใจว่า บรรดาผู้มีอำนาจทางการเมืองทั้งหลายจะทำอย่างไร”

นายนิติธร กล่าวอีกว่า ถ้าประชาชนออกมาถนนแล้ว ทหารหน้าไหน คนใดสั่งเอารถถัง นำกำลังพลออกมายึดอำนาจต้องมาคุยกัน มาขออนุญาติกับประชาชนก่อน ไม่มีแล้วการหลอกประชาชนแล้วตัดตอนยึดอำนาจและรวบอำนาจที่หลัง โดยอาศัยแกนนำหน้าโง่เห็นแก่ประโยชน์บางคน ต้องไม่มีอีกแล้ว

"มันไม่มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ ที่เปลี่ยนไม่ได้เพราะไม่ทำ ถ้าทำก็เชื่อว่าเปลี่ยนแปลงได้ และทำไม่ยาก เมื่อเห็นความเสียหายหลายโครงการของรัฐบาล แล้วมองถึงอนาคตจะเห็นความฉิบหายหนักมาก"

พร้อมทั้งกล่าวว่า งบประมาณรายจ่ายของรัฐบาลแต่ละปีประมาณ 3.3 ล้านล้านบาทนั้น สามารถสร้างประเทศให้เติบโตได้ โดยประเทศสิงคโปร์เล็กกว่าไทยมากกลับสร้างประเทศได้ยิ่งใหญ่ เพราะสิงคโปร์สร้างประเทศด้วยความซื่อสัตย์ของประชาชนที่มีหนึ่งเดียว

นายนิติธร กล่าวว่า สำหรับไทย ประชาชนไม่ควรคิดว่า จะต้องมีการชุมนุมต่างๆ แค่ออกมาแสดงฉันทามติในทางใดทางหนึ่งให้เห็นพ้องต้องกัน ดังนั้น ต้องแลกเปลี่ยนความเห็นกันให้ชัดเจนก่อน ให้เข้าใจปัญหาตรงกันเป็นเบื้องต้น แล้วค่อยเริ่มกระบวนการเปลี่ยนแปลง

ขณะที่ นายจตุพร กล่าวว่า ประชาชนอย่างเพิ่งสิ้นหวังกับรัฐบาลแบบนี้ แต่ควรมีความหวังอยู่ตลอดเพื่อประเทศชาติจะได้มีความหวังด้วย โดยโครงการต่างๆ ที่กำลังจะเกิดมันคือความหายนะของชาติทั้งสิ้น ดังนั้น ประชาชนผู้เป็นเจ้าของประเทศต้องไม่ปล่อยให้แผ่นดินได้รับความหายนะ

“เราต้องมีความรักชาติบ้านเมืองแบบไม่คลั่งชาติ แต่เป็นความรักอย่างมีเหตุผล เราต้องมองเห็นผลที่จะเกิดกับคนรุ่นถัดไปในช่วง 99 ปีที่รัฐบาลปล่อยให้ต่างชาติเข้ามาครอบครองที่ดินตามโครงการแลนด์บริดจ์และซื้อคอนโดอยู่อาศัย ซึ่งช่วงเวลานานเช่นนี้ไม่มีใครมีชีวิตอยู่ถึง แต่ความฉิบหายกลับอยู่ถึงแล้วไม่มีใครรับผิดชอบ เพราะคนอนุญาติได้ตายไปแล้ว โดยทิ้งมรดกบาปให้บ้านเมืองและคนรุ่นถัดๆ ไปรับชะตากรรม”

พร้อมกล่าวว่า หากโครงการแลนด์บริดจ์เกิดขึ้นมา และโครงการต่างชาติซื้อคอนโดครอบครองได้มากถึง 75% และอยู่นาน 99 ปี ซึ่งคอนโดเหล่านี้สร้างแล้วขายไม่ออกประมาณ 1.3 ล้านยูนิต กระจายตัวไปตามเมืองใหญ่ของบ้านเมือง และยังจะสร้างขึ้นใหม่มาตอบสนองความต้องการของต่างชาติเข้ามาอยู่อาศัยเสมือนเป็นประเทศตัวเอง แล้วคนไทยกลับไร้บ้าน เร่รอนอยู่ถนนราชดำเนินมากขึ้น อย่างไรก็ตามเราจะมีสภาพที่หนักกว่านั้นอีก ถ้ามีรัฐไปเอื้อประโยชน์ให้กับตัวเองและต่างชาติ เราจะมีรัฐบาลแบบนี้ไว้ทำไม

นายจตุพร กล่าวถึงผู้มีอำนาจในรัฐบาลพยายามล็อบบี้สื่อทีวีไม่ให้ตนออกรายการพูดข้อมูลความจริงให้ประชาชนรับรู้ เพราะกล้วความจริงลุกลามปลุกคนไทยกระด้างกระเดื่องต่อรัฐบาล ผู้มีอำนาจจึงพยายามแลกประโยชน์เพื่อปิดปากตนเอง

"วิธีการผู้มีอำนาจจะปิดปากผมนั้น อย่าบีบให้ต้องรีบลงถนนเลยมันเหนื่อย การนั่งจัดรายการและสื่อทีวีเชิญไป ยังปั้นเรื่องกล่าวหาว่ามีรายได้มาก ทั้งที่ผมไม่เอา แม้บางสถานีข่าวยัดเงินค่าวิทยากรให้ แต่ผมก็ห้ามไม่ให้จ่าย เพราะต้องการจะได้พูดสื่อความที่เป็นประโยชน์กับประเทศชาติบ้านเมือง เพื่อทำหน้าที่การเป็นคนไทย”

