'จตุพร' ฟาด 'เศรษฐา' ทุ่มงบ 138 ล้านปรับปรุงทำเนียบฯ ทำไปทำไม 170 กว่าวันอยู่ทำงานทำเนียบน้อยสุด แต่ 152 วัน เดินสายโชว์แฟชั่นถุงเท้ายันพันคอผ้าขาวม้า สอนหลักบริหารดึงลงทุนผู้แทนไทยเจรจาเสร็จสิ้นนายกฯ ไปลงนาม ไม่ใช่ไปเจรจาเรื่อยเปื่อยไม่มีลงทุน ตปท.เข้ามาจริงสักบาทเดียว
13 มี.ค.2567 - นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ทำงานไร้ทิศทาง และไม่รู้อะไรควรทำหรือต้องไม่เพราะแบกหน้าตาประเทศไปโชว์ต่างประเทศด้วย
"นายเศรษฐา ไปต่างประเทศต้องรู้ถึงการทำหน้าที่นายกฯ กับ เซลล์แมน ควรแตกต่างกัน ถ้านายกฯ ไปในฐานะตัวแทนของประเทศเพื่อลงนามการค้าที่ผู้แทนการค้าไทยเจรจาจบแล้ว ด้วยเหตุนี้ นายกฯ จึงไม่ควรเดินทางไปเจรจาเรื่อยเปื่อย และยังไม่ปรากฎในตัวเงินลงทุนเข้าประเทศแม้กรณีเดียว"
ส่วนการทุ่มงบประมาณ 138 ล้านบาทปรับปรุงทำเนียบรัฐบาลนั้น นายจตุพร กล่าวว่า ไม่ใช่วันเวลาที่ต้องปรับปรุงเพราะประชาชนยังยากลำบากอยู่ ดังนั้น การปรับปรุงที่ทำงานนายกฯ ควรมีความคิดเป็นสิ่งท้ายๆ หลังจากประสบความสำเร็จจากการทำงานบริหารประเทศ แต่ขณะนี้ยังไม่มีผลงานสำเร็จเป็นชิ้นเป็นอันเลย
"ถามว่าทำเนียบรัฐบาลเดิมมีปัญหาอะไร จึงเอาเงิน 138 ล้านบาทมาปรับปรุง และควรนำไปทำอย่างอื่นที่เกิดประโยชน์กว่าจะดีหรือไม่ ถ้าประชาชนอยู่อย่างมั่งมีศรีสุข ลืมตาอ้างปากได้แล้วจะปรับปรุงทำเนียบย่อมทำได้ คนก็ไม่มีความรู้สึกตะขิดตะขวงใจ ดังนั้นหลักคิดการทำงานของนายกฯ จึงสำคัญกับทำอะไรก่อนและหลัง"
พร้อมกล่าวว่า การทุ่งเงิน 138 ล้านบาทปรับปรุงทำเนียบรัฐบาลที่นายกฯ อยู่ทำงานน้อยกว่าอดีตนายกฯ ที่ผ่านอย่างมาก เอาแต่เดิยสายไปต่างประเทศ ด้วยเหตุนี้ กรณีนี้เป็นการแสดงถึงเรื่องที่ควรจะทำกลับไม่ทำ แต่เรื่องไม่ควรทำกลับทำ ราวกับจะอยู่เป็นนายกฯ ยาวไปหรือไม่
"ในจำนวน 170 วันที่เข้ามาทำงานนายกฯ เดินทางทั้งในและนอกประเทศกว่า 152 วันแล้ว ซึ่งมากกว่านายกฯ คนเก่าทั้งสิ้น แต่ผลสัมฤทธิ์กลับไม่ปรากฎ ขายของยังไม่ได้เป็นผลงานเลย นอกจากทำตัวเป็นแฟชั่น ถ่ายรูปเท่านั้น"
นายจตุพร กล่าวอีกว่า นายกฯ ให้ชาวฝรั่งเศลนำพาไปเมืองคานส์นั้น เป็นสิ่งไม่ควรทำ เพราะนายกฯ คือหน้าตาของประเทศต้องไปเจรจาการค้า ดึงการลงทุนเข้าประเทศ ไม่ใช่เรื่องการไม่ติดยึดตามที่กล่าวอ้างเลย แต่มันเป็นหน้าตาของประเทศ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
21 ม.ค.บุกทำเนียบประณามรัฐบาลเอื้อทักษิณชั้น 14
จตุพร จับทางทักษิณ เย้ยพฤติกรรมมั่นใจแบบปากกล้า กร่างเป็นอาการมั่นใจปลอม กลบซ่อนใจกังวลไม่สนิท เชื่อแพทยสภากับ ปปช.ไต่สวนจนความจริงจะปรากฎ ระบุ 21 ม.ค.บุกทำเนียบ ประณามรัฐบาลเอื้อนักโทษชั้น 14 ขยี้บ่อนคาสิโนดูดการพนันออนไลน์ถูกกฎหมายทำชาติฉิบหาย
ชำแหละ 'ทักษิณ' คุยโม้ ลดค่าไฟฟ้า 3.70 บ. ทำหุ้นตก มือดีฉวยโอกาสช้อนซื้อทำกำไร
นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ว่า ทักษิณ ชินวัตร ยิ่งปราศรัยและพูดมากเท่าใด ยิ่งไม่อยู่กับร่องกับรอยสะท้อนอาการน่าเป็นห่วงมากขึ้นเท่านั้น และสิ่งสำคัญแสดงพฤติกรรมและทัศนะเหยียดมนุษย์ให้เห็นอย่างเด่นชัด
'ทักษิณ' สติแตก หาเสียงเหยียดเชื้อชาติ ขู่ส่งเชือกผูกคอคนด่า
ทักษิณ ยิ่งปราศรัยยิ่งมีอาการหนักขึ้น อัดใหญ่มาจากไหน กล้าข่มขู่ส่งเชือกไปผูกคอคนวิจารณ์ ฟาดกลับถ้ากลัวมากต้องเลิกเป็นรัฐบาลไปนอน
ปูด! ส่อเขี่ย 'พีระพันธุ์' ดึงปชน.มาเสริม ปลด 'ภูมิธรรม' นายทหารยศไม่สูงเสียบแทน
นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน โพสต์เฟซบุ๊คว่า นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และรมว.พลังงาน จากพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) มีแววจะถูกปรับออกจาก ครม.
'จตุพร' มองการเมือง 2568 สัมพันธ์อำนาจระแวงบีบกด ฉุดบ้านเมืองเข้ามุมอับ
นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ส่งท้ายปี 2567 ว่า ในปี 2568 บ้านเมือง
เปิดภารกิจ 'กิตติรัตน์' ในตำแหน่งที่ปรึกษาของนายกฯ ทำหลุดเก้าอี้ 'ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ'
กรณีที่ประชุมคณะกรรมการกฤษฎีการ่วม 3 คณะ มีมติด้วยเสียงข้างมากเห็นว่า นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ผู้ได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการสรรหาให้เป็นผู้ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือ ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