13 มี.ค.2567 - นางอังคณา นีละไพจิตร อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ นักเคลื่อนไหวสตรี ภรรยาของนายสมชาย นีละไพจิตร นักกฎหมายและนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนมุสลิมชาวไทยที่หายสาบสูญ โพสต์ข่าวสารจากเว็บไซต์ คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ว่า
#ประเทศไทย: #ผู้เชี่ยวชาญสหประชาชาติเรียกร้องความจริงและความยุติธรรมหลังทนายสมชายถูกกระทำให้สูญหายร่วม20 ปี
นครเจนีวา (11 มีนาคม 2567) – กลุ่มผู้เชี่ยวชาญสหประชาชาติ* กล่าววันนี้ว่า ประเทศไทยต้องเปิดเผยชะตากรรมและถิ่นที่อยู่ของคุณสมชาย นีละไพจิตร ทนายความสิทธิมนุษยชนซึ่งถูกกระทำให้สูญหายเมื่อ 20 ปีก่อน
“เจ้าหน้าที่ไทยต้องปฏิบัติตามพันธกรณีระหว่างประเทศของประเทศไทย สอบสวนอาชญากรรมที่เกิดขึ้น และนำผู้กระทำผิดที่ทำให้คุณสมชายสูญหายมารับผิดทางอาญา” กลุ่มผู้เชี่ยวชาญสหประชาชาติมีการสันนิษฐานว่าคุณสมชาย นีละไพจิตร นักปกป้องสิทธิมนุษยชนและสมาชิกอาวุโสของสมาคมทนายความสองแห่งในประเทศไทย ถูกกระทำให้สูญหายไปเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2547 โดยเชื่อว่าสาเหตุการหายตัวไปของเขามีความเกี่ยวข้องกับการทำงานในฐานะทนายความเพื่อปกป้องสิทธิของชาวมุสลิมซึ่งถือเป็นชนกลุ่มน้อยอาศัยอยู่ทางภาคใต้ของประเทศไทย จนถึงปัจจุบันยังไม่มีผู้ใดถูกดำเนินคดีเพื่อรับผิดชอบต่อการกระทำให้คุณสมชายสูญหาย
“คดีดังกล่าวเป็นตัวอย่างให้เห็นอย่างประจักษ์ชัดถึงผลกระทบอันร้ายแรงและยาวนานของการกระทำให้สูญหายต่อสมาชิกครอบครัวของผู้เสียหาย นับเป็นการละเมิดสิทธิในการรับรู้ความจริงและการได้รับความยุติธรรมที่ญาติของผู้เสียหายพึงมีทุกประการ” กลุ่มผู้เชี่ยวชาญกล่าว
คุณอังคณา นีละไพจิตร ภรรยาของคุณสมชายและบุตรทั้งห้าคนต่างมีชีวิตอยู่กับความเจ็บปวดรวดร้าว หลังจากที่คุณสมชายถูกกระทำให้สูญหาย อีกทั้งยังต้องเผชิญกับความไม่รู้ถึงชะตากรรมและถิ่นที่อยู่ของเขา
“คุณอังคณา นีละไพจิตรไม่สยบยอมต่อความสิ้นหวังหลังจากสามีถูกกระทำให้สูญหาย และได้พยายามเสาะแสวงหาความจริงและความยุติธรรมอย่างไม่หยุดยั้งในฐานะนักปกป้องสิทธิมนุษยชนตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา” กลุ่มผู้เชี่ยวชาญกล่าว
ทั้งนี้ คุณอังคณา นีละไพจิตร ประกอบอาชีพพยาบาลโดยไม่มีประสบการณ์หรือได้รับการอบรมทางกฎหมายหรือกระบวนการยุติธรรมมาก่อน
“บ่อยครั้งผู้หญิงมักเป็นแนวหน้าของการต่อสู้เพื่อยุติการกระทำให้บุคคลสูญหาย ทั้งตั้งองค์กรและสมาคมเพื่อตามหาคนที่พวกเขารัก เอาชนะอุปสรรคนานับประการ ก้าวข้ามการเหมารวมทั้งหลาย อีกทั้งขจัดลำดับชั้นทางเพศ” กลุ่มผู้เชี่ยวชาญกล่าว
คุณอังคณา เป็นผู้จุดประกายสิทธิในการรับรู้ความจริงและยังเป็นผู้สร้างแรงบันดาลใจ” กลุ่มผู้เชี่ยวชาญกล่าวเพิ่มเติม
