นายกฯ ปาฐกถา 'มินิ วปอ.' ชี้หลายคนเข้ามาเพราะคอนเนกชั่น ขอให้ใช้เป็นประโยชน์ อย่าเบียดเบียนผู้อื่น

นายกฯ ปาฐกถา หลักสูตร​ วปอ. จูเนียร์​ ชี้หลายคนมาเพราะคอนเนกชั่น แต่ไม่ผิด ขอนำไปใช้ประโยชน์ขับเคลื่อนปท. อย่าเบียดเบียนผู้อื่น ลั่นสถานการณ์ร้อนเมียนมา จุดยืนไทยเป็นกลาง ไม่ก้าวก่ายกิจการภายใน ยึดตามนโยบายอาเซียน บอกนโยบายรบ.เกณฑ์ทหารให้สมัครใจ เชื่อลำบากถ้าจะเปลี่ยนแปลงแบบพลิกฝ่ามือ ขณะ “อุ๊งอิ๊ง” คนดังการเมืองเพียบ

9 เม.ย.2567 - เมื่อเวลา 13.50 น. ที่หอประชุมวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ ถนนวิภาวดีรังสิต เขตดินแดง กรุงเทพฯ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักรสำหรับผู้บริหารแห่งอนาคต (วปอ.บอ.) รุ่นที่ 1 และกล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “บทบาทของผู้นำในอนาคตในการรักษาความมั่นคงแห่งชาติ” โดยมี บุคคลที่มีชื่อเสียงร่วมหลักสูตรดังกล่าว เช่น น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย น.ส.ธนนนท์ นิรามิษ ภรรยา นายอนุทิน​ ชาญ​วี​ร​กูล​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​และรมว.มหาดไทย น.ส.รัดเกล้า สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายชัยชนะ เดชเดโช สส.พรรคประชาธิปัตย์ นายคณาพจน์ โจมฤทธิ์ คณะทำงานคนสนิทนายกรัฐมนตรี เป็นต้น

โดยนายกฯกล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “บทบาทของผู้นำในอนาคตในการรักษาความมั่นคงแห่งชาติ” ว่า วปอ.​ชื่อหลักสูตรบอกชัดเจนอยู่แล้วว่า​เป็นหลักสูตรที่มีเกียรติ​ มีศักดิ์ศรี และเป็นส่วนหนึ่งที่จะนำพาประเทศไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองได้ในอนาคต รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ 1 ซึ่งเข้าใจว่ามีหลายคนอยากมาเรียนกันเยอะ เนื่องจากเป็นคอร์สที่มีความต้องการที่จะเข้ามาเรียนอย่างสูง เชื่อว่าทุกท่านได้รับการคัดเลือกมาด้วยความเหมาะสม มีการอบรมเป็นอย่างดี ไหนๆก็มาแล้ว​ ก็อย่าขาดเรียน เข้ามาก็เข้ายาก​ และขอให้เรียน​ ซึ่งตนมั่นใจว่าหลักสูตรสถาบันนี้ให้ความรู้แน่นอน ซึ่งนอกจากความรู้แล้วเรื่องของคอนเนกชั่น​ หรือเรื่องเครือข่ายในการทำงานร่วมกันเป็นเรื่องที่สำคัญ​ ตนเชื่อว่าหลายๆท่านมาในที่นี้เพราะเหตุผลนี้ ถามว่าผิดไหมไม่ผิด แต่คอนเนกชั่น​ต่างๆเหล่านี้ต้องใช้ให้เป็นประโยชน์ แก่ตัวเอง​ แก่ผู้อื่น โดยไม่ไปเบียดเบียนหรือไปทำให้เกิดความไม่เหมาะสม ตนเคยพูดไปหลายครั้งแล้วเรื่องนี้​ ตนไม่อยากจะเน้นย้ำ​ แต่ว่าสังคมของเราในช่วงนี้มีความเหลื่อมล้ำกันสูงมาก​ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่มีการแพร่ระบาดโควิด​ -​19 คนรวย รวยขึ้น คนจน จนลง จึงต้องพูดอย่างตรงไปตรงมาที่สุด เรื่องนี้เป็นเรื่องที่บั่นทอนความมั่นคงของประเทศพอสมควร

