'เทพมนตรี' เผยควันหลง มะพร้าวห้าวยัดปาก 'ธงชัย วินิจจะกูล'

19 มี.ค.2567- นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการอิสระด้านประวัติศาสตร์และนักเทววิทยา โพสต์ข้อความระบุว่า ควันหลง มะพร้าวห้าวยัดปากธงชัย วินิจจะกูล ไม่นึกเลยว่าผมจะต้องมาอ่านหนังสือขุนศึกศักดินาและพญาอินทรีการเมืองไทยภายใต้ระเบียบโลกของสหรัฐสหรัฐอเมริกา 2491 ถึง 2500 ของณัฐพล ใจจริง ผมถือเป็นเคราะห์กรรมอย่างยิ่ง เสียเวลา เสียจริต แต่ กระนั้นก็ต้องอ่าน

อ่านทุกตัวอักษรความจริงแล้วดูจะเว่อร์ ไป แต่มันก็จริงๆ

ซ้ำร้ายต้องอ่านคำนำเสนอของธงชัย วินิจจะกูล ซึ่งไม่ได้มีเป็นคำนำเสนอของหนังสือที่ดีได้เลย เพราะเต็มไปด้วยการแดกดัน เหน็บแนม โกรธแค้น เหมือนวาระสุดท้ายของวัยทอง ขออนุญาตไม่ลงที่เกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ที่เขาวิพากษ์วิจารณ์ปากดี

ความตอนหนึ่งธงชัยกล่าวว่า

“ที่เลวร้ายไปกว่านั้นก็คือประเทศนี้ไม่ถือว่าหนังสือดีคือแสงสว่างแต่กลับถือว่าเกิดอันตรายจึงต้องปิดกั้นลบล้าง
วิทยานิพนธ์ที่มีความริเริ่มสร้างสรรค์ใหม่ ควรได้รับการต้อนรับชื่นชมเพื่อความเรืองปัญญาของสังคมอันเป็นเกียรติที่อาจารย์ที่ปรึกษาคณะและสถาบันควรภาคภูมิใจ แต่ถ้าว่าหากไปท้าทายหรือขัดแย้งกับอุดมการหลักของชาติหรือท้าทายต่อสถาบันการเมืองหลัก จะกลับถูกถือว่าเป็นอันตราย วิทยานิพนธ์ที่ดีเยี่ยมอย่างเช่นของณัฐพล ใจจริง อันเป็นฐานของหนังสือเล่มนี้ก็ถูกจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยสั่งห้ามเผยแพร่ หรือเซ็นเซอร์เช่นกัน

มหาวิทยาลัยจึงทำหน้าที่ทั้งความรู้และปิดกั้นทำลายความรู้ด้วย ช่างน่าละอายน่ารังเกียจเหลือเกินที่มหาวิทยาลัยที่อวดตัวว่าดีที่สุดของประเทศไทยสั่งเซ็นเซอร์ผลงานดีดีของบัณฑิตจากสถาบันของตน นักวิชาการบางคนจึงทำตัวเป็นตำรวจความคิด ( Thought Police) คอยสอดส่องเซ็นเซอร์ความรู้ที่เขาเห็นว่าอันตรายส่งให้ผู้บริหารมหาวิทยาลัยจัดการดังที่ปัญญาชนฝ่ายเจ้าคนหนึ่งลงมือแข่งขันที่จะให้เซ็นเซอร์วิทยานิพนธ์ชิ้นนี้ทั้งทั้งที่วิทยานิพนธ์เล่มนี้ผ่านการสอบและอนุมัติปริญญาเรียบร้อยไปแล้ว เขาตั้งข้อกล่าวหาว่าวิทยานิพนธ์ผิดพลาดอย่างแรง ถึงกับเสนอให้ถอดถอนปริญญาข้อกล่าวหาของเขาเจาะจงลงไปที่ความบกพร่องของณัฐพลแห่งหนึ่ง แล้วอ้างว่ามีความผิดพลาดทำนองเดียวกันอีกมากมายราว 30 แห่งด้วยกันเพื่อ พยายามทำลายความน่าเชื่อถือของณัฐพลและของวิทยานิพนธ์ฉบับนั้น

ผมมีโอกาสรับรู้และตรวจสอบข้อผิดพลาดที่ถูกกล่าวหา ผมพบว่ากรณีหลักที่นักวิชาการตำรวจคนนี้กล่าวหานั้นเป็นความผิดพลาดของณัฐพลจริงเพราะเข้าใจหลักฐานผิดตีความเกินเลยไป แต่ความผิดพลาดดังกล่าวไม่ได้สำคัญต่อวิทยานิพนธ์ทั้งเล่มหรือบทนั้นหรือตอนนั้นแต่อย่างใด หมายความว่าณัฐพลได้เสนอหลักฐานชิ้นอื่นและข้อมูลอีกจำนวนมากในบทตอนนั้นและตลอดทั้งเล่ม เพื่อยืนยันข้อเสนอและการวิเคราะห์สำคัญสำคัญ หากข้อความที่เป็นปัญหานั้นถูกยกออกไปหมดทั้งย่อหน้าวิทยานิพนธ์บทตอนนั้นและทั้งเล่มก็ยังนำไปสู่ข้อวิเคราะห์และข้อสรุปเหมือนเดิมทุกประการ ดังที่ณัฐพลได้แสดงให้เห็นในหนังสือเล่มนี้ซึ่งไม่มีข้อความที่ผิดพลาดดังกล่าวแล้ว
สิ่งที่ตำรวจทางวิชาการอ้างว่าผิดพลาดอีกมากมายหลาย 10 แห่งนั้นได้ตรวจสอบแล้วไม่พบความผิดพลาดสักครั้งเดียวอย่างมากก็เป็นการตีความที่ที่ดินได้ตามแต่อุดมการและมุมมองจนตำรวจทางวิชาการทึกทักว่าเป็นความผิดพลาด

