'เอนก' ยกคติธรรม 'พุทธทาสภิกขุ' สอนนักการเมือง ควรทำตัวอย่างไร

2 มิ.ย. 2567 – นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ อดีต รัฐมนตรีว่ากระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และ นวัตกรรม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า

ผมอยากให้อ่านจนจบ และร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันนะครับ

ฟ้าสางทางการเมือง

…. การเมืองบริสุทธิ์ต้องมีศีลธรรมเป็นรากฐาน

…. ถ้าจะให้ฟ้าสางทางการเมือง ศีลธรรมต้องกลับมา

“ศีลธรรมต้องกลับมา” จึงจะมีฟ้าสางทางการเมือง, แล้วให้มีฟ้าสางทางการเมืองที่เรียกว่า “ระบบประชาธิปไตยเป็นหลักการของธรรมชาติ ที่ให้เราอยู่กันอย่างเพื่อน, อยู่กันอย่างเพื่อนโดยมีศีลธรรมเป็นรากฐาน”

…. เดี๋ยวนี้ที่เรียกว่า การเมืองๆ ทั่วทั้งโลกนั้น มันคือระบบเอาเปรียบผู้อื่น นี่กล้าท้าอย่างนี้เลย; ระบบการเมืองของประเทศไหนก็ตามใจเถอะ มันคือ “วิธีการเอาเปรียบผู้อื่น”

…. ดังนั้น การเมืองจึงได้นามอย่างใหม่ขึ้นมาว่า “การเมืองเรื่องสกปรก” หรือ การเมืองปัจจุบันนี้ของคนที่ไม่มีศีลธรรมนี้ เรียกว่า “การเมืองเรื่องสกปรก”, แต่ถ้าการเมืองที่ถูกต้อง คือจัดสังคมให้อยู่กันเป็นผาสุกโดยไม่ต้องใช้อาชญา แล้วมันเป็นเรื่องวิเศษ, เป็นเรื่องที่จําเป็นจะต้องมี

…. ทีนี้ เราไม่มีสติปัญญาของเราเอง เราเป็นทาสทางสติปัญญาแก่พวกฝรั่ง ทําอะไรตามก้นฝรั่งไปหมด เรียนการเมืองจากตําราของฝรั่ง เอาเรื่องของฝรั่งเป็นหลัก มันก็คือ หลับหูหลับตา

จะเห็นได้ว่า ประเทศไหน การเมืองของประเทศไหนในโลกทั้งโลก การเมืองของประเทศไหนที่มันสร้างความสงบสุขขึ้น ในประเทศนั้น

ในประเทศประชาธิปไตยก็ไม่เห็นมีสันติภาพ,

ในประเทศคอมมูนิสต์ก็ไม่เห็นมีสันติภาพ,

ไม่เห็นมีว่าการเมืองฝ่ายไหน ของกลุ่มไหน ที่มันมีสันติภาพ : ยิ่งเป็นประเทศใหญ่ๆแล้ว ก็ยังไม่มีสันติภาพสงบสุข.
ประเทศที่เป็นมหาประเทศ เขายกตัวเป็นมหาประเทศยิ่งด้วยพัฒนา ประเทศอย่างนั้นยิ่งไม่มีความสงบสุข…”
พุทธทาสภิกขุ

ที่มา : ธรรมบรรยายหัวข้อเรื่อง “ฟ้าสางทางการเมือง” เมื่อวันที่ ๒ เมษายน ๒๕๒๖ ณ ลานหินโค้ง สวนโมกขพลาราม จากหนังสือ “ฟ้าสางทางธรรม”

ศีลธรรมกับการเมือง เป็นสิ่งที่แยกจากกันไม่ได้

…“ มีใครสักกี่คน ที่เป็นนักการเมืองเพื่อเอาบุญด้วยการช่วยสร้างสันติภาพขึ้นในโลก?

