7 มิ.ย.2567 - พล.ต.อ.วัชรพล ประสานราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงกรณีตำรวจนครบาล ระบุว่า ป.ป.ช. เตะถ่วงคดีพล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ในคดีฟอกเงินจากเว็บพนันออนไลน์ BNK Master ว่า เรื่องนี้คงต้องลำดับเหตุการณ์ให้ฟังว่าเริ่มต้นหน่วยงานทางเทคโนโลยีของตำรวจทำคดีที่มีการกล่าวหานายตำรวจไปเรียกรับเงินและฟอกเงิน จึงเสนอเรื่องมาที่ ป.ป.ช. ตอนแรกเรื่องที่ส่งมาเป็นเรื่องนายตำรวจระดับ พ.ต.อ. จึงเห็นว่าไม่ใช่คดีเข้าข่ายร้ายแรง จึงมอบหมายให้หน่วยงานที่ป้องกันและปราบปรามการทุจริตรับไปดำเนินการ แต่ต่อมามีการร้องเรียนและมีความเชื่อมโยงว่ามีผู้ดำรงตำแหน่งระดับรอง ผบ. ตร. จึงรับเรื่องไว้ทำเอง ซึ่งถือเป็นอำนาจหน้าที่ของป.ป.ช.ที่ดำเนินการไปตามกฎหมายที่จะพิจารณาเรื่องนี้และเรื่องที่เกี่ยวโยงกัน รวมทั้งคดีสน.เตาปูนด้วย จึงรับเรื่องทั้งหมดกลับมาทำถือว่าอำนาจหน้าที่ของตำรวจสิ้นสุดลงจึงมีมติให้ตำรวจส่งเรื่องคืน โดยเตือนไป 2 ครั้งแล้ว
พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า เป็นอำนาจของป.ป.ช.ในการดำเนินคดีที่เกี่ยวเนื่องดังนั้น ชัดเจนว่าเรื่อง สน.เตาปูนมีมติแล้วให้ทางสน.เตาปูนและนครบาลทราบ ข้อเท็จจริงเป็นอย่างนี้ ว่าวันนี้อยู่ในอำนาจ ป.ป.ช.แล้ว เขาไม่มีอำนาจ เรื่องเดิมก็ต้องส่งให้เรา ดังนั้นใครมีหน้าที่อะไร ตามกฎหมาย ก็ทำไปตามหน้าที่นั้น ถ้าคิดว่า ป.ป.ช.ทำไม่ถูกต้อง ก็มีกระบวนการที่จะตรวจสอบ และถ้าป.ป.ช.เห็นว่าเขาทำไม่ถูกต้องก็มีกระบวนการที่จะต้องตรวจสอบเช่นกัน ส่วนหนังสือของ บช.น.ที่ระบุว่ากฎหมายฟอกเงินไม่ได้อยู่ในอำนาจของป.ป.ช.
การที่ศาลอาญาออกหมายจับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ในข้อหาร่วมกันฟอกเงิน ถือว่าเป็นคดีอาญานั้น ก็เป็นอำนาจศาลที่จะพิจารณา แต่จากเอกสารที่ได้รับมาบางส่วน กรณีที่ศาลออกหมายจับ มีบันทึกระบุว่าศาลได้ถามเจ้าหน้าที่แล้วว่าเกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่รัฐหรือผิดต่อตำแหน่งหน้าที่หรือไม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าไม่เกี่ยว ศาลจึงออกหมายจับดังกล่าวตามอำนาจหน้าที่ ในส่วนสำนวนคดี สน. เตาปูน ที่ทาง ป.ป.ช. คืนให้กับทางตำรวจนครบาลนั้น มีประมาณกว่า 10 คน ที่ไม่ได้อยู่ในอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช. ส่วนที่เหลือเมื่อวินิจฉัยว่าเป็นความผิดร้ายแรงและความผิดเกี่ยวเนื่องกัน ทาง ป.ป.ช.ก็ต้องรับมาดำเนินการและทำให้โปร่งใสรวดเร็วดังนั้น ใครทำหน้าที่อะไรก็ทำไป
เมื่อถามถึงกรณีที่มีการล่ารายชื่อถอดถอนกรรมการ ป.ป.ช. พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า เป็นสิทธิ์ตามกฎหมาย ซึ่งมีเงื่อนไขอยู่แล้วว่าป.ป.ช.จะถูกตรวจสอบด้วยเรื่องอะไรได้บ้าง ประชาชนสามารถเข้าชื่อกันได้ 20,000 ชื่อ ส่งข้อกล่าวหาไปยังสภาได้ และถ้าสภาตรวจสอบแล้วพบว่ามีหลักฐานอาจจะมีมติส่งให้ประธานศาลฎีกาเพื่อตั้งผู้ไต่สวนอิสระ และกรรมการ ป.ป.ช.ที่ถูกกล่าวหาจะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย ทั้งนี้ กรรมการ ป.ป.ช.ที่รับผิดชอบเรื่องนี้เป็นอดีตตุลาการในชั้นศาลฎีกาและเป็นตุลาการผู้ใหญ่ ทุกเรื่องเมื่อพิจารณาแล้วจะต้องเป็นมติของกรรมการ ป.ป.ช.
