รสนาเรียกคดีศาลยกฟ้องพันธมิตรปิดสนามบินเป็นคดีประวัติศาสตร์เพราะยืนยันอำนาจอันชอบธรรมทางตรงของประชาชนในการตรวจสอบรัฐบาลทุจริตทักษิณ ชินวัตรโดยสันติวิธี
31 มี.ค. 2567 – น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีตสมาชิกวุฒิสภา โพสต์ระบุว่า… เมื่อวานนี้(29 มีนาคม 2567) ศาลอาญารัชดาฯได้พิพากษายกฟ้องพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในคดีปิดสนามบินทั้งสนามบินดอนเมืองและสนามบิสุวรรณภูมิ ซึ่งศาลกล่าวว่าเป็นคดีที่เก่าและยืดเยื้อยาวนานที่สุดของศาลอาญาแห่งนี้คือตั้งแต่ปี2551-2567 เป็นเวลายาวนานถึง 16 ปี และมีจำเลยถึง 69 คนในคดีนี้ เสียชีวิตไปแล้ว2คน ป่วยติดเตียง1คน และป่วยไม่ติดเตียงอีก1คนที่ไม่สามารถมาฟังคำพิพากษาที่ศาล ศาลจึงให้ไปติดตั้งระบบทางออนไลน์เพื่อให้จำเลยที่มาฟังคำพิพากษาไม่ได้ สามารถฟังคำพิพากษาจากที่พักได้ด้วย
ดิฉันเดินทางไปฟังคำพิพากษาครั้งนี้เพื่อให้กำลังใจจำเลยในคดีนี้ ซึ่งดิฉันเคยไปเป็นพยานให้ในคดีนี้เมื่อหลายปีก่อน การไปร่วมเป็นประจักษ์พยานในการฟังคำพิพากษา ดิฉันได้พบจำเลยทั้งที่รู้จักและไม่รู้จัก แต่ละคนชราภาพตามกาลเวลา 16ปี บ้างต้องถือไม้เท้าช่วยพยุงกาย คุณป้าคนหนึ่งมีอาการหนาวมากจนเพื่อนจำเลยที่มาด้วยกันต้องหาเสื้อที่มีหมวกคลุมศรีษะมาใส่เพิ่มให้ และเจ้าหน้าที่คุมความเรียบร้อยในศาลต้องเอาเสื้อมาเพิ่มให้อีกด้วย จำเลยคนสุดท้ายที่ศาลและทุกคนรอพร้อม มาสายมากเมื่อโทรหาได้ความว่านั่งรถเมล์มา แต่รถติดมาก เลยแนะนำให้นั่งมอเตอร์ไซด์มา จำเลยคนสุดท้ายบอกว่าไม่มีเงิน ต้องมีคนลงไปรอจ่ายค่ามอเตอร์ไซด์ให้ ดิฉันรู้สึกสะท้อนใจกับสิ่งที่ได้พบเห็นในวันนั้น
คำพิพากษานี้ได้ช่วยเยียวยาความรู้สึกของคนที่ต่อสู้เพื่อปกป้องบ้านเมืองจากรัฐบาลที่ทุจริต ที่บ้างต้องเสียชีวิต บ้างพิการตลอดชีวิต บ้างติดคุกบ้างถูกยึดทรัพย์ มีประชาชนที่หาเช้ากินค่ำมาร่วมในการต่อสู้ ต้องตรากตรำมาสู้คดียาวนานถึง16ปี ในขณะที่นักการเมืองนักรัฐประหารได้อาศัยคนเหล่านี้เป็นนั่งร้านขึ้นสู่อำนาจ ผลัดกันใช้อำนาจไปมา และยังมีการช่วยเหลือนักโทษให้ติดคุก“ทิพย์” และประชาชนต้องทนเห็นความไม่เป็นธรรมในระบบความยุติธรรมของบ้านเมือง
คำพิพากษาของศาลฯไม่ใช่แค่เยียวยาความรู้สึกสิ้นหวังของประชาชนเท่านั้น แต่เป็นคำพิพากษาประวัติศาสตร์ที่ได้ยืนยันถึงสิทธิ และอำนาจทางตรงอันชอบธรรมของประชาชนในการต่อต้านรัฐบาลทุจริตโดยสันติวิธี
คำพิพากษาพูดถึงสาเหตุการชุมนุมของพันธมิตรที่เกิดจากสาเหตุการทุจริตเชิงนโยบายของรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร และรวมถึงรัฐบาลนอมินีที่มีนายสมัคร สุนทรเวชเป็นนายกรัฐมนตรี และคนในตระกูลเครือญาติของทักษิณ ชินวัตร เช่นนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ สาระการชุมนุมต่อต้านอย่างยืดเยื้อคือคัดค้านความพยายามที่จะแก้รัฐธรรมนูญเพื่อเปลี่ยนแปลงเรื่องการยุบพรรคพลังประชาชนที่มีการทุจริตการเลือกตั้ง และแก้มาตราให้ยุบเลิกคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.)ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อตรวจสอบคดีทุจริตหลายคดีของทักษิณ ชินวัตร
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จึงมีการชุมนุมเพื่อต่อต้านการแก้รัฐธรรมนูญของรัฐบาลนอมินีและรัฐบาลเครือญาติของทักษิณเพราะสาเหตุนั้น
ศาลได้อ่านคำพิพากษาที่เป็นสาระสำคัญประมาณ 10 หน้าจากทั้งหมด 51 หน้า ศาลยกประเด็นที่ทักษิณเดินทางเข้ามารับโทษที่เป็นคดีทุจริตที่ทำให้รัฐเสียหายต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่เหลืออายุความอยู่จำนวน 3 คดี ที่มีโทษจำคุกรวม 8ปี นักโทษชายทักษิณ ชินวัตรยอมรับผิด และมีความสำนึกต่อการกระทำผิดแล้วจึงได้ขอพระราชทานอภัยโทษ และทักษิณมีอายุเกิน 70 ปี จึงทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอภัยลดโทษให้เหลือ1ปี เป็นการแสดงว่าสาเหตุที่กลุ่มพันธมิตรชุมนุมเพื่อต่อต้านการทุจริตของทักษิณเป็นเรื่องจริง
ศาลได้ยกกฎหมายรัฐธรรมนูญหลายมาตราเพื่อรับรองการชุมนุมสาธารณะที่เป็นไปโดยสันติวิธีของกลุ่มพันธมิตรว่าสามารถทำได้ แม้มีพรก.ฉุกเฉินก็ไม่สามารถห้ามการชุมนุมที่กระทำโดยสันติวิธีได้ และยังได้ยืนยันว่าการชุมนุมเพื่อคัดค้านการทุจริตของทักษิณ และรัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์ซึ่งเป็นพี่เขยของทักษิณนั้น มิใช่กระทำเพื่อประโยชน์ของกลุ่มพันธมิตรเอง แต่เป็นประโยชน์โดยรวมของประชาชน แม้การปิดสนามบินจะก่อให้เกิดความไม่สะดวกในการเดินทางของประชาชนบ้าง แต่ก็เป็นประโยชน์ต่อสังคมโดยส่วนรวม และภายหลังจากที่พรรคพลังประชาชนถูกตัดสินยุบพรรคในวันที่2 ธันวาคม 2551 ในคดีการทุจริตการเลือกตั้ง กลุ่มพันธมิตรก็ยุติการชุมนุม
ศาลได้ระบุว่าเมื่อกลุ่มพันธมิตรยุติการชุมนุม สนามบินก็สามารถดำเนินการบินได้ตามปกติ ย่อมแสดงว่ากลุ่มพันธมิตรไม่ได้ทำความเสียต่อสนามบินและไม่ผิดกฎหมายการบิน แม้มีการปะทะกันระหว่างจำเลยและเจ้าหน้าที่ ก็ไม่ปรากฎว่ามีใครวางแผนสั่งการ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามสถานการณ์เฉพาะหน้าที่บาดเจ็บด้วยกันทั้งสองฝ่าย
หลังจากศาลได้แจกแจงทั้งข้อกล่าวหาของโจทก์ และข้อต่อสู้ของจำเลยโดยละเอียดแล้ว ศาลจึงได้สั่งยกฟ้อง