ในธรรมเนียมทางวิชาการทางสังคมมนุษย์ศาสตร์ตามปกตินั้นการถกเถียงทางวิชาการควรทำด้วยการถกเถียงนำเสนอข้อวิเคราะห์ที่ดีกว่าหรือหลักฐานที่ดีกว่าหรือการตีความที่ต่างออกไป หากมีข้อผิดพลาดก็เปิดเผยออกมา ผู้วิจัยจะยอมรับหรือแย้งคำกล่าวหาก็แถลงออกมา ผู้อ่านย่อมได้ประโยชน์ไปด้วย แต่นักวิชาการตำรวจความคิดรายนี้มิได้พยายามใช้วิธีทางวิชาการแม้แต่น้อย กลับวิ่งเต้นให้มีการใช้อำนาจของคณะหรือของมหาวิทยาลัยจัดการเซ็นเซอร์วิทยานิพนธ์เสียเลย นี่ไม่ใช่วิธีของนักวิชาการ หรือตำรวจความคิดรู้ว่าตนใช้วิธีทางวิชาการคงไม่ได้ผลิต แต่ยังต้องการลบล้างความรู้ที่ตนไม่พอใจให้ได้จึงวิ่งเข้าหาอำนาจเพื่อสั่งให้วิทยานิพนธ์ชิ้นนี้เป็นโมฆะ แต่เนื่องจากได้สอบผ่านไปแล้วอนุมัติปริญญาไปแล้วจึงใช้อำนาจสั่งห้ามเผยแพร่

พฤติกรรมเช่นนี้ทำให้นึกถึงคำกล่าวที่ว่านักวิชาการฝ่ายนิยมเจ้าไม่มีน้ำยาเพราะเก่งแต่เพียงใช้อำนาจกดความรู้ที่เขาไม่เห็นด้วยในขณะที่ผลงานที่พวกพวกเขาผลิตมักเป็นงาน อาศิรวาทสดุดี (แปลว่าประจบสอพลอ) ที่มีคุณค่าทางวิชาการต่ำ เพราะรู้ว่าในระบบวิชาการของไทย ผลงานดังกล่าวย่อมได้รับการประเมินด้วยคะแนนสูงสุดอย่างแน่นอน ความรักเจ้ากับการหากินกับเจ้าจึงมักไปด้วยกัน แยกไม่ออกว่าอย่างไหนคือศรัทธา อย่างไหนคือสอพลอ เพราะศรัทธาต่อกษัตริย์กับสอพลอต่อกษัตริย์ดูเหมือนจะเป็นสิ่งเดียวกันในประเทศไทย”

ข้อความต่อจากนี้คือเหน็บแนมด่ามหาวิทยาลัย หาอ่านเองนะครับ หน้า 25-28

ผมไม่รู้ว่าผู้บริหารจุฬาฯได้อ่านคำนำเสนอนี้หรือไม่ แต่ควรไปรีบหาอ่าน คำสบประมาท ดูถูกดูแคลนของธงชัย วินิจจะกูล ที่มีต่อจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยยากแก่การยอมรับได้

คำนำเสนอของเขาทำให้ณัฐพล ใจจริง ดูแย่ลงไป อย่างเห็นได้ชัด.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ปิดฉาก 'ณรงค์ กิตติขจร'

นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการอิสระด้านประวัติศาสตร์และนักเทววิทยา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thepmontri Limp

'เทพมนตรี' ลากไส้ สันดานนักประวัติศาสตร์บางคน อกตัญญู สอนให้คนชังชาติ

นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการอิสระด้านประวัติศาสตร์และนักเทววิทยา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thepmontri Limpaphayorm ระบุว่า

'เทพมนตรี' เผยเหตุผู้บริหารจุฬาฯ ไม่กล้าถอดวิทยานิพนธ์-ป.เอก ของณัฐพล ใจจริง

นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการอิสระด้านประวัติศาสตร์และนักเทววิทยา โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก กล่าวถึงกรณีสอบสวนวิทยานิพนธ์ปริญญาเอก "การเมืองไทยสมัยรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม ภายใต้ระเบียบโลกของสหรัฐอเมริกา (พ.ศ. 2491-2500)" ของนายณัฐพล ใจจริง จุฬาฯ ว่า