ดังนั้นยืนยันว่าจะดำเนินการอย่างถูกต้อง ให้ความเป็นธรรมและจะรีบดำเนินการอย่างรวดเร็ว แต่ที่ยังทำไม่ได้รวดเร็ว เพราะทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่ได้ส่งเรื่องคืนมาให้เราต้องเตือนไปถึง 2 ครั้งแล้ว ถ้ายังไม่ส่งอีกก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ อาจจะเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เพราะเป็นไปตามกฎหมาย เช่นเดียวกันกับที่เขาบอกว่าเราละเว้น ถ้าคิดว่าเราทำผิดก็ดำเนินการ และหากเขาทำไม่ถูกต้องก็ต้องถูกดำเนินการตามกฎหมายเช่นเดียวกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มาแล้ว! ศาลปกครอง ร่อนเอกสารชี้แจงปม 'บิ๊กโจ๊ก' ยังไม่มีคำพิพากษาใดๆ
ศาลปกครอง เผยแพร่เอกสารชี้แจง กรณีที่มีสื่อมวลชนนำเสนอผลการพิจารณาคดีของศาลปกครองสูงสุด ในคดีที่พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล ยื่นฟ้องขอเพิกถอนคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ให้ผู้ฟ้องคดีออกจากราชการไว้ก่อน นั้น
ป.ป.ช.สะดุ้ง! ยก 6 เหตุผลปราบคอร์รัปชันไร้ประสิทธิภาพ คนโกงจึงเหิมลำพอง
สาเหตุที่การป้องกันและปราบปรามการทุจริตไม่ได้ผลไร้ประสิทธิภาพและพวก คนโกงคนชั่วหรือเหิมลำพอง อยู่ได้ก็เพราะ
กูรูใหญ่ปูดข่าว 'บิ๊กโจ๊ก' ให้การ ปปช. ยืนยันชั้น 14 'ป่วยทิพย์'
นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก
ลุ้นองค์คณะฯอ่านคำพิพากษา ดับฝัน 'โจ๊ก-แมว9ชีวิต' กลับตร.
เมื่อวันที่ 27 ส.ค. ที่ผ่านมา "บิ๊กโจ๊ก" - พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล ได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองสูงสุด เพื่อตรวจสอบความชอบธรรมของคำสั่งให้ออกจากราชการ ซึ่งคดีนี้เป็นประเด็นสำคัญที่ได้รับความสนใจ เนื่องจากเกี่ยวข้องกับการใช้อำนาจทางปกครองในระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ผบ.ตร. ไม่ขอก้าวล่วง ศาลปกครองสูงสุด ชี้ขาด 'บิ๊กโจ๊ก' ขอคุ้มครองชั่วคราว
พล.ต.อ.กิตติรัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงกรณีที่ศาลปกครองยกคำร้องคุ้มครองชั่วคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล ว่า ตนขอให้ความเห็นแบบกว้าง ๆ
ศาลปกครองสูงสุด ปิดเงียบผลชี้ขาดคดีบิ๊กโจ๊ก สั่งเก็บหลักฐานฟันสื่อละเมิดอำนาจศาล
นายประสิทธิ์ศักดิ์ มีลาภ ประธานศาลปกครองสูงสุด เป็นประธานการประชุมใหญ่ตุลาการศาลปกครองสูงสุด