นายกฯ นัดถก ก.ตร. หารือปมกฤษฎีกาตีความคำสั่ง 'บิ๊กโจ๊ก' ออกจากราชการ

29 พ.ค.2567 - ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 30 พ.ค.67 เวลา 15.30 น. นาย เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ นัดประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.)ครั้งที่ 4/2567 ณ ห้องประชุมศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

โดยมีวาระการประชุม 5 วาระ ประกอบด้วย วาระที่ 1 เรื่องที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ ,วาระที่ 2 รับรองรายงานการประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 3/2567 ,วาระที่ 3 เรื่องที่เสนอเพื่อทราบ รายงานการดำเนินการของคณะอนุกรรมการคณะกรรมการข้าราชการตำรวจเกี่ยวกับการดำเนินการทางวินัย (อ.ก.ตร.วินัย) ที่ ก.ตร. มอบหมายให้ทำการแทน ,รายงานสถิติข้อมูลการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามประมวลจริยธรรมข้าราชการตำรวจ พ.ศ. 2564 และกฎ ก.ตร.ว่าด้วยจรรยาบรรณของตำรวจ พ.ศ. 2566 ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 (ระหว่างเดือนเมษายน-กันยายน 2566) ,ขอสำเนารายงานการประชุม ก.ตร.

วาระที่ 4 เรื่องที่เสนอเพื่อพิจารณา การกำหนดมาตรฐานขั้นต่ำเกี่ยวกับอัตรากำลังพลในกลุ่มสายงานสืบสวนสอบสวน ,การกำหนดกรอบอัตราพัสดุ ระดับสถานีตำรวจ กองบังคับการตำรวจนครบาล และตำรวจภูธรจังหวัด ,การจัดทำคำขออนุมัติกรอบอัตรากำลังพนักงานราชการ รอบที่ 6 (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2568-2571) ,การมอบหมายให้ชี้แจงเรื่องร้องทุกข์ และดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.)และ วาระที่ 5 เรื่องอื่นๆ

มีรายงานว่า ในการประชุม ก.ตร. วันพรุ่งนี้ ต้องจับตาว่าจะมีการหยิบยกประเด็นวาระที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามีบันทึกความเห็นกรณีการให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ออกจากราชการไว้ก่อน นายกฯ ต้องนำความกราบบังคมทูลเพื่อมีพระบรมราชโองการให้พ้นจากตำแหน่ง เพราะไม่เข้าข้อยกเว้นที่จะไม่ต้องนำความกราบบังคมทูลเพื่อมีพระบรมราชโองการให้พ้นจากตำแหน่ง ตามมาตรา 140 วรรคหนึ่ง เนื่องจากมิใช่การพ้นจากตำแหน่งเพราะความตาย เกษียณอายุ หรือพ้นจากราชการเพราะถูกลงโทษ ด้วยเหตุที่การออกจากราชการไว้ก่อนมิใช่โทษทางวินัยตามมาตรา 156 และกรณีที่เห็นว่าการสั่งให้ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ออกจากราชการ หากเป็นความเห็นของคณะกรรมการสอบสวนก็จะชอบด้วยกระบวนการตามกฎหมายและเป็นธรรมแก่ผู้ถูกสอบสวน และการนำความกราบบังคมทูลตามมาตรา 140 วรรคหนึ่ง ย่อมเป็นไปด้วยความชอบธรรม มาหารือหรือพูดคุยในที่ประชุมหรือไม่

ทั้งนี้เนื่องจากก่อนหน้านี้ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ได้ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อ ก.พ.ค.ตร. และ ก.ตร. เพื่ออุทธรณ์คำสั่งให้ออกจากราชการ ซึ่งเป็นคำสั่งทางปกครองที่รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้ลงนาม โดยมองว่าเป็นคำสั่งที่มิชอบ ประกอบกับก่อนจะมีหนังสือคำสั่งให้ออกจากราชการ พบว่ามีการร่างคำสั่งเอาไว้ตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน และลงนามในวันที่ 18 เมษายน แสดงให้เห็นว่ามีขบวนการให้ออกจากราชการหรือไม่ ขณะเดียวกัน พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ยังเตรียมจะยื่นฟ้อง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ์ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและผู้เกี่ยวข้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบอีกด้วย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แอคชั่นทันที! นายกฯมาเอง ลงพื้นที่ห้วยขวาง สั่งสอบป้ายโฆษณาขายพาสปอร์ต

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่สน.ห้วยขวาง ติดตามสอบถามข้องเท็จถึงกรณีที่พบมีการติดแผ่นป้ายโฆษณาซื้อขายหนังสือเดินทางและพาสปอร์ตที่แยกห้วยขวาง พบว่ามีการขึ้นป้ายดังกล่าวเมื่อวันที่ 21 ก.ค. 2567 เนื้อหาเป็นข้อความเกี่ยวกับการรับจ้างทำหนังสือเดินทาง

อดีตจเรตำรวจฯ ขอทำเรื่องเฉพาะหน้า ‘เพิ่มเงิน-สวัสดิการตำรวจ’ ก่อนจะไปเปลี่ยนประธาน ก.ตร.

ณะนี้มีการเคลื่อนไหวจะปฏิรูปตำรวจโดยตำรวจเอง หลักๆคือให้นายกรัฐมนตรีไม่เป็นประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร.  แต่ประธานจะมาจากการเลือกกันเองเหมือนคณะกรรมการข้าราชการอัยการ หรือ ก.อ. กระผม ไม่แน่ใจว่าจะเกิดผลดีกว่าเดิมหรือแย่กว่าเก่า

‘นักกฎหมายตำรวจ’ ถอดบทเรียน การเข้าระงับเหตุ ลดความสูญเสีย

ด้วยความเคารพความกล้าหาญ และเสียสละของผู้เสียชีวิต ควรแก่การยกย่องเป็นเกียรติประวัติสืบไป แต่การเข้าระงับเหตุ ของตำรวจไทยมีข้อผิดพลาด ต้องนำไปถอดบทเรียนแก้ไข

สลด! หนุ่มมุกดาหารโดนไฟดูด ดับคาเสาไฟฟ้าแรงสูง

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.มุกดาหาร ได้รับแจ้งเหตุว่ามีคนตายบนเสาไฟฟ้าแรงสูง บริเวณทางเข้าหมู่บ้านคำตุนาง ไปยังหมู่บ้านกุดโง้ง ตำบลมุก อำเภอเมือง

‘บิ๊กเอก’ ยกเสียงสะท้อนจากตำรวจ เจ็บปวดผู้มีอำนาจข่มขืนองค์กร ถึงเวลาต้องปฏิรูปตร.

อีกเสียงสะท้อนจากนายตำรวจ ที่สื่อสารออกมา อย่างเจ็บปวด เปรียบเทียบให้เห็นภาพองค์กรตำรวจ ผู้มีอำนาจทางการเมือง อดีตผู้บังคับบัญชาสูงสุด ทำอะไรไว้ ควรที่จะปฏิรูปตำรวจอีกหรือไม่

'เศรษฐา' อย่าสับสน! โพลวัดผลงาน ไม่ใช่เรตติ้งนายกฯ

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า อย่าสับสน !!! ระหว่างผลงาน กับการเลือกนายกฯ คนต่อไป