ดร.เสรี ชำแหละดิจิทัล 10,000

27 เม.ย. 2567 - ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านการตลาดและการสื่อสาร โพสต์เฟซบุ๊กว่า แจกเงินดิจิทัล 10,000 แก่คนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไปที่รายได้น้อยกว่า 840,000 หรือเงินเก็บไม่เกิน 500,000 บาท ยังมีคำถามมากมาย

ทำไมต้องแจกแบบไม่แยกแยะยากดีมีจน

ทำไมไม่แจกเฉพาะกลุ่มเปราะบางที่ต้องการความช่วยเหลือ ที่จะทำให้ใช้เงินลดลงจาก 500,000 ล้านมาเป็นเพียง 150,000 เท่านั้น

มีเงินแล้วแจกพอรับได้ แต่ไม่มีเงินแล้วไปกู้มาแจกมันเหมาะสมแล้วหรือ มันเป็นการใช้เงินภาษีของประชาชนตกเขียวหาเสียงหรือเปล่า

เงื่อนไขการใช้เงินก็ลำบากทั้งร้านค้าและคนซื้อ

คนไม่เดือดร้อน ได้รับไป เขาก็เอาไปใช้แทนเงินของเขาที่มีอยู่ แล้วเก็บเงินของเขาไว้ หรือเอาไปใช้ในเรื่องที่โครงการนี้ห้าม

แบบนี้มันจะสะพัดเพิ่มได้สักเท่าไหร่ คงไม่ถึง 1%

คนอาศัยอยู่นอกภูมิลำเนาตามทะเบียนบ้าน (มีมากกว่า 6 ล้านคน) จะต้องใช้เงินเดินทางกลับภูมิลำเนา ก็ต้องเสียค่าใช้จ่าย

คนคุก คนทำงานต่างประเทศ พระสงฆ์ ได้ด้วยไหม แล้วถ้าเขามีสิทธิ์จะได้ เมื่อได้ไปแล้ว ใช้จ่ายไม่ได้ เงินจะไปไหน

ยังมีคำถามมากมายที่ยังตอบไม่ได้ หรือตอบไม่ชัด หรือตอบแล้ว หลายฝ่ายไม่ยอมรับ ก็ยังจะทำให้ได้ มีวาระซ่อนเร้นอะไรหรือไม่

เสียงทักท้วงจากผู้รู้มีมากมาย เป็นเหตุเป็นผล เข้าใจได้ง่ายว่าได้ไม่คุ้มเสีย เสี่ยงทำผิดกฎหมาย ทำไมจึงไม่ฟัง จะดันทุรังทำไม

พรรคร่วมใน ครม. เห็นชอบหลักการ แต่ก็มีข้อแม้ว่าจะต้องถามกฤษฎีกาว่าตามกฎหมายแล้วทำได้หรือไม่ ดังนั้นตอนนี้แค่ไฟเหลือง ยังไม่ใช่ไฟเขียวนะคะ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เกรงว่าคำอวยพรปีใหม่จะไม่จริง

เวลาที่เรากล่าวคำอวยพรให้ใครๆ เราก็จะพูดแต่เรื่องดีๆ และหวังว่าพรของเราจะเป็นจริง ถ้าหากเราจะเอาเรื่องอายุ วรรณะ สุขะ พละ มาอวยพร โดยเขียนเป็นโคลงกระทู้ได้ดังนี้

กร่าง...เกรี้ยวกราด...ฤากลัว

ใครบางคนตำแหน่งก็ไม่มี สมาชิกก็ไม่ใช่ แต่แสดงบทบาทยิ่งใหญ่กว่าใครๆ เหมือนจงใจจะสร้างตำแหน่งใหม่ที่คนไทยต้องยอมรับ และดูเหมือนเขาจะประสบความสำเร็จเอาเสียด้วย

หมดปัญญา...เทวดาต้องรอด

เวลานี้ มีคนบางคนทำผิดกฎหมาย ไม่ให้ค่ารัฐธรรมนูญ บดขยี้กระบวนการยุติธรรมจนป่นปี้ แล้วปรากฏว่าเขาไม่มีความผิดใดๆ ไม่มีหน่วยงานใด ไม่มีกฎหมายมาตราใดจะเอาโทษเขาได้

นักการเมืองไม่ทำชั่ว...ไม่ต้องกลัวรัฐประหาร

นายกรัฐมนตรี 2 คนที่มาจากตระกูลชินวัตรต้องถูกยึดอำนาจจากการทำรัฐประหารในปี 2549 และ 2557 ทำให้นายใหญ่ของพรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นหมายเลข 1 ของตระกูลชินวัตรมีความประหวั่นพรั่นพรึงการทำรัฐประหารของทหารเป็นอย่าง