'ปิยบุตร' ปลุกเพื่อนนักการเมืองเลิกทำตัวเป็น 'ไก่ในเล้า' ร่วมต้านเรื่องยุบพรรค

20 มิ.ย.2567 - นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า เมื่อครั้งพรรคไทยรักษาชาติถูกศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคด้วยข้อหากระทำการอันเป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จากกรณีเสนอชื่อทูลกระหม่อมอุบลรัตน์เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ครั้งนั้น ผมเป็นเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ได้เสนอต่อคณะกรรมการบริหารพรรคว่าจะขอแถลงต่อสาธารณะ แสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับศาลรัฐธรรมนูญ

มีผู้หวังดีกับพรรคบอกมาว่า อย่าไปยุ่งเลย แต่สุดท้าย เรายืนยันว่าต้องแถลง ผมอธิบายผู้หวังดีไปว่า ผมมีจุดยืนคัดค้านการยุบพรรคมาโดยตลอด สมัยเป็นอาจารย์ นิติ มธ.ก็ออกแถลงการณ์กับเพื่อนๆ คัดค้านการยุบพรรคไทยรักไทย พลังประชาชน ชาติไทย มัชฌิมาธิปไตย

แม้วันนี้ มาเป็นนักการเมือง ผมก็ยังอยากเห็นพรรคการเมืองทั้งหมด แม้จะเห็นไม่ตรงกัน อยู่กันคนละฝ่าย ควรจับมือร่วมกันต่อสู้กับการยุบพรรคแบบไทยๆ ที่ใช้กันมาตั้งแต่ 49/50

ผมแถลงข่าวไป พร้อมเผยแพร่เอกสาร

จากนั้น บุรินทร์ ทองประไพ นายทหารพระธรรมนูญ ก็ไปร้องทุกข์กล่าวโทษ ดำเนินคดีผมในข้อหา ดูหมิ่นศาล ผมตกเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญาครั้งแรกในชีวิต มีข้อหาพะรุงพะรัง เสียเวลากับคดีความไปพอสมควร ผ่านไปปีเศษอัยการสั่งไม่ฟ้อง

นักการเมืองต้องเป็นผู้นำทางความคิด ชี้นำความคิดที่ถูกต้องให้สังคม

นักการเมืองไม่ควรทำตนเป็น “ไก่ในเล้า” ตีกันในกรงขังทางกฎหมายที่พวก “ชนชั้นนำดั้งเดิม” สร้างเพื่อล้อมคอกนักการเมือง แทนที่จะสะใจ เยาะเย้ย ถากถาง กับพรรคที่อาจโดนยุบหรือพรรคที่โดนยุบ ควรร่วมกันต่อสู้เรื่องการยุบพรรคดีกว่า หยุดเอาใจ แสดงตนเป็นเด็กดี ของชนชั้นนำดั้งเดิม ทำในสิ่งที่ถูกต้อง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ผลงานรบ.ไม่ออก ผู้นำไม่เปรี้ยง ‘เศรษฐา’ เจอค่อนแคะสไตล์ทำงาน

ใกล้เคียงกับคำว่า สัปดาห์นรก สำหรับช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน ต้องตกเป็นฝ่ายตั้งรับกับหลายๆ เรื่อง ทั้งนอกทั้งในรัฐบาล

คดียุบพรรคก้าวไกล ศาลรธน.ให้คู่กรณีตรวจพยานหลักฐาน 9 กรกฎา.

ศาลรัฐธรรมนูญได้มีการอภิปรายในคำร้องที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)โดยนายทะเบียนพรรคการเมือง ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา

ยาว! ศาลรธน.นัดอีก 10 กรกฎา พิจารณาคดี 40 สว.ยื่นถอดเศรษฐา

ที่ศาลรัฐธรรมนูญ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีการพิจารณาคำร้องกรณีสมาชิกวุฒนิสภา (สว.) 40 คน ในฐานะผู้ร้อง และนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ถูกร้องที่ 1 กรณีมีได้นำความกราบบังคมทูลเพื่อโปรดเกล้