ศาลแขวงเชียงใหม่ “พิพากษาปรับ” 14,500 บาท พร้อม “พักใช้ใบอนุญาตขับขี่” ชาญศักดิ์ สมประโยชน์ รองอธิบดีผู้พิพากษาภาค 5 หลังปรากฏคลิป “อ้างตัวเป็นรองอธิบดี” ขับรถเฉี่ยวรถกู้ภัย ที่จ.เชียงใหม่ ในคืนก่อนส่งท้ายปี ส่วนการดำเนินการทางวินัย สนง.ศาลยุติธรรมรอสอบข้อเท็จจริงเพิ่มจากต้นสังกัด
6 ม.ค. 2565 - ศาลยุติธรรม เผยแพร่ข่าวสื่อมวลชนความว่า จากกรณีที่ปรากฏเป็นข่าวในสื่อสังคมออนไลน์และข่าวสถานีโทรทัศน์ ช่วงคืน 30 ธ.ค.ที่ผ่านมา ต่อเนื่องจนถึงเช้าวันที่ 31 ธ.ค. 2564 ทำนองว่ามีชายซึ่งถูกถ่ายคลิปเผยแพร่ภายหลังเกิดเหตุรถเฉี่ยวชนรถกู้ภัย ที่ บริเวณแยกแสงตะวัน ต.ช้างคลาน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ และอ้างตัวว่าเป็นรองอธิบดีผู้พิพากษานั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 5 ม.ค. 2565 พนักงานอัยการสำนักงานคดีศาลแขวงเชียงใหม่ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายชาญศักดิ์ สมประโยชน์ จำเลย ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นรองอธิบดีผู้พิพากษาภาค 5 ช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งรองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 5 ฐานขับรถในขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่น, ขับรถโดยประมาท ฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานไม่ยอมทดสอบแอลกอฮอล์ และขับรถในทางก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลแล้วไม่หยุดรถและให้ความช่วยเหลือตามสมควร
ศาลแขวงเชียงใหม่ ประทับฟ้องเป็นคดีหมายเลขดำ 229/2565 ซึ่งจำเลยให้การรับสารภาพ ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยกระทำความผิดตามฟ้อง ศาลจึงมีคำพิพากษาเป็นคดีอาญาหมายเลขแดง 226/2565 ว่า จำเลยมีความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 43 (2) (4), 78 วรรคหนึ่ง, 142 วรรคสอง, 154 (3), 157, 160 วรรคหนึ่ง, 160 ตรี วรรคหนึ่ง การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา (ป.อ.) มาตรา 91 ฐานขับรถขณะเมาสุรากับฐานขับรถโดยประมาท เป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทให้ลงโทษฐานขับรถขณะเมาสุราซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตาม ป.อ.มาตรา 90 พิเคราะห์พฤติการณ์เกี่ยวกับการกระทำความผิดกับความเสียหาย ซึ่งปรากฏตามคำฟ้องว่าจำเลยได้ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหายจนเป็นที่พอใจ ถือว่าจำเลยสำนึกผิดและบรรเทาผลร้ายแล้ว ฐานขับรถขณะเมาสุรา ปรับ 18,000 บาท ฐานขับรถในทางซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของผู้อื่นแล้วไม่หยุดรถให้การช่วยเหลือตามสมควรฯ ปรับ 10,000 บาท ฐานไม่ปฏิบัติคำสั่งของเจ้าพนักงานจราจร ปรับ 1,000 บาท
จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่ง ตาม ป.อ. มาตรา 78 ฐานขับรถขณะเมาสุรา คงปรับ 9,000 บาท ฐานขับรถในทางซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของผู้อื่นแล้วไม่หยุดรถให้การช่วยเหลือตามสมควรฯ คงปรับ 5,000 บาท ฐานไม่ปฏิบัติคำสั่งของเจ้าพนักงานจราจร คงปรับ 500 บาท รวมปรับ 14,500 บาท และให้พักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของจำเลยมีกำหนด 6 เดือน นับแต่วันมีคำพิพากษา ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 ข้อหาอื่นให้ยก
คดีนี้ หลังจากศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาแล้วหากพนักงานอัยการโจทก์ไม่อุทธรณ์คำพิพากษา คดีก็จะถึงที่สุด แต่หากมีการอุทธรณ์คำพิพากษาก็ต้องรอผลการพิจารณาพิพากษาของศาลอุทธรณ์ ภาค 5 ต่อไป
สำหรับในการดำเนินการในส่วนอื่นนั้น สำนักงานศาลยุติธรรมอยู่ระหว่างรอรายงานการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากต้นสังกัดของนายชาญศักดิ์ ซึ่งเมื่อได้รับแล้วจะต้องพิจารณารายงานข้อเท็จจริงดังกล่าวประกอบกับผลของคดีข้างต้นว่าจะต้องดำเนินการทางวินัยต่อไปหรือไม่อย่างไร หากข้อเท็จจริงอยู่ในข่ายที่จะต้องดำเนินการทางวินัยอย่างไร ก็จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนของระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ไพศาล' ปูดข่าวกึกก้องนักการเมืองโกง-ขรก.ชั่ว ที่ถูกฟ้องร้อง กำลังวิ่งเต้นขอให้ศาลอย่ารับฟ้อง!
นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย โพสต์เฟซบุ๊กว่าผู้พิพากษาตุลาการและศาลทั้งหลาย จะต้องเป็นหลักชัยให้แก่ประเทศชาติและประชาชน ในการธำรงรักษาไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์ของศาล และการ
โฆษกศปช. เผยกรณี 'น้ำผุด' อ.เชียงดาว มอบหน่วยงานลงพื้นที่ศึกษาแนวทางใช้ประโยชน์
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีและโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) เปิดเผยว่า ตามที่ ศปช. ได้เคยประกาศแจ้งเตือนให้ประชาชนในพื้นที่ภาคใต้เฝ้าระวังฝนตกหนักในพื้นที่ระหว่างวันที่ 20-24 พ.ย.ไปแล้วก่อนหน้านี้
สาวไทยแพ็คกระเป๋า แอ่วเหนือไปพร้อมกับเจ้าของรอยยิ้มพิฆาต 'คิม ซอน โฮ'
ทรูวิชั่นส์ นาว เอาใจสาวไทย ที่หลงรักในรอยยิ้มกระชากใจของเขยไทยอย่าง “คิม ซอน โฮ” ที่ครั้งนี้จะรับบทแขกรับเชิญพิเศษ พาสาว ๆ ไปออกเดท ท่องเที่ยวกันแบบชุ่มปอดที่ภาคเหนือของประเทศไทย ในรายการ “Brothers who eat and watch S2” (คู่หูตะลุยพาชิม ปี 2) ที่มีพิธีกรหลักดำเนินรายการอย่าง “คิมจุนฮยอน” และ “มุนเชยุน”