'พิชิต' ลาออกก็ไม่จบ 'เศรษฐา' ตกที่นั่งลำบาก ส่งสัญญาณถึง 'ทักษิณ' รอรับผลคดี 112

'พิชิต' เด็กปั้นจันทร์ส่องหล้า ลาออกก็ไม่จบ 'จตุพร' คาด 'เศรษฐา' ตกที่นั่งลำบาก ส่อถูกสั่งหยุดทำหน้าที่นายกฯ เชื่อส่งสัญญาณถึง 'ทักษิณ' รอรับผลคดี 112 เย้ยจะสู้หรือมอบตัว ฟาดเกมอภิสิทธิ์ชนเปิดศึกเผชิญหน้า ส่วน ปชช.หดหู่ไม่ได้ประโยชน์อะไร

22 พ.ค. 2567- นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ว่า เป้าของ 40 สว.ยื่นคำร้องต่อศาล รธน.ไม่ได้อยู่ที่จัดการนายพิชิต ชื่นบาน แต่เป็นนายเศรษฐา ทวีสิน พร้อมส่งสัญญาณไปยังทักษิณ ชินวัตร เพื่อเตือนให้ปฏิบัติตามดีลกลับบ้านที่ตกลงกันไว้

อย่างไรก็ตาม แม้นายพิชิต ลาออกจาก รมต.ประจำสำนักนายกฯ แต่ไม่ได้ช่วยให้นายเศรษฐา ดีขึ้น เพราะรู้ดีว่าตั้งนายพิชิตเป็น รมต.ไม่ได้ เนื่องจากมีคุณสมบัติขัด รธน. อีกทั้งยังถามคณะกรรมการกฤษฎีกาและได้คำตอบตั้งแต่ ก.ย. 2566 แล้ว ดังนั้น การตั้งนายพิชิต จึงเป็นความผิดสำเร็จ ซึ่งต้องรับผิดชอบ และศาล รธน.จะวินิจฉัยคำร้องวันที่ 23 พ.ค.นี้

นายจตุพร คาดว่า ผลคำวินิจฉัยของนายเศรษฐา ไม่น่ามีอะไรเปลี่ยนแปลง เพราะปฏิบัติการลับของ 40 สว.ได้เตรียมการไว้อย่างดีจึงจัดการอย่างฉับไว ซึ่งเป็นวิธีที่แนบเนียนไม่แตกต่างจากบอกให้ 152 สว.รอไฟเขียวให้โหวตนายเศรษฐา เป็นนายกฯ เมื่อ 22 ส.ค. 2566

"อย่าได้บอกว่ามีวงจรอุบาทว์ มีคนจ้องล้มรัฐบาล แต่ควรสำนึกก่อนว่า นายเศรษฐาและเพื่อไทยได้อำนาจมาอย่างไร ดังนั้นนายพิชิต จึงเป็นเพียงทางผ่านเพื่อไปจัดการนายเศรษฐาแล้วส่งสัญญาณแรงถึงทักษิณ ให้คิดว่าจะเอาอย่าง"

พร้อมกล่าวว่า ไม่ต้องสงสัยเลยว่า การยื่นคำร้องของ 40 สว. นายเศรษฐาและทักษิณ ย่อมรู้ดีถึงขั้นกินอยู่ปากอยากอยู่กับท้อง เพราะอำนาจล้มรัฐบาลมาจากอำนาจที่อยู่ด้วยกันนั่นเอง เป็นอำนาจที่หนุนให้นายเศรษฐาและเพื่อไทยเป็นรัฐบาล ดังนั้น การลงมือของ สว. แสดงถึงอำนาจบัญชาการทำสงครามสั่งสอนการเบี้ยวดีล

สิ่งสำคัญปฏิบัติการลับของ 40 สว.ล้วนพัวพันกับการเบี้ยวดีลลังกาวีทั้งสิ้น ดังนั้น การจัดการเศรษฐา ย่อมทำให้ทักษิณคิดจะสู้หรือมอบตัวในสถานการณ์ 29 พ.ค.นี้ ซึ่งอัยการนัดฟังคำสั่งคดี ม.112 แต่ถ้าเกิดเหตุการณ์เลยเถิดไปไกลแล้ว การยึดอำนาจมีความเป็นไปได้ และประชาชนไม่ได้อะไรเลย

นายจตุพร กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมานั้น มีต้นเหตุมาจากการสมคบคิดและดีลลังกาวีที่สร้างความเสียหายย่อยยับให้ประเทศอย่างกว้างขวาง ดังนั้น ถ้าศาล รธน.สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าวันที่ 23 พ.ค.นี้ รัฐบาลจะรวนจนปั่นป่วนไปหมด

"ทางออกที่ไม่ต้องการให้ศาล รธน.วินิจฉัยคือ นายเศรษฐา ลาออกจากนายกฯ คำร้องของ สว.ก็จบสิ้นลงโดยปริยาย เมื่อไม่ลาออกเรื่องก็จบไม่ได้ ต้องวินิจฉัยคำร้องในกรณีนายเศรษฐา ต้องรับผิดชอบการแต่ง รมต.ที่มีคุณสมบัติขัด รธน.

