‘บิ๊กโจ๊ก’ เล็งลงสมัคร สว. เสียงแข็งไม่ได้สั่งปลดป้ายชื่อหน้าห้องทำงาน

‘บิ๊กโจ๊ก’ ยันไม่ได้สั่งปลดป้ายชื่อหน้าห้องทำงานและชื่อบนเว็บไซต์ พร้อมทำหนังสือคัดค้านรายชื่อคณะกรรมการบางคนที่เป็นคู่ขัดแย้งในการพิจารณา ยอมรับคิดเรื่องลงสมัคร  สว.

28 เม.ย.2567-พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. ในฐานะนายกสมาคมชาวปักษ์ใต้ เป็นประธานพิธีรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุเนื่องในวันสงกรานต์ โดยมีผู้สูงอายุชาวภาคใต้กว่า 147 ท่านมาร่วมกิจกรรมท่ามกลางมวลชนชาวปักษ์ใต้ที่มาร่วมงานจำนวนมาก

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ให้สัมภาษณ์ถึงการปลดป้ายชื่อหน้าห้องทำงานหลังจากมีการเผยแพร่ภาพคลิปวงจรปิดออกมาบางส่วนลูกน้องเก็บของออกจากสำนักงานฯเองว่า ตนได้สั่งให้ลูกน้องขนของส่วนตัวออกจากห้องทำงานภายหลังจากมีคำสั่ง เพราะเป็นคนรักษาวินัย เมื่อมีคำสั่งก็มีการขนของออกแต่ส่วนใหญ่จะเป็นของใช้ส่วนตัว ส่วนใหญ่การปลดป้ายชื่อนั้นยืนยันว่าไม่ได้เป็นคนสั่งการ เช่นเดียวกันกับการปลดชื่อตำแหน่งออกจากเว็บไซต์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่วนใครเป็นคนทำนั้นก็ต้องไปรับผิดชอบกันเอาเอง

ถามว่าจะมีการประชุมคณะกรรมการสอบวินัยในวันที่ 29 เม.ย.นี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ไม่ได้หนักใจ เพราะเป็นไปตามขั้นตอนอยู่แล้ว แต่ก่อนหน้านี้ตนได้ทำหนังสือร้องคัดค้านรายชื่อกรรมการบางคน ซึ่งอยู่ในชุดที่จะพิจารณา เนื่องจากมองว่าเป็นคู่ขัดแย้งอยู่แล้ว จึงไม่สมควรที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในการพิจารณา

เมื่อถามว่าจะไปยื่นฟ้อง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร รักษาราชการแทน ผบ.ตร.ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง กรณีเซ็นคำสั่งให้ตนออกจากราชการโดยมิชอบ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า ตอนนี้ตนขอรวบรวมเอกสารก่อน ใช้เวลาประมาณสองสัปดาห์

ถามต่อถึงประเด็นที่มีกระแสข่าวว่าจะลงสมัคร สว. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า มีประชาชนหลายคนอยากให้ตัวเองลงสมัครเป็นผู้แทนประชาชน ซึ่งตนขอดูรายละเอียดก่อนเพราะช่วงนี้ก็ว่าง และมองว่าเป็นเรื่องที่ดีที่จะได้ทำประโยชน์เพื่อประชาชนเพราะตนยังแข็งแรงอยู่ ยังมีพลัง และมีความคิดสร้างสรรค์ ก็อยากใช้พลังทำงานให้ประชาชน

“เรื่องที่เกิดขึ้นยืนยันว่าไม่เสียกำลังใจ ผมได้กำลังใจจากพี่น้องชาวใต้ 14 จังหวัด ที่ให้กำลังใจ และเมื่อไหร่ที่ถูกรังแกก็ต้องเดินหน้าต่อสู้กับความยุติธรรมให้มากขึ้นเพื่อจะให้เป็นแบบอย่างของพี่น้องชาวใต้ การที่ให้ผมออกจากราชการไว้ก่อนนั้น มีสิ่งเสียดายอยู่ เพราะยังมีภารกิจอีกหลายเรื่องที่ยังไม่ได้ทำในงานที่รับผิดชอบ ทั้งหนี้นอกระบบ การปราบปรามยาเสพติด หรือค้ามนุษย์ งานส่วนนั้นต้องชะงักไป และผมอยากฝากบอกพี่น้องชาวอีสานที่มาร้องเรียนว่าให้รอผมหน่อย ถ้าได้กลับไปปฎิบัติหน้าที่ก็จะกลับไปทำให้แน่นอน ยืนยันว่าผมไม่อยากได้อำนาจ แต่อยากกลับไปเพื่อทำงานให้พี่น้องประชาชน อำนาจที่ได้มาก็จะทำเพื่อประชาชนและแผ่นดิน”