นายก​ฯ กล่าวอีกว่า​ พวกเราทุกคนที่อยู่ในที่นี้ตนเชื่อว่าเป็นอนาคตของชาติและจะมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองต่อไป ซึ่งเป็นเรื่องที่พวกเราทุกคนควรตระหนักดี​ถึงเรื่องนี้​ เพราะฉะนั้น​เรื่องของเราที่จะต้องมีความพยายามในการลดความเหลื่อมล้ำลงมา ตนถือว่าเป็นหน้าที่ของทุกคน วันนี้ตำแหน่งหน้าที่การงานอาจจะไม่ใหญ่โตมากมาย การประพฤติตัวตรงนี้​ ก็จะเป็นที่จับตามองของสาธารณชนค่อนข้างมาก​ มีการใช้โซเชียลมีเดียต่างๆนานา​ ซึ่งเป็นตัวที่ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำในสังคม เรามาอยู่ในที่นี้มีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่​ มีองค์กรอิสระ​ นักธุรกิจ​ มีนักการเมือง เป็นการผสมผสานอย่างลงตัว​ ซึ่งสถาบันก็ได้คิดมาดีแล้ว​ เพราะฉะนั้นเรื่องเหล่านี้เราจะให้ความสำคัญในเรื่องของการใช้โซเชียมีเดีย​ ตนขอย้ำอีกครั้งว่า​อะไรที่เป็นการทำให้คนรู้สึก หรือไม่มีโอกาสได้เข้ามาตรงนี้เวลาจะทำอะไรขอให้คิด เพราะพวกท่านเป็นที่จับตามอง เพราะรายชื่อก็มีการประกาศชัดเจนว่าใครได้ ใครอยู่ในคอร์สนี้บ้าง ชื่อคอร์สก็บอกอยู่แล้ว Future Reader ผู้บริหารแห่งอนาคต​ ตนมองว่าเป็นเรื่องสำคัญของอนาคตของพวกท่านทุกคนส่งต่อไปสู่อนาคตของประเทศชาติ

นายเศรษฐา​ กล่าวอีกว่า​ วันนี้หากพูดถึงเรื่องความมั่นคง เรื่องที่เราให้ความสำคัญมากที่สุดในเรื่องความมั่นคงของประเทศ​ ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ปัจจุบันที่ประเทศเมียนมา​ ซึ่งก็เป็นประเด็นที่ร้อนแรง ในช่วง 48 ชั่วโมงที่ผ่านมา ประเทศไทยเรายืนยันว่าเรามีจุดยืนที่เป็นกลาง เราช่วยเหลือมนุษยชนและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย​ เราไม่ก้าวก่ายในกิจการภายในของแต่ละประเทศ​ อย่างไรก็ตามหากพวกท่านอาจจะเรียนภูมิศาสตร์มาแล้วและเห็นว่าชายแดนของเราติดกับเมียนมาประมาณ 2,000 กิโลเมตร เพราะฉะนั้นถือเป็นมีพื้นที่ที่ติดกันจำนวนมาก การเข้าออกได้ทุกทางสามารถเปลี่ยนไปได้อย่างง่ายดาย ซึ่งประเทศที่จะมีส่วนได้ส่วนเสียกับประเทศเมียนมา​ และสามารถพัฒนาได้ประโยชน์สูงสุดก็คือประเทศไทย แต่ในทางกลับกันหากเขาอยู่ไม่ได้เราก็จะเดือดร้อน ซึ่งจุดยืนของเราชัดเจน ตามนโยบายที่ทางอาเซียนให้เรามา

นายกฯ กล่าวอีกว่า​ สำหรับโครงการแลนด์บริดจ์ไม่ว่าจะเป็นการร่วมทุนระหว่างเอกชนและรัฐบาล ยืนยันว่าคนที่จะ Control access ทั้งหมด ต้องเป็นรัฐบาลไทย การเปลี่ยนแปลงตนคิดว่าจะส่งผลหลายอย่าง ตนบอกว่าประเด็นความขัดแย้งทางเศรษฐกิจ จะทำให้ทุกคนต้องการเส้นทางนี้ในการส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศเขา​ เพราะฉะนั้นตนมั่นใจว่าประเทศไทยจะเป็นสวิตเซอร์แลนด์ของโลก แลนด์​บริดจ์จะเป็นอาวุธ​ที่สำคัญเท่ากับเรือฟริเกต เครื่องบินกริพเพน ทำให้ประเทศไทยมีศักยภาพที่ดีขึ้น​ ใครก็ตามที่รุกรานเราก็จะคิดเสมอว่าเส้นทางนี้เป็นเส้นทางเศรษฐกิจที่สำคัญ หากถูกรุกรานเมื่อไหร่ก็จะได้รับความเดือดร้อน ซึ่งแลนด์​บริดจ์​จะต้องได้รับการลงทุนที่เหมาะสม​ และต้องนำมาซึ่งความมั่นคงทางเศรษฐกิจ​

