จิตแพทย์ตกใจการรักษา 'บุ้ง ทะลุวัง' ช่วงวิกฤต

22 พ.ค.2567 – นพ.เดชา ปิยะวัฒน์กูล จิตแพทย์และนักวิชาการอิสระ โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ฟังแถลงข่าวถึงความผิดปกติของ medical record ของคุณบุ้งจากทีมทนายแล้วนี่ ผมตกใจมากเลยนะครับ

บ้าไปแล้ว Refeeding Syndrome คนไข้ชัก, cardiac arrest แล้วเสือกส่ง CT ...หมออะไรวะเนี่ย ขนาดผมเป็นจิตแพทย์ผมยังรู้เลย ..เวรกรรม

แต่งานนี้คนทั่วไปเข้าใจยากแน่ๆ ผมจึงขออนุญาตมาอธิบายให้เข้าใจง่ายขึ้นทีละประเด็นแบบนี้ครับ

1. Refeeding Syndrome คืออะไร
มันคือสภาวะที่ผู้ป่วยอดอาหารมายาวนานพอจนเกิดการเปลี่ยนแปลงของระบบเผาผลาญอาหารในร่างกาย แล้วขณะที่กลับมาได้รับสารอาหารใหม่นั้นได้รับอย่างผิดวิธีจนเกิดความผิดปกติของระดับสารเกลือแร่ในร่างกายอย่างรุนแรง ซึ่งอันตรายมาก เป็นเหตุให้เสียชีวิตได้ง่ายๆ เลย หมอทุกคนรู้ดีว่าอดอาหารนี่ไม่ตายง่ายๆ แต่ตอนกลับมาให้กินนี่ตายได้เลยถ้าให้ไม่เป็น

ทำไม? เพราะระบบของร่างกายมันปรับตัวไม่ทันครับ ผมอธิบายง่ายที่สุดแบบนี้ ขณะขาดอาหารหรืออดอาหาร ร่างกายมันจะปรับตัวเข้าสู่สภาวะ metabolism ต่ำเหมือนกับหมีจำศีลน่ะ มันจะเข้าโหมดเผาผลาญอาหารต่ำสุดุเพื่ออยู่รอดให้ได้นานที่สุด แต่ตอนคุณเอาอาหารกลับเข้าไปในร่างกายใหม่ ระบบภายในของร่างกายโดยเฉพาะระบบอินซูลินมันจะนึกว่าสารอาหารกลับมาแล้วจึงกระตุ้นเมตาบอลิซึมให้กลับมาทำงาน ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงสารเกลือแร่บางอย่างยังไม่เข้าที่เข้าทาง เกิดการตีกลับของลูกตุ้มอย่างรุนแรง มันจึงอันตรายมากถึงตายได้

คุณผู้อ่านอาจจะสงสัยว่ามึงเป็นจิตแพทย์ มึงจะไปรู้เรื่องอะไร ..555 รู้ครับถึงแม้จะไม่รู้รายละเอียดขนาดว่ารักษายังไง ต้องหยอดโปตัสเซียมหรือฟอสเฟตตัวไหนด้วยความเร็วเท่าไหร่ แต่เรารู้ว่ามันอันตรายแล้วเรากลัวมาก ...เรารู้ได้ไง?

เพราะเราเป็นหมอสาขาที่รักษาคนไข้คลั่งผอมหรือ Anorexia Nervosa ครับ เวลาเจอเคสที่รุนแรงมากๆ หมอเมดมาราวด์ทีนี่แทบจะกระโดดกอดคอบอกมึงอย่ารีบไปไหนเลยนะ มึงแก้ electrolytes คนไข้กูให้หายก่อน กูกลัวเขาเป็นอะไรตอนกลางคืนคนน้อยๆ กลัวจริงๆ ตายกันมาเยอะแล้วครับโดยเฉพาะพวกดารานักร้องนี่ ตย.จำ Carpenter กันได้ไหม?

