'เทพไท' ยก 10 ข้อเปรียบเทียบมาตรฐาน 'บุ้ง เนติพร-ทักษิณ'

16 พ.ค.2567 – นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ “ทักษิณ-บุ้ง เนติพร คือการเลือกปฎิบัติของแท้” ระบุว่า หลังจากการเสียชีวิตของบุ้ง เนติพร เสน่ห์สังคม มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงการปฏิบัติหน้าที่ของกระบวนการยุติธรรมไทยอย่างกว้างขวาง และการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ในหลายสถานที่ รวมถึงการแสดงความอาลัยต่อการจากไป ของบุ้ง เนติพร จากคนไทยและองค์กรต่างประเทศจำนวนมาก ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรมไทย ควรตระหนักและนำไปพิจารณาทบทวนการปฏิบัติหน้าที่ของกระบวนการยุติธรรมไทยต่อไป

ผมคนหนึ่งที่มีประสบการณ์ตรงกับกระบวนการยุติธรรม ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ รับทราบและสัมผัสการปฎิบัติจากกระบวนการยุติธรรมไทยโดยตรง และจะขอนำกรณีของบุ้งเนติพร มาเปรียบเทียบกับกรณีของคุณทักษิณ ชินวัตร ดังต่อไปนี้

1.ทั้งคุณทักษิณ และบุ๊ง เนติพร เป็นกลุ่มคนที่อยู่ในกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า ฝ่ายก้าวหน้าหรือเสรีประชาธิปไตย เหมือนกัน

2.คุณทักษิณเป็นนักโทษเด็ดขาด แต่คุณบุ้ง เนติพร เป็นผู้ต้องหาถูกคุมขังระหว่างการพิจารณาคดีของศาล

3.เมื่อคุณทักษิณมีอาการป่วย รีบนำตัวมารักษาที่โรงพยาบาลตำรวจทันที ไม่ต้องเข้ารับการรักษาเบื้องต้นที่โรงพยาบาลกรมราชทัณฑ์เลย

4.แต่กรณีของบุ้ง เนติพร มีอาการป่วยจากการอดอาหาร ต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลกรมราชทัณฑ์ก่อน เมื่อมีอาการป่วยหนัก ก็นำส่งโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ไม่ได้นำส่งโรงพยาบาลตำรวจ อย่างเร่งด่วนเหมือนกรณีคุณทักษิณ

5.คุณทักษิณเป็นนักโทษเด็ดขาด มีโทษจำคุกรวมจากเดิม 10 ปี ได้รับการอภัยลดโทษเหลือ 1 ปี แต่ไม่ยอมติดคุกแม้แต่วันเดียว

6.กรณีของบุ้ง เนติพร ศาลยังไม่ได้มีคำพิพากษาจำคุก แต่อยู่ระหว่างการต่อสู้คดี แต่ไม่ได้รับการประกันตัว ต้องถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ ระหว่างต่อสู้คดี

7.ตอนนี้คุณทักษิณ ถูกดำเนินคดีข้อหาความผิดตามมาตรา 112 แต่ได้รับการประกันตัวในชั้นของอัยการ

8.บุ้ง เนติพร ถูกดำเนินคดีความผิดประมวลมาตราอาญา มาตรา 112 เช่นเดียวกัน แต่ไม่ได้รับการประกันตัว

9.เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นในยุครัฐบาล ของพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ถ้าหากเป็นเกิดในรัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ ก็จะถูกนำไปขยายผลทางการเมืองอย่างแน่นอน

10.รัฐบาลของพรรคเพื่อไทย ยังไม่มีความชัดเจนถึงแนวทางแก้ไขปัญหา ต่อผู้กระทำผิดมาตรา 112 เหมือนกับตอนที่เป็นฝ่ายค้าน

ผมมีจุดยืนที่ชัดเจนว่า คนไทยทุกคนจะต้องได้รับการปฏิบัติตามหลักนิติรัฐนิติธรรมของประเทศอย่างเท่าเทียมกัน ไม่เลือกปฏิบัติ และไม่อยากให้ใครต้องมาเสียชีวิต เพราะกระบวนการยุติธรรมแบบ 2 มาตรฐาน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“รัฐบาล”ไฟลต์บังคับ “ทักษิณ”ได้แค่กร่าง

ดรามาปม “อีแอบ” อาจเป็นแค่ประเด็นโชว์กร่าง หวังกดดันให้พรรคร่วมรัฐบาลสยบยอม หลัง “ทักษิณ ชินวัตร” นายใหญ่ ที่มีสถานะเป็นพ่อนายกรัฐมนตรี ได้พ่นไฟระหว่างงานสัมมนาพรรคเพื่อไทยที่ อ.หัวหิน เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา

'แม้ว' ไล่อัดพรรคปชน. เช้ายันเย็น ฝากถึงขาประจำระวังไว้ ไม่ได้ขู่เช็กบิลแต่เอาจริง

นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขึ้นเวทีปราศรัยช่วยนายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร หรือ สว.ก๊อง ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงใหม่ เบอร์ 2 หาเสียง เป็นวันที่ 2 เวทีสุดท้าย

'ทักษิณ' พล่ามหนัก! หลังรัฐประหารเอาคนง่าวมาบริหารประเทศจนเฮงซวย

“ทักษิณ” รับ เป็นคนโลภมาก ขอสส.เชียงใหม่ คืน 10 คน เหน็บ “ปชน.” สงสัยเวลาตกฟากไม่ดี เป็นรบ.ลำบาก เย้ย มวยเพิ่งขึ้น อย่าคิดว่าจะชนะ

'นายกฯอิ๊งค์' เชื่อเศรษฐกิจไทยปีหน้ามีแนวโน้มดีขึ้น ตั้งเป้าจีดีพีโต 3%

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ตั้งแต่รัฐบาลเข้ามาทำงานที่มีนโยบายต่างๆสำหรับกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อให้ภาคธุรกิจและประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยในปี 2568 งบประมาณจะเพิ่มขึ้น และมีการขาดดุลการคลังที่ลดลง ซึ่งถือเป็นแนวโน้มที่ดี

'หัวหน้าเท้ง' สวนกลับ 'ทักษิณ' เร่งเครื่องเต็มสูบ ไม่ช่วยเพื่อไทยเหนือกว่า ปชน.

นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อไทย ปราศรัยพาดพิงพรรคประชาชนทำงานไม่เป็น ว่า สิ่งหนึ่งที่พรรคประชาชนมีผลงานเป็นรูปธรรม