"อดีตคณบดีนิติศาสตร์ มธ." ขนเพื่อนว่าที่ผู้สมัคร สว. ร้องศาลปค.กลาง เพิกถอนระเบียบแนะนำตัว พร้อมคุ้มครองชั่วคราว โวย กกต.มีอำนาจอะไรคิดเงื่อนไขให้ผู้สมัคร ซัดขัดหลักประชาธิปไตย จะให้มี สว. 200คน แต่ประชาชนไม่รู้เรื่อง มองข่มขู่ชัดเจน ลั่น มัดมือมัดเท้าพวกเรา ขอไต่สวนฉุกเฉินด่วน หวั่นความผิดเล็กน้อยแต่โทษสูงถึงขั้นติดคุก
30 เม.ย.2567 - ที่ศาลปกครองกลาง ศูนย์ราชการฯแจ้งวัฒนะ นายพนัส ทัศนียานนท์ อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในฐานะผู้ประสงค์จะลงสมัครสมาชิกวุฒิสภา (สว.) พร้อมคณะ เข้ายื่นคำร้องขอให้เพิกถอนระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่าด้วยการแนะนำตัวในการเลือกสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2567
โดยนายพนัส กล่าวว่า จากระเบียบกกต.ที่ออกมามีประเด็นที่อยากให้ศาลปกครองวินิจฉัยเกี่ยวกับเรื่องการแนะนำตัวผู้สมัคร โดยเฉพาะข้อที่ 7,8 และข้อ 11 โดยเฉพาะข้อห้ามในเรื่องของการแนะนำตัวผ่านสื่อทุกชนิด รวมไปถึงโซเชียลมีเดียด้วย พวกเราคิดว่ากกต.ไม่มีอำนาจมากำหนดและจำกัดสิทธิในการแนะนำตัวผู้สมัคร ซึ่งเราเห็นว่าสิ่งที่กกต.ออกระเบียบออกมาเป็นการจำกัดสิทธิพวกเรามากเกินไปเกิน พวกเราทราบดีว่าระเบียบนี้ยังไม่ได้บังคับใช้เนื่องจากต้องรอพระราชกฤษฎีกา แล้วต้องรอให้เราเป็นผู้สมัคร วันนี้เรายังไม่เป็นผู้สมัครแต่เป็นผู้ที่ประสงค์จะเข้ามาสมัคร ดังนั้นจึงมองว่าควรมีสิทธิเสรีภาพในการแนะนำตัวให้เป็นที่รู้จักให้ประชาชนทั่วไป เพราะสว.ตามรัฐธรรมนูญต้องเป็นผู้แทนของปวงชนชาวไทยพี่มีส่วนได้เสียโดยตรง อีกทั้งวันนี้ยังได้ร้องให้ศาลคุ้มครองชั่วคราวด้วย รวมถึงขอให้ไต่สวนฉุกเฉินต่อระเบียบดังกล่าว ถึงเร็วที่สุดอาจจะเป็นภายในวันนี้ มองว่ายิ่งศาลไต่สวนเร็วเท่าไหร่ได้ก็ยิ่งดี
"อย่างผมเองผมก็แนะนำตัวเอง ซึ่งอาจจะเป็นคนแรกพี่แนะนำตัวผ่านเฟซบุ๊ก ว่าผมตั้งใจจะลงสมัครสว. พอมีระเบียบนี้มันก็เป็นประเด็นขึ้นมาว่าเราจะสามารถทำสิ่งนี้ได้มากน้อยแค่ไหน เราต้องการให้สิ่งนี้ชัดเจนขึ้นมา โดยเรามองว่ากกต.ไม่น่าจะมีอำนาจ ในการกำหนดเงื่อนไขในการแนะนำตัวได้แคบถึงเป็นระบบปิด...อำนาจของกกต.กับสิทธิเสรีภาพของประชาชนที่ถูกจำกัดในการที่ออกระเบียบนี้มา มีความสมดุลมากน้อยแค่ไหน"นายพนัส กล่าว
เมื่อถามว่า หากศาลไม่รับคำร้องจะดำเนินการอย่างไรต่อ นายพนัส กล่าวว่า ต้องรอดูคำสั่งของศาลว่าเราจะทำอะไรได้มากน้อยแค่ไหน หากศาลมีคำสั่งคุ้มครองหมายความว่าเป็นการคุ้มครองผู้ฟ้องนั่นคือพวกเรา และข้อบังคับใช้ที่กกต.จะไม่มีผลต่อพวกเรา
ส่วนระเบียบนี้จะมีการเอื้อหรือกระทบต่อใคร นายพนัส กล่าวว่า กระทบต่อพวกเราโดยตรงอยู่แล้ว เราไม่สามารถใช้เสรีภาพในการแนะนำตัวเองได้เลย และที่สำคัญที่สุด คือเป็นการปิดปากมัดมือมัดเท้าพวกเรา แต่ขณะเดียวกันก็เปิดโอกาสให้ฝ่ายผู้มีอิทธิพลไม่ว่าจะเป็นในระดับอำเภอ จังหวัด หรือประเทศ ซึ่งระเบียบนี้เราไม่สามารถไปร้องต่อใครได้เลย
เมื่อถามเพิ่มเติมว่า มีการวิเคราะห์กันว่าระเบียบนี้เป็นการสกัดสว.สีส้ม นายพนัส กล่าวว่า เราไม่ได้พิจารณาในประเด็นสีส้มหรือสีอะไร เราก็แค่อยากจะยึดตามสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญโดยระบบตามระบอบประชาธิปไตย ควรจะเป็นระบบเปิดเพราะเป็นสิทธิของคนไทยทุกคน"การจะมีสว. 200 คน ปรากฏว่าประชาชนไม่รู้เรื่องอะไรเลย ซึ่งมันไม่น่าจะถูกต้องกับหลักของประชาธิปไตย"