เมื่อถามว่าการที่มีมวลชนมาให้กำลังใจมากมายขนาดนี้ ถือเป็นการใช้ประชาชนเป็นโล่หรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ไม่ใช่เช่นนั้นแน่นอน เพราะคนที่มาก็มาด้วยใจ และก็น้อมรับน้ำใจที่ให้มา และยังมีมวลชนอีกจำนวนมากที่ส่งข้อความมาทางโซเชียลมีเดีย และช่องทางสื่อต่างๆ ซึ่งในส่วนนี้ก็ขอขอบคุณ และยืนยันว่าจะเดินหน้าทำหน้าที่ในการทำเพื่อประชาชนและประเทศชาติต่อไป และถ้าหาก มีโอกาส ก็จะดำเนินการตามโครงการที่เคยทำไว้ก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะการแก้ปัญหาปากท้องให้กับประชาชน ในพื้นที่ภาคอีสานซึ่งส่วนใหญ่ยังตกเป็นเหยื่อของนายทุนดอกเบี้ยโหด โดยที่ที่ผ่านมาตนสามารถนำที่ดินของประชาชนกว่า 300,000 ไร่กลับคืนให้กับประชาชน และยังให้ความเป็นธรรมกับเหล่านายทุน เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้ง นี่เป็นการแก้ปัญหาแบบระยะยาว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อัยการคดีพิเศษ พิจารณายื่นศาล ขอริบทรัพย์ 'โจ๊ก' และพวก ตกเป็นของเเผ่นดิน

มีรายงานว่า พนักงานสอบสวน ปปง.ได้ยื่นคำร้องขอให้พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษยื่นคำร้องต่อศาลขอยึดทรัพย์สิน พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล และพวกรวม 3

‘หมอเปรม’ แฉมีจนท.รัฐ ใช้ กม.หาประโยชน์กับประชาชน ที่ใช้โดรนเพื่อการเกษตร

หมอเปรม แฉมีเจ้าหน้าที่รัฐใช้กฎหมายหาประโยชน์กับประชาชนที่ใช้โดรนเพื่อการเกษตร จี้รัฐบาลแก้กฎระเบียบที่เป็นอุปสรรค รมว.ดีอียันรัฐบาลพร้อมสนับสนุนเต็มที่ให้การใช้โดรนเกิดประโยชน์สูงสุดในทุกภารกิจ

'สว.ชิบ' เค้นรัฐบาล! ใครสั่งโยกคดี 'ดิไอคอน' ให้ดีเอสไอ หวั่นบอสรอดคุก

'สว.ชิบ' ตั้งกระทู้ถามนายกฯ ข้องใจคำสั่งจากใคร ทำให้รัฐบาลโยกคดี 'ดิ ไอคอน' ใส่มือดีเอสไอ หวั่นสรุปคดีไม่ทันเวลา เปิดโอกาสบรรดา 'บอส' รอดคุก

จ่อออกหมายเรียก 'เท้าแชร์กิ๊ฟซี่' โกงเหยื่อ 66 ราย เสียหาย 15 ล้าน

ร.ต.อ.พนัส โกรดประโคน รอง สว.(สอบสวน) สภ.บ้านกรวด ให้ข้อมูลว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบปากคำผู้เสียหาย และรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง

ยอดเหยื่อ ’ดิไอคอนกรุ๊ป’ เข้าแจ้งความแล้ว 9,469 ราย เสียหายรวม 2,916 ล้านบาท

สรุปยอดผู้เสียหาย ดิไอคอนกรุ๊ป เข้าแจ้งความจากทุกศูนย์รับแจ้งความ และทุกสถานีตำรวจนครบาล - สถานีตำรวจภูธร ทั่วประเทศ