นายกฯ กล่าวยังกล่าวถึงจุดยืนของนโยบายการเกณฑ์ทหารด้วยว่า​ ขณะนี้เป็นช่วงฤดูกาลการเกณฑ์ทหาร โดยนโยบายที่ชัดเจนของเราคือให้เป็นความสมัครใจเกณฑ์ทหารในรัฐบาลนี้ โดยจะต้องค่อยๆทำด้วยการเปลี่ยนผ่าน เพราะสังคมไทยไม่ชอบอะไรที่เป็นอย่างนี้ โดยระหว่างนี้นายกฯทำท่าพลิกฟ่ามือ พร้อมกับกล่าวต่อว่า ลำบากครับ​ ตนเชื่อว่าสถาบันทหารเองก็ต้องการบุคลากรที่มีคุณภาพ ที่ต้องเข้าไปอยู่ในองค์กรทำให้สถาบันทหารแข็งแกร่งขึ้น แต่แน่นอนว่าจิตวิญญาณของพวกเราทุกคน คนสมัยใหม่ต้องการทางเลือก ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญ ก็ต้องมาด้วยกฎระเบียบที่ต้องค่อยๆผ่อนคลายกันไป วันนี้ก็เริ่มเห็นผลแล้ว ไม่ว่าจะเป็นมาตรการที่รับสมัครทหารมากขึ้น และลดปริมาณการเกณฑ์ทหารลง พร้อมกับมองว่าสายการแพทย์ของทหาร หากจะรับบุคลากรทางการแพทย์ทหารมากขึ้นแล้วผิดตรงไหน ก็เขาสมัครใจอยากจะมาเป็น อย่าเอาทฤษฎี One site​ fit all​ มาใช้กับทุกบริบทของประเทศ

นายเศรษฐา กล่าวว่า หลังจากที่พวกท่านจบคอร์สในเดือนก.ย.นี้แล้ว จะมีการลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง อาจจะมีโครงการแต่ละคน หากสามารถช่วยคนที่อยู่ฐานรากของสังคมได้ ก็ขอให้ช่วยอย่างจริงจัง ใครมีเส้นสายในแง่ของช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าให้กับเกษตรกรในพื้นที่ ก็อยากให้ลงมาช่วยพิจารณาช่วยเหลือกัน ใช้เครือข่ายที่ตัวเองมีอยู่ช่วยเหลือประชาชน ตนคิดว่าสังคมไทยจะมั่นคงยิ่งขึ้น โดยมีฐานรากของเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ตนคิดว่าระยะเวลาการอบรม 6 เดือนนี้จะเป็นมิตรภาพที่แน่นแฟ้น และมีส่วนพัฒนาประเทศต่อไปในอนาคต

จากนั้นนายกฯเดินทักทายผู้เข้าร่วมอบรมในหลักสูตรดังกล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข้องใจ! 'นายกฯอิ๊งค์-บิ๊กเพื่อไทย' ทำไมขยันลงพื้นที่ภูเก็ต

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อ "อุ๊งอิ๊ง หนีกระทู้สภา ไปกระทู้ภูเก็ต" โดยระบุว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

ปี67‘อดีตสว.’ขยับสะเทือนถึงรัฐบาล ถอดถอน‘เศรษฐา’ที่มาของหลายเรื่อง

การเมืองรอบปี 2567 เหตุการณ์ที่ใหญ่ที่สุดต้องยกให้กับศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ “เศรษฐา ทวีสิน” พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ทำให้ “แพทองธาร ชินวัตร” กลายเป็นนายกฯ หญิงคนที่ 2 ของประเทศไทย และทำให้หลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นตามมา วันนี้จึงขอบันทึกเรื่องราวนี้ไว้ ยกให้เป็นเหตุการณ์แห่งปี

3 นายกฯ 'อิ๊งค์-ทักษิณ-เศรษฐา' ร่วมเปิดงานสัมมนาพรรคเพื่อไทย

พรรคเพื่อไทยจัดสัมนาภายใต้โครงการ เสริมศักยภาพ สส. และบุคลากรทางการเมือง มีน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯในฐานะหัวหน้าพรรค นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ รวมถึงแกนนำ

หัวลำโพงคึกคัก! 'อิ๊งค์' นำทีม พท. สัมมนาหัวหิน ตื่นเต้นขึ้นรถไฟรอบ 20 ปี

’แพทองธาร‘ นำทีม ’เพื่อไทย’ ขึ้นรถไฟขบวนพิเศษ มุ่งหน้าสัมมนาหัวหิน ‘เศรษฐา-โอ๊ค-เอม’ ร่วมด้วย ตื่นเต้นนั่งรถไฟรอบ 20 ปี

'เพื่อไทย' ไม่ฟังเสียงต้าน! ดันทุรังเข็น 'กิตติรัตน์' นั่งปธ.บอร์ดแบงก์ชาติ

รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า เป็นที่รับรู้กันโดยทั่วไปว่า รัฐบาลที่มาจากพรรคเพื่อไทยตั้งแต่รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน