ศาลฎีกาพิพากษายืน กักขัง 1 เดือน 'ไบรท์ ชินวัตร' คดีละเมิดอำนาจศาล

27 มี.ค.2567 - ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เผยแพร่ข่าวสารว่า 26 มี.ค. 2567 ศาลอาญานัดฟังคำสั่งของศาลฎีกาในคดีของ “ไบรท์”​ ชินวัตร จันทร์กระจ่าง นักกิจกรรมในจังหวัดนนทบุรี ซึ่งถูกกล่าวหาในข้อหาละเมิดอำนาจศาล จากเหตุปราศรัยหน้าศาลอาญาเมื่อวันที่ 29 เม.ย. 2564 คดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาจำคุก 4 เดือน โดยไม่รอลงอาญา ต่อมาศาลอุทธรณ์ได้กำหนดโทษใหม่เป็นกักขัง 1 เดือนแทน ก่อนชินวัตรจะยื่นฎีกาคำพิพากษาและศาลกำหนดนัดฟังคำสั่งในวันนี้
.
ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลชั้นอุทธรณ์ ลงโทษจำคุก 1 เดือน โดยเปลี่ยนจากโทษจำคุกเป็นโทษกักขังแทน เป็นระยะเวลา 1 เดือน
.
คดีนี้มี ชวัลนาถ ทองสม ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการประจำศาลอาญา เป็นผู้กล่าวหา คำกล่าวหาบรรยายว่า เมื่อวันที่ 29 เม.ย. 64 กลุ่ม “แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม” ประมาณ 300 คน ได้รวมตัวกันมาทํากิจกรรมยื่นจดหมาย “ราชอยุติธรรม” พร้อมทั้งยืนอ่านกลอน “ตุลาการภิวัฒน์” ที่บริเวณบันไดทางขึ้นศาลอาญา โดยมีชินวัตรเข้าร่วมชุมนุมและปราศรัยผ่านเครื่องขยายเสียง พร้อมทั้งตะโกนข้อความ “ปล่อยเพื่อนเรา”และข้อความต่าง ๆ อยู่เป็นระยะ ทําให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยภายในศาลอาญา
.
เวลา 09.45 น. ที่ห้องพิจารณา 712 ไบรท์ถูกคุมตัวมาด้วยชุดนักโทษสีน้ำตาล เท้าเปล่า และมีเครื่องพันธนาการคือกุญแจข้อเท้า โดยในวันนี้ภรรยาและลูกทั้งสองคนของเขาได้เดินทางมาให้กำลังใจที่ศาลด้วย ชินวัตรได้ใช้เวลาพูดคุยกับครอบครัวอยู่สักระยะหนึ่ง ก่อนที่ศาลจะออกพิจารณาคดีในเวลา 10.25 น.
.
ศาลอาญาอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา สรุปใจความสำคัญได้ว่า คดีนี้มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของผู้ถูกกล่าวหาว่า การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาเป็นการใช้เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และเป็นการกระทำที่เกิดนอกห้องพิจารณา มิได้เกิดขึ้นต่อหน้าศาลที่พิจารณาคดีแต่อย่างใด และผู้ถูกกล่าวหามิได้ประพฤติตนไม่เรียบร้อยในระหว่างการพิจารณาหรือภายในศาล การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาจึงไม่เป็นความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล
.
เห็นว่า ในชั้นอุทธรณ์ ศาลพิพากษาว่า แม้การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาเกิดนอกห้องพิจารณา มิได้เกิดต่อหน้าศาล แต่ถ้อยคำที่ผู้ถูกกล่าวหาปราศรัยนั้นมีการใส่ความ ก้าวร้าว หยาบคาย ดูหมิ่น เหยียดหยาม ข่มขู่แสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อศาลโดยปราศจากหลักฐาน ถือเป็นเรื่องร้ายแรง ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและทำให้ประชาชนขาดความเชื่อถือต่อศาลยุติธรรม การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาจึงเป็นการประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาลแล้ว ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น
.
ที่ผู้ถูกกล่าวหาฎีกาว่า คดีนี้ ผู้ถูกกล่าวหาถูกดำเนินคดีเช่นเดียวกับคดีอาญา ผู้กล่าวหาได้ขอนับโทษต่อ และศาลอาญาได้ดำเนินกระบวนพิจารณาดังเช่นกระบวนพิจารณาคดีอาญา บทบัญญัติเรื่องละเมิดอำนาจศาลมีโทษจำคุก อันเป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพของบุคคลเฉกเช่นเดียวกับบทลงโทษในคดีอาญา ถูกกล่าวหาจะต้องถูกดำเนินคดีอาญาในความผิดฐานอื่นร่วมด้วยในการกระทำเดียว ดังนั้นผู้ถูกกล่าวหาจึงอาจถูกลงโทษทางอาญาซ้ำจากการกระทำครั้งเดียว เป็นการลงโทษซ้ำซ้อน
.
เห็นว่า ความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลเป็นความผิดต่อศาลซึ่งกฎหมายให้ศาลมีอำนาจพิเศษ ในการลงโทษโดยไม่ต้องมีผู้ใดร้องขอหรือเป็นโจทก์ฟ้อง ส่วนคดีที่ผู้ถูกกล่าวหาถูกฟ้องที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ข้อหาดูหมิ่นศาลนั้น เป็นคนละเรื่องคนละประเด็นกับคดีละเมิดอำนาจศาล ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น
.
ที่จำเลยฎีกาให้ศาลลงโทษสถานเบาเนื่องจากเป็นโทษที่สูงเกินกว่าเหตุนั้น เห็นว่า จำเลยมีการปราศรัยโจมตีด้วยถ้อยคำหยาบคาย ซึ่งถือเป็นเรื่องร้ายแรง ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและทำให้ประชาชนขาดความน่าเชื่อถือต่อศาลยุติธรรม การที่ศาลอุทธรณ์ได้กำหนดบทลงโทษใหม่ โดยเปลี่ยนจากโทษจำคุกเป็นโทษกักขังแทน เป็นระยะเวลา 1 เดือน นับว่าเป็นคุณต่อผู้ถูกกล่าวหามากแล้ว
.
พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ ลงโทษจำคุก 1 เดือน โดยเปลี่ยนจากโทษจำคุกเป็นโทษกักขังแทน เป็นระยะเวลา 1 เดือน

ภายหลังจากการอ่านคำพิพากษา ศาลได้แจ้งให้ชินวัตรได้ใช้เวลาอยู่กับภรรยาและลูกทั้งสองอีกสักระยะ เจ้าหน้าที่จึงอนุญาตให้ชินวัตรได้พูดคุยกับครอบครัวอีกราว 5 นาที ก่อนจะคุมตัวเขาออกไป
.
ปัจจุบัน ชินวัตรถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เป็นเวลา 27 วันแล้ว หลังศาลอาญาได้พิพากษาจำคุกชินวัตร 3 ปี ในคดีมาตรา 112 เมื่อวันที่ 29 ก.พ. 2567 ที่ผ่านมา
.
อย่างไรก็ตาม ผลจากคำพิพากษาในวันนี้อาจทำให้ชินวัตรถูกย้ายตัวจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ไปรับโทษกักขังในสถานที่อื่น ได้แก่ สถานกักขังจังหวัดปทุมธานี เนื่องจากคดีนี้ได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว แต่ยังต้องติดตามการย้ายตัวต่อไป
.
ทั้งนี้ สำหรับคดีมาตรา 112 ของชินวัตร ที่เขาเปลี่ยนคำให้การเป็นรับสารภาพ ศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษาออกมาทั้งหมด 5 คดีแล้ว โดยมี 1 คดีที่ศาลพิพากษาให้รอลงอาญา ขณะที่อีก 4 คดี ศาลลงโทษจำคุกโดยไม่รอลงอาญาทั้งหมด ได้แก่ คดีชุมนุม #2ธันวาไปห้าแยกลาดพร้าว ลงโทษจำคุก 3 ปี, คดีชุมนุม #25พฤศจิกาไปSCB ลงโทษจำคุก 3 ปี, คดีปราศรัยหน้า สน.บางเขน ลงโทษจำคุก 1 ปี 6 เดือน และคดีชุมนุม #ม็อบ29พฤศจิกา63 “ปลดอาวุธศักดินาไทย” ลงโทษจำคุก 3 ปี
.
หากนับโทษจำคุกในสี่คดีที่ไม่รอลงอาญานี้ ชินวัตรมีโทษจำคุกจากคำพิพากษา รวม 10 ปี 6 เดือน แต่ทั้งนี้ในแต่ละคดีจะมีการอุทธรณ์คำพิพากษาต่อไป
.
📌อ่านบนเว็บไซต์ : https://tlhr2014.com/archives/65914

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ธนาธร' โต้ 'ทักษิณ' รู้ดีมีเหตุผลอื่นที่ 'ก.ก.-พท.' ไม่ได้ร่วมรัฐบาลกัน แต่ใช้ม.112เป็นข้ออ้าง

'ธนาธร' โต้ 'ทักษิณ' เหตุที่ 'ก้าวไกล-เพื่อไทย' ไม่ได้ร่วมรัฐบาลกัน ไม่เกี่ยวกับม.112 ไม่มีอยู่ในเอ็มโอยู เผยตัวเองรู้ดีที่สุดว่ามีเหตุผลอื่น แล้วใช้ม.112 เป็นข้ออ้าง ซัด 'ทักษิณ' น่าจะเป็นคนที่เข้าใจปัญหาโครงสร้างดีที่สุด แทนที่จะร่วมแก้ปัญหา กลับเลือกเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา

'บอสพอล' คอตกนอนคุก! ศาลไฟเขียวฝากขัง ส่งเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

‘บอสพอล’ คอตกนอนคุก หลังศาลอนุญาตฝากขังครั้งเเรก ให้การปฏิเสธทุกข้อหา เจ้าตัวยังไม่ยื่นประกัน เจ้าหน้าที่ส่งตัวเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

เปิดผลสอบ 'กสม.' ชี้ชัด 'ทักษิณ' อภิสิทธิ์ชน ยื่น ป.ป.ช. ฟัน 'เรือนจำ-รพ.ตำรวจ'

กสม. สอบร้องเรียนปม 'ทักษิณ' ได้รับสิทธิรักษาพยาบาลดีกว่าผู้ต้องขังรายอื่น ชี้ชัด 'เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ-รพ.ตำรวจ' เลือกปฏิบัติละเมิดสิทธิ ยื่น ป.ป.ช.ฟัน

ผิดแผน! คดี 112 ที่อสส.สั่งฟ้อง กำลังจะออกฤทธิ์ ท่าทางไม่ดี ตั้งหลักก่อนดีกว่า

นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ ผิดแผน มีเนื้อหาดังนี้

'ดร.อานนท์' แนะน้องๆกลุ่ม3 นิ้ว ที่ทำผิด ม.112 ทำเพื่อตัวเอง 6 ข้อ ก่อนถวายฎีกา

ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์สาขาวิชาสถิติศาสตร์ สาขาวิชาพลเมืองวิทยาการข้อมูล สาขาวิชาวิทยาการประกันภัยและการบริหารความเสี่ยง คณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า

'นางแบก' โต้ 3 นิ้ว สร้างวาทกรรมภาพจำเหมารวมว่า ใครต่อใครติดคุกในรัฐบาลนี้

นางสาวลักขณา ปันวิชัย หรือ แขก คำผกา กองเชียร์พรรคเพื่อไทย อดีตผู้ดำเนินรายการสถานีโทรทัศน์วอยซ์ทีวี (VOICE TV) ปัจจุบัน เป็นผู้ดำเนิน รายการคุยคลายข่าว ออกอากาศผ่านสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) กรมประชาสัมพันธ์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ว่า