ส่วนเพื่อไทยแถลงต้านรัฐประหารนั้น นายจตุพร กล่าวว่า เป็นเรื่องตลก เมื่อจะต้าน รปห.แล้วยังตระบัดสัตย์ไปอาศัยเสียงฝ่าย รปห. มาเป็นรัฐบาลอีก เพียงแค่นี้เพื่อไทยก็จบสิ้นกับการแถลงหลอกลวงตบตาประชาชน ซึ่งแทบไม่มีใครเชื่อถือ

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กังขา 'ปชน.' ไม่จับมือ 'กธ.' แต่จับมือ 'พท.' แม้ 'ทักษิณ-ประเสริฐ' แนบแน่น 'เบน สมิธ'

นายไทกร พลสุวรรณ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน โพสต์ข้อความผ่าน เฟซบุ๊กระบุว่า พรรคประชาชนไม่จับมือตั้งรัฐบาลกับพรรคกล้าธรรม เพราะ ธรรมนัส สนิทกับ เบนสมิธ

ศึกเลือกตั้งรอบใหม่ กับ 'สามก๊กฉบับชาติวิบัติ' ภาค 3

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า สามก๊กฉบับชาติวิบัติ ภาค 3 (มีการปรับเปลี่ยนฝ่ายและชื่อตัวละครให้สอดคล้องสถานการณ์)

สแกน 100 ชื่อปาร์ตี้ลิสต์ 'เพื่อไทย' จับตาใช้สูตรปี66 จัดลำดับ

สแกน 100 ชื่อปาร์ตี้ลิสต์พท. แกนนำรุ่นใหญ่ ภูมิธรรม-สมศักดิ์-เสี่ยเพ้ง-สรวงศ์ ส่งลูก-หลังบ้าน-เครือญาติเข้าพรรค พวกย้ายพรรค-โยกสลับจากสอบตกเขตเพียบ จับตาอาจใช้สูตรเดิม เอาตัวเต็งรมต.ไว้ท้าย ลดแรงกระเพื่อม

เพื่อไทย ชูเครือญาติ 'ชินวัตร' นั่งแคนดิเดตนายกฯ อันดับ 1

"เพื่อไทย ชู "ยศชนัน" นั่งแคนดิเดตนายกฯ เบอร์ 1 ชี้ไม่เป็นปัญหาถูกมองหนีไม่พ้นตระกูลชินวัตร ลั่นเป็นโอกาส-จุดเด่น รับเป็นหน้าใหม่การเมือง เชื่อเวลา 2 เดือน ชนะใจปชช.ได้ พร้อมยัน ไม่ถูกครอบงำจาก “เยาวภา” ด้าน “สุริยะ” ยังมั่นใจ ถึงเป้า 200 ที่นั่ง ขณะที่ “จุลพันธ์” ประกาศพร้อมฝ่าด่านอำนาจรัฐ กระสุน กระแสชาตินิยม สู่ชัยชนะด้วยนโยบาย

'จตุพร' ฉะการเมืองตีโง่ ยุบสภากลางศึกสงคราม ส่อทหารใช้กฎอัยการศึกเลื่อนเลือกตั้งอีกยาว

'จตุพร' ฟาดนักการเมืองเอาแต่ใจ ตีโง่บีบยุบสภากลางศึกสงคราม ส่อประเคนอำนาจให้ทหารใช้กฎอัยการศึกเลื่อนเลือกตั้ง เผลอๆ อาจไม่มีสภาอีกยาวไกล

พริษฐ์งอแง! ไม่เห็นด้วย กมธ.เสียงข้างมากตัดข้อเสนอพรรคส้ม

'พริษฐ์' ไม่เห็นด้วย กมธ. เสียงข้างมาก ตัดประเด็น 'กมธ. ยกร่าง รธน.-สภาที่ปรึกษา' ออก ย้ำไม่ขัดคำวินิจฉัยศาล ยกเทียบหลักการเดียวกับประชาชนเลือกตั้ง สส. โดยตรง แต่ท้ายสุดสภาเป็นผู้โหวตเลือก 'นายกฯ'