13 มี.ค.2567 – นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์คลิปและเนื้อหาในหัวข้อ “ยุบพรรคก้าวไกล : เสี่ยงทั้งฝ่ายอนุรักษ์และฝ่ายก้าวหน้า” ระบุว่า การที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติเอกฉันท์เสนอเรื่องพร้อมความเห็นให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคก้าวไกล แล้วตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค จากกรณีก่อนหน้านี้ ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์วินิจฉัยว่า การกระทำของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพรรคก้าวไกล ที่เสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และใช้เป็นนโยบายในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพ เพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขนั้น
มติของ กกต.ดังกล่าว ไม่ได้เกินความคาดหมายของผู้คนในสังคม ที่ต่างก็มีการคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าแล้วว่า พรรคก้าวไกลจะต้องถูกยุบพรรคอย่างแน่นอน และจะมีการตัดสิทธิ์ทางการเมืองคณะกรรมการบริหารทั้งชุด และยังคาดการณ์ล่วงหน้าว่า จำนวน สส.ของพรรคก้าวไกล 44 คน ที่ผู้ลงชื่อเป็นผู้เสนอญัตติแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 จะถูก ป.ป.ช.สอบเรื่องการฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรง และอาจมีความผิดถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองอีกด้วย
จะเห็นได้ว่าสถานการณ์การเมืองในขณะนี้ เป็นการต่อสู้กัน 2 ขั้วชัดเจน ระหว่างฝ่ายอนุรักษ์นิยม กับฝ่ายก้าวหน้า หรือเสรีประชาธิปไตย ซึ่งต้องห่ำหั่น ชิงไหวชิงพริบทางการเมืองต่อไป ซึ่งการเล่นเกมยุบพรรคก้าวไกลในครั้งนี้ จะเหนื่อยกันทั้ง 2 ฝ่าย ไม่มีฝ่ายใดชนะอย่างเบ็ดเสร็จแน่นอน กล่าวคือ
ในส่วนของพรรคก้าวไกล การถูกยุบพรรคไม่มีหลักประกันใดๆว่า พรรคจะโตขึ้นกว่าเดิม เพราะแกนนำของพรรคถูกตัดสิทธิ์ไปจำนวนหนึ่ง สส.ส่วนหนึ่งจะถูกดึงตัวไปสังกัดพรรคการเมืองอื่น คนที่อยู่ก็เป็นคนรุ่นใหม่มีประสบการณ์น้อย ยังไม่สามารถที่จะนำพาพรรคไปสู่การยอมรับของประชาชนได้เหมือนเดิม การสร้างกระแสยิ่งยุบยิ่งโต อาจไม่เป็นจริงเสมอไป
ส่วนฝ่ายอนุรักษ์นิยม ที่ต้องการทำลายล้างพรรคก้าวไกลให้หมดสิ้นไป พยายามหาหนทางบอนไซและทำลายพรรคก้าวไกลลงให้ได้ก่อน เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า โดยไม่แคร์ว่าหากยุบพรรคก้าวไกลแล้ว จะมีพรรคใหม่จะโตขึ้น ยึดหลักยุบพรรคก้าวไกลให้ได้ก่อน พรรคใหม่โตขึ้นมาอีก ก็ค่อยหาเหตุยุบพรรคให้ได้อีก อะไรจะเกิดขึ้นเป็นเรื่องในอนาคต
หนทางเดียวที่พรรคก้าวไกลจะเติบโตขึ้นกว่าเดิม น่าจะมาจากเหตุผลผู้สนับสนุนพรรคก้าวไกล ที่เคยลงคะแนนให้จำนวน14 ล้านคนเห็นว่า พรรคถูกกลั่นแกล้งไม่ได้รับความเป็นธรรม สร้างความเคียดแค้นและคับแค้นใจ ยังคงปักหลักช่วยพรรคตั้งใหม่ที่มาจากก้าวไกลต่อไป ประกอบกับคนกลางๆทางการเมืองรู้สึกว่า พรรคก้าวไกลถูกรังแกโดยไม่มีเหตุผล ก็อาจจะเทคะแนนให้พรรคก้าวไกลเพิ่มขึ้น ถ้าเป็นเช่นนี้พรรคก้าวไกล ก็จะเดินไปสู่แนวทาง “ยิ่งยุบยิ่งโต”
เมื่อ กกต. ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคก้าวไกลแล้ว ไม่ต้องคิดเป็นอย่างอื่นเลย แม้ว่าผลลัพธ์ยังไม่ออกมา ก็สามารถฟันธงตามแนวทางการเมือง และทิศทางทางการเมืองที่ฝ่ายอนุรักษ์นิยมต้องการได้เลยว่า พรรคก้าวไกลถูกยุบแน่นอน 1000%
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'แก้วสรร' แนะ 'ธีรยุทธ' ปรับยุทธวิธี เสริมความแกร่งของสำนวนมุ่งไปที่ กกต.-ปปช.
หลังตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติไม่รับไว้พิจารณาวินิจฉัย กรณีที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ในฐานะประชาชน ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ
เปิด 5 ปัจจัย ทำให้รัฐบาลอยู่ไม่ครบเทอม
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก หัวข้อ 5 ปัจจัย ทำให้รัฐบาลอยู่ไม่ครบเทอม มีเนื้อหาดังนี้
ปปช.เปิดทรัพย์สิน 'ก่อแก้ว' สุดอู้ฟู่รวย 263 ล้านบาท
เปิดเซฟ 'ชัยธวัช ตุลาธน' อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล 19.3 ล้านบาท 'อภิชาติ' อดีตเลขาธิการพรรค 13.2 ล้านบาท 'ก่อแก้ว' อู้ฟู่ 263 ล้าน
'เทพไท' วิเคราะห์ชัดๆ 'ทักษิณ-อุ๊งอิ๊งค์' ใครคือนายกฯตัวจริง
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช
ก้าวไกลแพ้! ศาลยกฟ้อง 'ณฐพร โตประยูร' แจ้งเท็จ-หมิ่น ล้มล้างการปกครอง
ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดำ อ.308/2564 ที่พรรคก้าวไกล เป็นโจทก์ฟ้องนายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดินเป็นจำเลยในความผิดฐานแจ้งความเท็จ,หมิ่นประมาทฯพร้อมเรียกค่าเสียหาย 20,062,475บาท
เทพไทชวนจับตา 'นักโทษนางฟ้า' เดินตามรอย 'นักโทษเทวดา'
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช