26 เม.ย.2567 - จากกรณีเมื่อวันที่ 25 เม.ย. ที่ผ่านมา ศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีดำ อ.1114/2564 ที่ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสนธิญา สวัสดี อดีตปรึกษากรรมาธิการ การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา จากที่จำเลยได้ยื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวหาว่าโจทก์ขาดคุณสมบัติในการดำรงตำแหน่ง ส.ส. พร้อมทั้งให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ซึ่งศาลชั้นต้นจำคุก 1 ปี ปรับ 100,000 บาท ลดโทษเหลือจำคุก 6 เดือน ปรับ 50,000 บาท โทษจำคุกให้รอไว้ 2 ปี แต่ปรากฏว่า นายสนธิญา ไม่มีฟังคำสั่งศาลตามนัด ศาลอาญาจึงให้ออกหมายจับไว้เพื่อตามตัวมาฟังคำพิพากษา
เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ 26 เม.ย. นายสนธิญา เดินทางมาที่ศาลอาญา เพื่อรายงานตัวต่อเจ้าพนักงานตำรวจศาลและเข้าห้องเวรชี้ประจำศาลอาญา เพื่อฟังคำสั่งโดยศาลอาญาพิจารณาแล้วเห็นว่า ได้สอบจำเลยแล้ว แถลงว่าไม่ได้มีเจตนาไม่มาศาลตามกำหนดนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ เนื่องจากจำวันเวลาโดยผิดหลงจากวันอ่านคำพิพากษา จึงขอให้ศาลเพิกถอนหมายจับและขอให้ศาลเลื่อนการอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เป็นไปตามที่นัดไว้
พิเคราะห์แล้วกรณีมีเหตุอันสมควร เห็นว่าวันนี้จำเลยมาศาล ไม่มีเจตนาหลบหนีเชื่อว่าจำวันนัดพิพากษาศาลอุทธรณ์ผิดพลาด จึงเห็นควรให้เลื่อนไปอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้จำเลยฟังในวันที่ 27 พ.ค.2567 เวลา 09.30 น. และให้เพิกถอนหมายจับลงวันที่ 25 เม.ย.2567 พร้อมกับมีหนังสือแจ้งผู้เกี่ยวข้องทราบต่อไป ทั้งนี้กำชับจำเลยให้มาฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ตามกำหนดนัดเดิม
ต่อมา เมื่อเวลา 16.00 น. นายสนธิญา จึงออกมาจากห้องเวรชี้ประจำศาลอาญา พร้อมกับให้สัมภาษณ์ว่า มารายงานตัวและก็เข้าไปกราบเรียนกับผู้พิพากษาว่า ไม่มีเจตนาจะหนี เพียงแต่จำวันผิดแล้ว สุดท้ายท่านก็ถอนหมายจับ และให้มาฟังคำพิพากษาวันที่ 27 พ.ค.นี้ โดยไม่ต้องเสียค่าปรับอะไรทั้งสิ้น ผมยืนยันที่จะสู้คดีและมีความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม รู้สึกดีใจที่ศาลกรุณาและเข้าใจการทำงานของผม และเข้าใจว่าตนเองต่อสู้ด้วยความจริง ด้วยความสุจริต ไม่มีอะไรซ่อนเร้นทั้งสิ้น ทุกอย่างที่ผ่านมาก็ให้เป็นไปตามกฎหมาย
เมื่อถามว่าอยากจะฝากบอกอะไรถึงพล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ อดีตผบ.ตร.บ้างนายสนธิญา กล่าวว่า ก็ไม่อยากจะบอกอะไร ท่านเป็นผู้ใหญ่ ตนเองโดยส่วนตัวก็นับถือท่านอยู่ แต่ที่ผ่านมาเป็นเรื่องของการทำงาน ความคิดที่ไม่ตรงกัน เพียงต้องการสื่อให้เห็นหรือหาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เพราะฉะนั้นท่านจะพิจารณาอย่างไรก็สุดแต่ท่าน ส่วนตนเองก็ยังมีความเคารพอยู่ตามปกติที่เป็นผู้ใหญ่ของประเทศและตนเองก็เคารพผู้ใหญ่ทุกท่าน และชีวิตคือการทำงานก็พร้อมรับสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งสิ้น จากนั้นจึงเดินทางกลับพร้อมกับลูกสาว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กองปราบ ยื่นขอหมายจับ 'เจ๊พัช กฤษอนงค์' 2 ข้อหาหนัก!
พ.ต.อ.มิ่งมนตรี ศิริพงษ์ ผกก.กลุ่มงานสอบสวน บก.ป. ได้นำหลักฐานและคำให้การของพยานในคดีทั้งห
'สนธิญา' ยื่น 'กสม.' สอบ 'ทักษิณ' ละเมิดสิทธิ์ หานักร้องเป็นหมา
ที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) นายสนธิญา สวัสดี เดินทางยื่นหนังสือ พร้อมหลักฐานภาพข่าวการหาเสียงนายก องค์การ
'ฟิล์ม-เจ๊พัช' ระทึก! 'ผบ.ตร.' ชี้ผิดจริง หมดสิทธิ์ลอยกระทง
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวการออกหมายเรียก หรือหมายจับ ฟิล์ม-นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์
'ทนายตั้ม' พร้อมนอนคุก! เตรียมหลักทรัพย์ยื่นประกันเฉพาะเมีย
ทนายเผย 'ตั้ม' ยังไม่ยื่นประกันตัววันนี้ เตรียมหลักทรัพย์ประกันเฉพาะเมียแทน 'ทนายเจ๊อ้อย’ โผล่ ยื่นค้านประกันตัวชี้มีพฤติกรรมหลบหนี หวั่นยุ่งเหยิงพยาน
ผู้ช่วย ผบ.ตร. เผย 'ทนายตั้ม' เตรียมหนีออกนอกประเทศ ประสานตร.ทางหลวงสกัดจับ
พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงการจับกุม ทนายตั้มและภรรยา ว่าคดีดังกล่าว ทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกำชับให้ตนเข้ามาดูแล
ด่วน! ตร.รวบ 'ทนายตั้ม-เมีย' ที่ฉะเชิงเทรา หลังศาลอนุมัติหมายจับข้อหาฉ้อโกง-ฟอกเงิน
กรณี น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือ "เจ๊อ้อย" แจ้งความดำเนินคดีกับ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ "ทนายตั้ม" ฐานฉ้อโกงเงิน จำนวน 71 ล้านบาท ซึ่งพนักงานสอบสวนได้เรียกสอบปากคำเจ๊อ้อยหลายครั้งหลังพบเส้นทางการเงินอีก จำนวน 39 ล้านบาท ที่ทนายตั้มอ้างว่าเงินจำนวนดังกล่าว