คำพิพากษาของศาลครั้งนี้ถือเป็นคำพิพากษาประวัติศาสตร์ที่เป็นการยืนยันสิทธิอำนาจทางตรงของประชาชนอันชอบธรรม ในการต่อต้านรัฐบาลที่ทุจริตและขาดหลักนิติธรรมในการบริหารบ้านเมือง เพราะรัฐบาลและส.สทั้งหลายเป็นเพียงตัวแทนที่ประชาชนเลือกขึ้นมาทำหน้าที่แทนเท่านั้น เมื่อตัวแทนเหล่านั้นไม่สามารถคานดุล และตรวจสอบกันเองได้ เมื่อรัฐบาลทุจริต หรือบริหารอย่างขาดหลักธรรมาภิบาลตามหลักนิติธรรมแล้ว ประชาชนย่อมมีสิทธิอันชอบธรรมในการใช้อำนาจทางตรงในการตรวจสอบรัฐบาลและผู้แทนที่ประชาชนเลือกขึ้นมา
รัฐบาลต้องไม่เข้าใจผิดว่าเมื่อได้รับเลือกตั้งมาแล้ว จะบริหารบ้านเมืองแบบปู้ยี่ ปู้ยำอย่างไรก็ได้ ประชาชนเมื่อเลือกตั้งเสร็จก็หมดอำนาจ ซึ่งไม่จริงเพราะรัฐธรรมนูญได้บัญญัติว่าอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย และอำนาจอธิปไตยของประชาชนไม่ได้หมดไปหลังเลือกรัฐบาล และสภาผู้แทนราษฎรเท่านั้น แต่อำนาจทางตรงของประชาชนยังมีอยู่อย่างเต็มเปี่ยมตลอดเวลา ที่จะตรวจสอบรัฐบาลและทุกองคาพยพของรัฐบาลได้ เพื่อให้รัฐบาลบริหารบ้านเมืองโดยเจตนารมณ์ของประชาชน เพื่อประโยชน์ของประชาชนอย่างแท้จริง
นี่คือสิ่งที่ดิฉันได้เรียนรู้จากคำพิพากษาของศาล ดิฉันขอเรียกว่าเป็นคำพิพากษาประวัติศาสตร์ เพราะได้ยืนยันสิทธิการใช้อำนาจทางตรงของประชาชนในการต่อต้านการทุจริตของรัฐบาลตามหลักการแห่งสิทธิเสรีภาพที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยอย่างแท้จริง
รสนา โตสิตระกูล
30 มีนาคม 2567
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ศิริกัญญา' ปูดรัฐบาลวางแผนยึดการบินไทย
“ศิริกัญญา” ชวนจับตา “รัฐบาล” วางแผนยึด “การบินไทย” ส่งผู้บริหารแผนฟื้นฟูฯ เพิ่ม 2 คน กุมเสียงข้างมาก คลังจ่อซื้อหุ้นเพิ่มทุนเต็มสิทธิ์ ถามเอาเงินจากไหน ไม่พ้นต้องควักเงินภาษี
'หมอวรงค์' จับโป๊ะ! ยิ่งฟังรัฐบาลแจง ยิ่งต้องรีบยกเลิก 'MOU 44'
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ยิ่งฟังคำชี้แจงต้องยิ่งยกเลิก MOU 44
'นายกฯอิ๊งค์' ถกหัวหน้าส่วนราชการ ลุยลงทุน 9.6 แสนล้าน กระตุ้นจีดีพีประเทศ
นายกฯ ถกหัวหน้าส่วนราชการฯ กำชับผลักดันเม็ดเงินลงทุน 9.6 แสนล้าน สู่ระบบเศรษฐกิจ กระตุ้น ‘จีดีพี’ ประเทศ
'เอ็ดดี้' ชำแหละ! แผนรัฐบาลคุม 'แบงก์ชาติ' บรรลุ 6 เป้าหลัก
นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "เอ็ดดี้ อัษฎางค์" ในหัวข้อ "อะไรคือจุดประสงค์ของการแทรกแซงแบงก์ชาติจากฝ่ายการเมือง"
'กูรูใหญ่' แฉเบื้องลึก! ทำไมนักการเมืองยุคนี้ไม่กลัว 'ยึดอำนาจ'
นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย และอดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า การเมืองไทยกำลังเข้าสู่ทางตัน
‘อดีตรองหน.เพื่อไทย’ เตือนสติ ‘ไว้ใจ-ศรัทธา’ คือพื้นฐานเสถียรภาพความมั่นคงรัฐบาล
สามารถ แก้วมีชัย อดีตรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เตือนสติรัฐบาล