และมีกี่คนที่เป็นนักการเมืองเพื่อ “ตัวกู-ของกู” และมีผลกลายเป็นเรื่องของ..กิน..กาม..เกียรติ ที่เห็นแก่ตัวฝ่ายเดียว

…. ธรรมะ กับ การเมือง เป็นสิ่งที่แยกกันไม่ได้ แยกกันเมื่อไร การเมืองก็กลายเป็นเรื่องทำลายโลกขึ้นมาทันที
การเมืองที่แท้จริงสำหรับมนุษย์ ต้องตั้งรากฐานอยู่บนรากฐานทางศาสนาของทุกศาสนาที่มีอยู่ว่า…

“สัตว์ทั้งหลาย เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น”

นักการเมืองที่มีธรรมสัจจะข้อนี้อยู่ในใจ…การเคลื่อนไหวของเขาทุกกระเบียดนิ้ว มีแต่บุญกุศล จนกระทั่งกลายเป็นปูชนียบุคคลไป

…. ขอภาวนาให้โลกเรา มีนักการเมืองชนิดนั้น เป็นผู้จัดการเมืองของโลกโดยทั่วไปเถิด”
พุทธทาสภิกขุ

ที่มา : จากหนังสือ“ธรรมวาทะของท่านพุทธทาส”

ธรรมะ กับ นักการเมือง
…. “ พวกที่นิยมการเมือง เพื่อเป็นเครื่องมือแสวงหาประโยชน์แล้ว มันก็จะเกลียดธรรมะ; จะเห็นว่า ธรรมะนี้เป็นข้าศึกของความเจริญของเขา, ธรรมะนี้กลับเป็นข้าศึกแก่การแสวงหาประโยชน์ของเขา ;

เขาจึงพูดว่า ธรรมะนี้เอามาใช้กับสิ่งที่เรียกว่าการเมืองไม่ได้ ขอให้ท่านทั้งหลายไปลองถามนักการเมืองทั้งหลายในประเทศเรา ในประเทศอื่น หรือนักการเมืองทั้งโลกดูว่าเราจะเอาสิ่งที่เรียกว่า “ธรรมะ” นี้ มาใช้ในการเมืองได้หรือไม่ ? เขาจะตอบว่าอย่างไร ?

ขอให้เป็นเรื่องสมมติ เพราะว่ามันยากที่ว่าเราจะไปถาม ได้ทุกคน แต่สมมติว่าเราไปถามได้ทุกคน ว่าธรรมะนี้จะเอามาใช้ในการเมืองได้หรือไม่? เขาจะตอบว่าอย่างไร?”

พุทธทาสภิกขุ

ที่มา : ธรรมบรรยายประจำวันเสาร์ ครั้งที่ ๗ แห่งภาคอาสาฬหบูชา หัวข้อเรื่อง “ถ้ามีธรรมะก็ไม่ต้องมีการเมือง” เมื่อวันที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๑๙ จากหนังสือชุดธรรมโฆษณ์ เล่มชื่อว่า “ธรรมะกับการเมือง” หน้า ๓๔๐
รวบรวมโดย ท. ส. ปัญญาวุฑโฒ

✍️ ความเห็นของผม คือ

” ท่านพุทธทาสชี้มานานแล้วว่า การเมืองและนักการเมืองที่มีธรรมะนั้นทำอะไร เป็นอย่างไร
แต่จะมีนักการเมืองอย่างนั้นได้ ประชาชนผู้ลงคะแนนเสียง ก็ต้องมีธรรมะ ด้วย เช่นกันนะครับ”

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อ.เดชา' หน่าย พฤติกรรมนักการเมือง จะรอถึงการเลือกตั้งครั้งหน้า หรือให้ทหารมาจัดการ

นายเดชา ศิริภัทร ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ เจ้าของสูตรน้ำมันกัญชา (ตำรับหมอเดชา) โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ว่า

'เอนก' ยันยังไม่มีอะไรที่น่าวิตก ไม่พบซีเซียม137 เกินค่ามาตรฐาน

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.การอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ให้สัมภาษณ์หลังประชุมได้ประชุมร่วมกับเล