เมื่อถามอีกว่ากกต.ระบุว่าได้เก็บข้อมูลผู้ประสงค์ที่จะลงสมัครในเว็บไซต์ Senate67 และพร้อมมาผิด หากพบว่ามีมูล ถือเป็นการข่มขู่หรือไม่ นายพนัส กล่าวว่า นี่เป็นการข่มขู่อย่างชัดเจน โดยเฉพาะกกต.ไม่ได้บอกว่ามีอำนาจอะไรที่สามารถดำเนินการอย่างนั้น และตนได้ฟังข่าวเมื่อเช้าวันนี้ (30 เม.ย.) ก็เห็นว่าสามารถแนะนำตัวผ่านเว็บไซต์ดังกล่าวได้ เพียงแต่ว่าห้ามชี้นำ หรือฮั้วกัน หากเป็นจริงตามข่าวก็แสดงว่ากกต.ยอมรับว่าสามารถทำได้ โดยสิ่งที่เป็นประเด็นน่าเป็นห่วงคือ มาตรา 36 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการได้มาซึ่งสว. ได้มีการกำหนดโทษไว้ด้วยว่าถ้ากระทำการผิดเงื่อนไขหรือวิธีการที่กกต.กำหนดมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี โทษปรับไม่เกิน 20,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ รวมถึงเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา 5 ปี ดังนั้นจึงต้องพิจารณาให้ดี ว่าระเบียบที่กกต.ได้ออกมานานเป็นเรื่องที่สำคัญมากหรือไม่ ถึงขนาดว่าถ้าทำผิดเงื่อนไข พวกเราจะต้องติดคุกเป็นปี และถูกตัดสิทธิทางการเมืองเหรอ สิ่งที่เป็นเรื่องเล็กน้อยไม่ควรมีโทษมากขนาดนี้
นายพนัส ย้ำว่า การจะแนะนำตัวได้ต้องมีการออกสื่อดังนั้นหากจะผิดก็ควรจะผิดไปถึงสื่อมวลชนได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'พงษ์ศักดิ์' แชมป์เก่า 6 สมัย ร้องประธาน กกต. สั่งระงับรับรองผลเลือกตั้งนายก อบจ.ขอนแก่น
นายพงษ์ศักดิ์ ตั้งวานิชกพงษ์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น หมายเลข 2 ได้ทำหนังสือเข้าร้องเรียน ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หลังตรวจพบว่าผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น หมายเลข 1 ได้หาเสียงเลือกตั้งโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านเฟสบุ๊ค จ
‘สนธิญา’ ยื่น กกต.สอบ ‘ทักษิณ’ ถือสัญชาติไทย-มอนเตฯ หรือไม่ เสี่ยงผิดกม.เลือกตั้งท้องถิ่น
สนธิญา ยื่น กกต.สอบ ทักษิณ ถือสัญชาติไทย-มอนเตฯ หรือไม่ เสี่ยงผิดกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่น-พรรคการเมือง-รธน. ห้ามคนต่างชาติเอี่ยวการเลือกตั้งทุกระดับ พ่วงร้องสอบหาเสียงหยาบคาบ เป็นเท็จ อาจทำเลือกตั้ง อบจ.อดุรฯ โมฆะ
ฟิล์ม-รัฐภูมิ ยื่น กกต.ไขก๊อกพ้นสมาชิก พปชร. ‘ไพบูลย์’ ชี้เรื่องส่วนตัวไม่กระทบพรรค
เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัว ที่ยังไม่รู้ว่าเขาผิดหรือเขาถูก เพราะเราไม่เกี่ยวข้อง และเรื่องนี้ไม่กระทบกับภาพลักษณ์พรรค ไม่ทำให้เรามีปัญหา
ตอกยํ้าดีลฮ่องกง ลิ่วล้อแจงแทนนาย ‘พรรคส้ม’ ยากเป็นรัฐบาล
ตอกย้ำดีลฮ่องกงเหลว! "ณัฐวุฒิ" ขยายความ "ทักษิณ" คุย "ธนาธร" แค่เล่าชะตากรรม ไม่มีการพาดพิง ม.112 กับก้าวไกล เผยตั้งแต่โหวต "พิธา"
'พิธา' คุยพรรคประชาชนแข่งเลือกตั้งมีแต่ชนะกับพัฒนา ไม่มีคำว่าแพ้
ที่จ.อุดรธานี แกนนำ สส. และผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน ร่วมเวทีปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งนายก องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อุดรธานี ที่จะมีการเลือกตั้งในวันที่ 24 พ.ย. 2567 ซึ่งพรรคประชาชนได้ส่ง คณิศร ขุริรัง เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายก
ดร.ณัฏฐ์ ชี้เลือกนายกอบจ.อุดร เพื่อไทยชนะไม่ขาดจะกระทบสนามใหญ่ เตือน 'ทักษิณ' ปากพาซวย!
“ดร.ณัฏฐ์” มือกฎหมายมหาชน ชี้ 'ทักษิณ ชินวัตร' ยกทัพไปช่วยหาเสียงนายกอบจ.อุดรธานี แม้เกณฑ์คนไปฟังเยอะ คะแนนสวนทาง หากไม่ชนะขาด กระทบต่อสนามใหญ่ ยกวาทะ 'ถ้าจะเลือกทักษิณ ให้เลือกเบอร์ 2' ระวังทำคนหลงผิดโทษถึงคุก!