อีกทั้งกล่าวว่า ผู้มีอำนาจคนใดคิดจะปิดปากตนนั้นขอให้คิดดีๆ เพราะเอาฝ่ามือไปปิดแผ่นฟ้าไม่ได้ ซึ่งแนวคิดแบบนี้ใครก็คิดกันมาทั้งนั้น แต่ท้ายที่สุดยังปิดไม่ได้ ดูพฤษภาทมิฬ 35 พยายามควบคุมสื่อ แต่สุดท้ายคุมไม่ได้ จนสื่อลุกขึ้นมาเป็นกบฎ ไม่ยอมรับคำสั่งผู้ยึดอำนาจ

นายจตุพร กล่าวว่า ถ้ารัฐบาลมีข้อมูลที่ดีกว่า ควรมาออกรายการด้วยกันจะเป็นประโยชน์กับประเทศและประชาชน ตนไม่เห็นมีปัญหา เห็นสัมภาษณ์ผ่านสื่อเก่งกันทุกคน แต่พอเถียงไม่ได้กลับจะใช้วิธีสั่งสื่อให้ปิดปากตนเสียอีก

"ในอดีตพยายามจะมีการใช้วิธีการปิดปากแบบนี้ นั่นเท่ากับเป็นการส่งสัญญาณแล้วว่า รัฐบาลกำลังจะไปแล้ว ถ้ารัฐบาลต้องการอยู่ต่อ ต้องอยู่แบบทระนง โดยรัฐบาลจะมีความมั่นคงได้ต้องให้ประชาชนตรวจสอบได้ วิพากษ์วิจารณ์ได้ ส่วนรัฐบาลที่แตะต้องไม่ได้จะไม่มีภูมิต้านทานเลย ถ้าทนร้อน ทนไฟได้ รัฐบาลต้องทำในสิ่งที่ดี ถ้ามั่นใจเป็นทองแท้ก็ตอบโต้มา ข้อมูลใดไม่ใช่ก็พูดมา”

นายจตุพร ย้ำว่า ถ้าจะปิดปากตนต้องรีบทำ เพราะเชื่อว่าอีกไม่นานจะไม่มีปัญญาได้ทำเลย โดยความเดือดร้อนและความเสียหายของบ้านเมืองจะนำไปแหวกอกรัฐบาลทุกเรื่องราว ส่วนการปิดปากจะทำได้จริงหรือไม่ แต่เมื่อตนไม่มีทางออกต้องไปพูดผ่านเครื่องกระจายเสียงแทน

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อดีตนักธุรกิจอสังหา' คิดใหญ่ตาม ดีเอ็นเอปล่อยกู้พม่า เข้าข่ายผลประโยชน์ทับซ้อน

'จตุพร' ย้ำอดีตนักธุรกิจอสังหา ได้เวลาเป็นนายกฯ คิดใหญ่ตามดีเอ็นเอปล่อยกู้พม่ามาซื้อสินค้าอดีตนายกฯ ซัดกล้าคิดเชิงผลประโยชน์ทับซ้อน ถามคนไทยพร้อมวัดใจลุกขึ้นมาจัดการหรือยัง?

‘จตุพร’ ซัด ‘เศรษฐา’ เลอะเทอะเสนอขายคอนโด 75% ให้ต่างชาติ ชี้กระทบมั่นคงประเทศ

‘จตุพร’ตอก’เศรษฐา’ ไอเดียเลอะเทอะเสนอขายคอนโด 75% อยู่นาน 99 ปี ซัดกระทบมั่นคงประเทศ ไม่ได้กระตุ้นเศรษฐกิจ ส่อเป็นอาณานิคมจำแลงย้อนยุค ถามใครได้ประโยชน์ ติงทบทวนอาชีพนักธุรกิจอสังหาก่อนเป็นนายกฯ หวังสังคมติเตียน

'จตุพร' ชี้ปมอัยการไม่ค้านประกันตัวคดี 112 ไม่มีใครหยุดอหังการ 'ทักษิณ' ได้

นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ว่า อัยการสูงสุดไม่คัดค้านการประกันตัวของทักษิณ ชินวัตร คดี ม.112 จึงเป็นสิ่งน่ากังวลของบ้านเมือง เพราะไร้หลักการยึดถือเป็นแบบอย่างในคดีแบบเดียวกัน

สู้หรือเผ่น! ‘จตุพร’ หยัน ‘ทักษิณ’ อย่าตาขาว อ้างป่วย เบี้ยวนัดอัยการส่งฟ้อง112

‘จตุพร’ แนะทักษิณ เหลืออีก 3 วันต้องไปศาลคดี ม.112 ให้ทบทวนสถานการณ์ด้วยเกียรติยศ ให้ใช้ตาดำมากกว่าตาขาว อย่าจมจ่อมกับคิดเผ่นหนีอีกรอบ ฟาดปากกล้าด่าต้นไม้พิษ ซัดควรไปศาลฟังคำวินิจฉัยให้ประกันตัวหรือไม่ด้วยตัวเอง

'จตุพร' ดักทาง 'ทักษิณ' อย่าหนีคดี 112 แสดงความกล้าไปขึ้นศาลแบบสง่างาม

นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ว่า การดิ้นยื่นของความเป็นธรรมในคดี ม.112 ของทักษิณ ชินวัตร ไม่อาจแปรเปลี่ยนคำฟ้องศาลของอัยการสูงสุดได้อีกแล้ว ดังนั้น