'เทพไท' ฟันธง ทักษิณ-เศรษฐา เจอกันที่เชียงใหม่ ไม่ใช่บังเอิญ

10 มี.ค. 2567 – นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส. นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊ก เทพไท เสนพงศ์-คุยการเมือง ระบุว่า
ทักษิณ-เศรษฐา เจอกันที่เชียงใหม่ ไม่ใช่บังเอิญ

การที่คุณทักษิณ ชินวัตร มีกำหนดการเดินทางไปไหว้บรรพบุรุษที่จังหวัดเชียงใหม่ ในวันที่ 14-16 มีนาคม และคุณเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีเดินทางไปตรวจราชการที่จังหวัดเชียงใหม่ ในวันที่ 15-17 มีนาคมเช่นเดียวกัน ซึ่งไม่ใช่เป็นความบังเอิญ แต่เป็นความจงใจที่ต้องการใช้การลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ของทั้ง 2 คน เพื่อได้พบปะพูดคุยกัน และการเดินทาง ไปจังหวัดเชียงใหม่โดยใช้วันเวลาที่เหลื่อมกัน เพื่อไม่ให้ดูน่าเกลียดจนเกินไป การไปเชียงใหม่ของคุณเศรษฐา ก็เพราะมีประชุม ครม.สัญจรที่จังหวัดพะเยา ได้กำหนดไว้ล่วงหน้าแล้ว

ส่วนคุณทักษิณอ้างเรื่องการไปไหว้บรรพบุรุษ ซึ่งปกติตามธรรมเนียมของคนจีน การไหว้บรรพบุรุษหรือวันเช้งเม้ง ปีนี้ตรงกับวันที่ 4 เมษายน 2567 และคนจีนจะนิยมไหว้บรรพบุรุษในวันเช้งเม้งเป็นส่วนใหญ่ เว้นแต่มีเหตุจำเป็น ก็สามารถไหว้ก่อนได้ก่อน7วัน แต่คุณทักษิณเลือกไปไหว้บรรพบุรุษในวันที่ 15 มีนาคม ก็ผิดจากประเพณีที่ยึดถือปฏิบัติกัน แต่คงเพื่อต้องการที่จะให้ได้พบกับคุณเศรษฐา โดยไม่ต้องการให้วันเดินทางตรงกันเป๊ะ จนน่าเกลียดเกินไป จึงจัดเวลาเดินทางให้เหลื่อมกันเล็กน้อย

การที่คุณเศรษฐาให้สัมภาษณ์ที่ต่างประเทศว่า จะพบกับคุณทักษิณหรือไม่นั้น ต้องดูก่อนว่าหากมีเวลาตรงกันคงได้เจอกัน ซึ่งผมขออนุญาตทำนายไว้ล่วงหน้า 3 ข้อ คือ 1.มีเวลาตรงกัน 2.มีโอกาสได้พบกัน 3.จะพบกันในคืนวันที่15
การพบกันของคุณทักษิณกับคุณเศรษฐา ไม่ใช่เรื่องที่เกินความคาดหมาย และไม่ใช่เรื่องผิดปกติ เพราะทั้งสองเคยพบกันมาแล้ว และสามารถพบปะได้เป็นประจำ ในฐานะที่คุณทักษิณเป็นเจ้าของพรรคเพื่อไทย เป็นผู้สนับสนุนให้คุณเศรษฐาขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี แม้ตอนนี้จะไม่ได้เป็นที่ปรึกษาอย่างเป็นทางการ ก็เป็นที่ปรึกษาแบบลับๆได้

การเดินทางไปจังหวัดเชียงใหม่ของคุณทักษิณ ได้รับการอนุญาตจากกรมคุมประพฤติแล้ว ไม่ขัดต่อระเบียบหรือเงื่อนไข 5 ข้อห้าม 5ข้อทำได้ แต่การปฎิบัติของคุณทักษิณ ที่อยู่ในระหว่างการพักโทษ จะมีความเหมาะสม หรือขัดต่อความรู้สึกของประชาชนหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง อย่าทำอะไรที่ฝืนความรู้สึกหรือท้าทายความรู้สึกของประชาชน อย่าย่ามใจว่า ฝ่ายต่อต้านระบอบทักษิณ จุดกระแสไม่ติด แต่ถ้าประชาชนมีความอัดอั้นตันใจ คับแค้นใจมากๆ ก็จะอาจจุดติดขึ้นมาก็ได้

จึงขอเตือนไว้ ในฐานะเพื่อนนักโทษด้วยกัน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ภูมิปัญญาโบราณล้านนา อาวุธลับของ Soft Power เปรียบเทียบ เมืองเชียงใหม่ กับ เมืองเกียวโต

Soft Power หรือ “อำนาจละมุน” คือความสามารถในการดึงดูดและโน้นน้าวผู้คนโดยไม่ต้องใช้อำนาจหรือกำลังในการบังคับ แต่มีพลังเหลือล้นด้วยการใช้วัฒนธรรม ค่านิยม ซึ่งถือได้ว่า Soft Power เป็นเครื่องมือสร้างอิทธิพล ตามแนวคิด Joseph Nye นักรัฐศาสตร์ชาวอเมริกันที่ได้นำเสนอไว้ เมื่อกล่าวถึงวัฒนธรรม ค่านิยม ทำให้ภาพของ “เชียงใหม่” ปรากฏขึ้นมาในความคิด  เชียงใหม่มีวัฒนธรรมที่งดงาม มีการสืบสานประเพณีที่ส่งต่อมาจากรุ่นสู่รุ่นอย่างมิเคยเลือนหาย วัฒนธรรมทางด้านศิลปะล้านนา ประเพณี วัดวาอาราม สถานที่ทางวัฒนธรรมต่างๆ ล้วนแล้วแต่เป็น อำนาจละมุน ทั้งสิ้น และยังคงทรงพลังอยู่เสมอมา  เชียงใหม่จึงเป็นเมืองที่มีศักยภาพ ที่อบอวลไปด้วยกลิ่นอายของวัฒนธรรมล้านนา ภูมิปัญญาท้องถิ่น ธรรมชาติที่งดงาม มีวิถีชีวิตที่มีความเรียบง่ายกับความลึกซึ้งได้อย่างลงตัว

'มาดามหยก' รับตำแหน่งที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ สตรีดีเด่นเชียงใหม่ พร้อมส่งเสริมพลังสตรี

"มาดามหยก" ขอบคุณนายกสภาสมาคมสตรีไทยดีเด่นแห่งชาติ และนายกชมรมสภาสตรีดีเด่นจังหวัดเชียงใหม่ แต่งตั้งเป็น ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ ให้กำลังใจสตรีภูมิใจในตัวเอง แนะคิด สร้างสรรค์ นวัตกรรมใหม่เพื่อสังคม

'เชียงใหม่' วิกฤต! ประกาศพื้นที่ภัยพิบัติไฟป่า 2 อำเภอ อากาศแย่อันดับ 3 ของโลก

จังหวัดเชียงใหม่ได้ออกประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัยและเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน อัคคีภัย ไฟป่า รวม 5 ตำบล ในพื้นที่ 2 อำเภอ