เมื่อปี 2548 คุณอังคณา นีละไพจิตรได้รายงานคดีการสูญหายของสามีต่อคณะทำงานแห่งสหประชาชาติว่าด้วยการกระทำให้บุคคลสูญหายโดยบังคับหรือไม่สมัครใจ (The United Nations Working Group on Enforced or Involuntary Disappearances) และคดีดังกล่าวยังคงค้างอยู่ในการดูแลของคณะทำงานฯ คุณ
อังคณาเผชิญทั้งการข่มขู่และการตอบโต้กลับ (reprisals) จากความพยายามในการรับรู้ชะตากรรมและถิ่นที่อยู่ของสามี และเรียกร้องความยุติธรรม แต่กลับไม่ยอมแพ้เพื่อให้ได้ทราบข้อเท็จจริงดังกล่าวทั้งของสามี และผู้เสียหายอีกหลายพันคนในประเทศไทยและทั่วโลก การข่มขู่และการตอบโต้กลับที่คุณอังคณาพบเจอและความจำเป็นที่เธอต้องได้รับการคุ้มครองเป็นประเด็นที่ผู้รายงานพิเศษของสหประชาชาติ ( UN Special Procedures) ได้หยิบยกขึ้นต่อทางการไทยในปี 2554 2557 และ 2566
ในปี 2565 คุณอังคณา นีละไพจิตรเป็นผู้หญิงเอเชียคนแรกที่ได้เป็นสมาชิกของคณะทำงานแห่งสหประชาชาติว่าด้วยการกระทำให้บุคคลสูญหายโดยบังคับหรือไม่สมัครใจ “การปฏิบัติหน้าที่ในคณะทำงานฯ ของคุณอังคณามีความหมายอย่างที่สุดต่อญาติของผู้สูญหายทั่วโลก และสื่อถึงความหมายอันทรงพลังของการยืนหยัดขึ้นอีกครั้ง (resilience) และความหวัง” กลุ่มเชี่ยวชาญกล่าว
“ยี่สิบปีผ่านไป ความจริง ความยุติธรรมและการเยียวยาในคดีการกระทำให้คุณสมชาย นีละไพจิตรสูญหายสามารถเกิดขึ้นได้ และต้องเกิดขึ้นโดยไม่ล่าช้าอีกต่อไป” กลุ่มผู้เชี่ยวชาญกล่าว
จบ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ตุรเกีย' ออกโรงเรียกร้องให้ยูเอ็นคว่ำบาตรการส่งอาวุธให้อิสราเอล
กระทรวงการต่างประเทศของตุรเกียแถลงการณ์ว่า ได้ส่งจดหมายถึงสหประชาชาติที่ลงนามโดย 52 ประเทศและสององค์กร
'แพทองธาร' ปลื้มไทยได้รับเลือกเป็นคณะมนตรี UNHRC ด้วยคะแนนสูงสุด
นายกฯ รับรายงาน เวที UN โหวตให้ไทยเป็นคณะมนตรี UNHRC 1 ใน 18 ประเทศด้วยคะแนนสูงสุด
กสม.ยินดีที่ประเทศไทยให้สัตยาบัน คุ้มครองบุคคลจากการบังคับให้หายสาบสูญ
กสม. ยินดีที่ประเทศไทยให้สัตยาบันต่ออนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการบังคับให้หายสาบสูญ
เด็กก้าวไกลฟันธงแล้ว! ไทยหมดสิทธิ์เก้าอี้ในยูเอ็นหลังบุ้งเสียชีวิต
นายจุลพงศ์ อยู่เกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล
รวบเจ๊อ้วนเมียสุดโหด จ้างวานฆ่าผัวเจ้าของบ่อนไก่ชน
ตำรวจออกหมายจับ “เจ๊อ้วน” จ้างวานฆ่า “โกหมาด” ผัวตัวเอง เจ้าของสนามชนไก่ หลังสอบปากคำควบคุมตัวเข้าห้องขังก่อนส่งฝากขัง
บุกค้นบ้าน 'เจ๊อ้วน' เมียเสี่ยบ่อนไก่ หลังคนร้ายซัดทอดผู้จ้างวานฆ่าฝังดิน
พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ์ เลี่ยมสงวน ผบก.กองบังคับการสืบสวน ภ.8 พร้อมตำรวจกองปราบ ได้เดินทางด่วนมากับเฮลิคอปเตอร์ มาลงที่สนามหน้าสถานีตำรวจภูธรนาสัก อ.สวี จ.ชุมพร จากนั้นได้ร่วมกับชุดสืบสวน ภ.จว.ชุมพร และตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน