กมธ.อุตฯ เตรียมซักความคืบหน้า 'กากแคดเมียม-ไฟไหม้โรงงานสารเคมี'

ประธานกมธ.อุตฯ เผยเชิญหน่วยงานเกี่ยวข้องแจง คืบหน้าขนย้ายกากแคดเมียม-ไฟไหม้โรงงานมาบตาพุด-อยุธยา พร้อมหนุนรัฐเร่งออกใบรง.4 ชี้หากช้าส่งผลต่อเศรษฐกิจ

15 พ.ค.2567 - นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.)การอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุม กมธ.อุตฯ ว่า ที่ประชุมได้เชิญปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กรมโรงงานอุตสาหกรรม กรมเมืองแร่ กรมควบคุมมลพิษ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมหารือเกี่ยวกับการดำเนินคดีกับผู้ ที่ละเมิดกฎหมายทั้งในส่วนของเจ้าหน้าที่ของรัฐและผู้ประกอบการว่ามีความคืบหน้าอย่างไรบ้าง เกี่ยวกับการขนย้ายกากแคดเมียม ส่วนความคืบหน้าในการขนย้ายกากแคดมียมนั้นทางกมธ.ฯจะเป็นการติดตามว่ามีการขนย้ายกากแคดเมียมแล้วเสร็จไปแล้วกี่ตัน โดยเบื้องต้นทราบว่าทางกรุงเทพฯขนย้ายเสร็จแล้ว ส่วนจ.สมุทรสาคร และชลบุรี จะให้ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมชี้แจงในส่วนนี้

ส่วนเรื่องใบอนุญาตโรงงานที่ยังค้างการพิจารณาอยู่หลาย 100 รายโดยต้องเร่งออกใบอนุญาตตามคำสั่งของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีนั้น นายอัครเดช กล่าวว่า ในส่วนนี้ต้องรอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงถึงปัญหาในการออกใบอนุญาตโรงงาน โดยเบื้องต้นพบว่าเอกสารไม่ครบถ้วน และมีการส่งกลับไปให้ทางอุตสาหกรรมจังหวัดรวบรวมเอกสารเพิ่ม คาดว่าขณะนี้จะส่งกลับมาที่กรมฯแล้ว ซึ่งเมื่อเอกสารครบแล้วก็จะสามารถอนุญาตออกใบ รง.4 ได้ ซึ่งในส่วนของกมธ.ฯได้ให้ข้อสังเกตไปว่าการออกอนุญาตตามที่นายกฯเร่งรัดนั้นเป็นเรื่องที่มีความจำเป็นเพราะประเทศต้องตอบรับการลงทุนจากนักลงทุน ดังนั้นใบอนุญาตออกช้าย่อมส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการลงทุน ดังนั้นสิ่งที่นายกฯสั่งจึงเป็นสิ่งที่ถูกต้อง

“กมธ.อุตฯมองว่านอกจากออกใบอนุญาตแล้วต้องมีการกำกับให้เป็นไปตามกฏหมายและปฏิบัติตามระเบียบเป็นสิ่งที่สำคัญ ไม่ใช่เมื่อได้ใบอนุญาตแล้วขาดการกำกับดูแลจะทำให้ผู้ประกอบการละเมิดกฎหมายส่งผลกระทบต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อม”นายอัครเดช กล่าว

เมื่อถามถึงกรณีไฟไหม้โรงงานหลายแห่งที่สามารถบ่งชี้ว่ามาจากการวางเพลิง หรืออาจเป็นอุบัติเหตุ นายอัครเดช กล่าวว่า ต้องแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือส่วนที่เกิดจากอุบัติเหตุนั้นเกิดจากการที่ภาวะอากาศร้อนจัด เมื่อมีความร้อนเกิดขึ้นอาจเกิดอุบัติเหตุได้บ่อยครั้งเป็นสิ่งที่ป้องกันไม่ได้ แต่สิ่งที่สำคัญคือการควบคุมเพลิงต้องรวดเร็ว ในวันนี้ทาง กมธ.ฯจึงได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวกับการควบคุมเพลิง เช่น กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เข้าชี้แจงว่าเวลาเกิดเพลิงไหม้มีแผนในการเผชิญเหตุและการควบคุมเพลิงเป็นไปอย่างไร เพื่อดูความพร้อมในการควบคุมเพลิง

นายอัครเดช กล่าวด้วยว่า สำหรับประเด็นการวางเพลิงเพื่อเผาทำลายหลักฐาน เช่นกรณีไฟไหม้ที่จ.ระยอง และพระนครศรีอยุธยา เป็นสิ่งที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมได้ให้สัมภาษณ์ไปแล้วว่าจะต้องเร่งรัดดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำความผิดให้ได้ ซึ่งทาง กมธ.อุตฯสนับสนุนแนวคิดของรมว.อุตสาหกรรม โดยกระบวนการติดตามผู้กระทำความผิดทั้งการสืบสวนและสอบสวน เป็นสิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการ

เมื่อถามว่าถึงเวลาจำเป็นแล้วหรือไม่ที่จะต้องพัฒนาแอปพลิเคชั่นในการแจ้งเตือนประชาชน นายอัครเดชกล่าวว่า ในส่วนของการเกิดเหตุเพลิงไหม้ไม่ว่าจะในกรณีการวางเพลิง หรืออุบัติเหตุ สิ่งสำคัญที่สุดคือแผนเผชิญเหตุ การสื่อสารจากภาครัฐไปยังประชาชนเป็นสิ่งสำคัญจะต้องมีการสอบข้อเท็จจริงและได้รับข้อสังเกตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการประชุมครั้งนี้ด้วย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อัจฉริยะขู่ฟ้อง 'เศรษฐา-ฉัตรชัย' หากยังนิ่งปม 'พล.ต.ต.เอกรักษ์'

'อัฉริยะ' บุกสภา พึ่ง 'กมธ.ฟอกเงิน' สอบ รองเลขาฯ ปปง.เอี่ยวรับสินบนเว็บพนันออนไลน์-ลักรถผู้กำกับโจ้ ขู่ ร้อง ป.ป.ช. เอาผิด 'นายกฯ-ฉัตรชัย' ฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่หากเรื่องยังเงียบ

รทสช. เตรียมดัน กม.ปรับโครงสร้างราคาน้ำมันเข้าสภา จ่อเรียกถก สส. 2 ก.ค.นี้

พรรครวมไทยสร้างชาติได้เตรียมร่างกฎหมายที่จะเสนอไปเข้าสู่การพิจารณาของสภาหลายฉบับ ซึ่งเป็นกฎหมายที่จะแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชนในหลายเรื่อง

รทสช.จ่ออภิปรายงบปี 2568 แนะรัฐบาลต่อยอดโครงการลุงตู่!

รทสช. นัดประชุม สส. สัปดาห์หน้า เตรียมอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบ 2568-ประชามติ เน้นชี้แนะรัฐบาล จัดงบกระตุ้นเศรษฐกิจ ยกระดับคุณภาพชีวิตพร้อมสะท้อนความต้องการประชาชน

ราชทัณฑ์เฉลย 'พี่สาวบุ้ง' เป็นคนบอกให้ไป รพ.ธรรมศาสตร์

'กมลศักดิ์' เผย 'รพ.ราชทัณฑ์' ยอมให้ภาพวงจรปิดการเสียชีวิตของ 'บุ้ง' แต่แม่ต้องมอบอำนาจให้ทนายความ พร้อมมอบรายงานขั้นตอนการเสียชีวิตอย่างละเอียดให้กมธ.กฎหมายฯ พรุ่งนี้