ดังนั้นเราจะรู้ว่า ถ้าอยู่ดีๆคนไข้หยุดหายใจ ตัวเกร็ง ตาเหลือก มันแปลว่าอะไรครับ ..จึงไปถึงข้อต่อไป

2. เราจะไม่เลือกส่ง CT หรือเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมองในกรณีที่คนไข้ชักขณะมี Refeeding Syndrome ทันทีด้วยเหตุนี้ครับ

เพราะ 1. หัวใจคนไข้ยังไม่กลับมาเต้นตามปกติ การหายใจยังไม่ปกติต้องแก้ตรงนี้เร่งด่วนที่สุดก่อน เพราะมนุษย์เราไม่หายใจนี่ไม่กี่นาทีก็ตายแล้ว ไม่มีหมอบ้าที่ไหนเอาคนไข้แบบนี้ไปทำ CT 2. สาเหตุต้องสงสัยลำดับหนึ่งเลยของการชักในคนไข้ RFS คือ Severe Electrolyte Imbalances ยังไม่ต้องไปสงสัยอย่างอื่น จะรีบส่ง CT ทำมะเขืออะไร 3.ตอนทำ CT มัน CPR ได้ไม่เต็มที่ หลายนาทีด้วย เสี่ยงชิบหายวายป่วง ถ้าไม่คอขาดบาดตายจริงๆปกติไม่มีใครเขาทำกัน ผมยก ตย.เช่นถ้ามีอุบัติเหตุรถชนหัวกระแทกรุนแรงแล้วชักอย่างนี้อาจจำเป็นต้องทำ จะได้รู้ว่ามีเลือดออกตรงไหนในสมองหรือเปล่า แต่ในกรณีนี้ ไม่ใช่แล้วครับ

3. แปลว่าอะไร? แปลว่าการประเมินและวินิจฉัยคนไข้ การเรียงลำดับความเร่งด่วนในการดูแลรักษาเคสนี้นี่อย่างมั่ว

สิ่งที่ต้องทำก่อนอื่นคือเคลียร์ทางเดินหายใจทำให้อากาศเข้าปอดให้ได้ก่อน ต่อมาคือทำให้หัวใจกลับมาเต้น ต่อมาคือแก้ความผิดปกติของสารเกลือแร่ในร่างกายทั้งหมดที่เป็นสาเหตุของหัวใจเต้นผิดปกติ 3 อย่างนี้สำคัญที่สุด เรื่องชักยังพอจะรอได้ แต่มึงเสือกส่ง CT ทั้งๆที่คนไข้ยังไม่ stable ?

มึงจบหมอประเทศไหนมาวะ? เอาจริงๆ มีหมออยู่ตรงนั้นหรือเปล่าเนี่ย ชักสงสัยแล้ว

ฝากทีมทนาย ลากเอา Medical Records ทั้งหมดมาดูให้เยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้เลยครับ ผมว่ามันหมกอะไรไว้อีกเยอะแน่ รักษาได้แปลกประหลาดพิสดารสุดๆ

ตอนมีคนบอกผมว่าราชทัณฑ์มันเหมือนจะแกล้ง ผมยังเตือนพวกเขาว่าอย่าไปใส่ความ กรณีคุณบุ้งนี่ทั้งโลกเฝ้ามองอยู่ ใครจะมามีงานอะไรแบบนี้นี่มันต้องบ้าอำนาจสุดๆ คิดว่าตัวเองทำอะไรก็ไม่มีวันผิดละถึงจะกล้าระดับบ้าบอขนาดนั้น ผมคิดว่าไม่ใช่หรอก บ้านเราไม่ได้บ้านป่าเมืองเถื่อน จะเป็นไปได้ยังไง?

ตอนนี้ชักไม่แน่ใจแล้วครับ..

RFS ชักแล้วส่ง CT ตอน arrest เนี่ยอ่ะนะ กูว่าเอานักศึกษาแพทย์ที่ยังไม่จบมารักษายังทำได้ดีกว่านี้เลย นึกยังไงก็ไม่เข้าใจว่าทำไปทำไม ขอไปเรียบเรียงความรู้ใหม่แป๊บ เพจผมมีหมอตามอยู่พอสมควร แพทย์ท่านใดมีคำแก้ตัวแทนเขาที่ดีๆ ก็ฝากชี้แจงหน่อย ผมไม่อยากด่าคนฟรีครับ