'เทพมนตรี' งัดแผนที่ฟาด 'กัมพูชา' ลากเส้นลงทะเล รุกล้ำเขตแดนไทย เรียกว่า 'เส้นเก๊'

8 มี.ค. 2567 - นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการอิสระด้านประวัติศาสตร์และนักเทววิทยา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก พร้อมภาพแผนที่เส้นเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ว่า

เขตแดนทางบกและทางทะเล ตอนที่ 1
พร้อมแนบเอกสารหลักฐาน
เส้นเขตแดนทางบกระหว่างไทยกับกัมพูชา ยังมีปัญหากันอยู่ทุกวันนี้ มีทั้งที่เป็นพรมแดนธรรมชาติและที่ปักหลักเขต
หลักเขตแดนมีพัฒนาการแรกเริ่มกำหนดต้นไม้ใหญ่ทำเครื่องหมายและวาดแผนที่ยึดโยงกัน ต่อมาจึงพัฒนาเป็นหลักไม้และหลักปูนตามลำดับ เริ่มเขตแดนจากอุบลราชธานีถึงช่องสะงำ จังหวัดศรีษะเกษ ใช้พรมแดนธรรมชาติ เช่น สันปันน้ำที่ขอบหน้าผา กรณีปราสาทพระวิหารจึงควรเป็นของไทย (จักกล่าวถึงในคราวต่อๆไป)
จากช่องสะงำจะตั้งหลักเขตตามช่องต่างๆ (ช่องทางธรรมชาติระหว่างไทย-กัมพูชา) และเริ่มหลักเขตแดนที่ 1 ไล่เลี่ยงกันจนถึงหลักเขตที่ 73 ที่บ้านหาดเล็กบนแหลมสารพัดพิษ จังหวัดตราด (เดิมเป็นบ้านโอบยาม แต่คณะกรรมการปักปันเขตแดนสยาม-อินโดจีนฝรั่งเศส ย้ายตามฝ่ายฝรั่งเศสร้องขอข้ามลำน้ำมาปักบนเนินปลายแหลมสารพัดพิษ
ต่อมาหลักเขตจำนวนหนึ่งถูกเคลื่อนย้ายจากตำแหน่งเดิมด้วยเหตุผลหลายประการ รวมถึงหลักเขตที่ 73 ก็
ยังไม่มีการเจรจาตกลงว่าจะลงเอยอย่างไร
กัมพูชาลากเส้นเขตแดนทางทะเลประกาศไหล่ทวีปโดยใช้หลักเขตที่ 73 ซึ่งยังคงมีปัญหาอยู่ ผ่ากลางเกาะกูด แล้วลากเส้นลงทะเลกลางอ่าวไทยรุกล้ำเขตแดนของไทยโดยไม่มีพื้นฐานทางกฎหมายใดๆ เราจึงสมควรจะเรียกว่าเส้นเก๊

ที่มาของแผนที่ทั้ง 3 แผ่นนี้มาจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ปั่นเพื่อมิตรภาพ2แผ่นดิน 'ไทย-กัมพูชา' ลุล่วงผูกสัมพันธ์แน่น

กิจกรรมใหญ่ "โครงการปั่นเพื่อมิตรภาพสองแผ่นดิน" (Friendships Bike 2024 Thailand-Cambodia) ซึ่ง กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ (NSDF) การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ร่วมกับ กองกำลังสุรนารี จัดขึ้น สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี พร้อมกระชับมิตรภาพและความสัมพันธ์ ระหว่าง 2 ประเทศ "ไทย-กัมพูชา" ให้แน่นแฟ้นตลอดไป โดยมีชาวไทยและกัมพูชา ร่วมปั่นกว่า 1,000 คน