'สส.ภูมิใจไทย' โวยตั๋วเครื่องบินไปอันดามันแพงหูฉี่ กระทบการท่องเที่ยว-วัดไร้คนทำบุญ ชาวบ้านต้องหนีไปขึ้นเครื่องที่สุราษฎร์-นครฯ เพราะราคาถูกกว่า
21 ก.พ.2567 - ที่รัฐสภา นายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วย สส.ภาคใต้ฝั่งอันดามัน พรรคภูมิใจไทย แถลงถึงปัญหาราคาบัตรโดยสารเครื่องบินไปจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ที่ราคาแพงเกินจริง ว่า ในปัญหาดังกล่าวพรรคภูมิใจไทย ได้ตั้งกระทู้ถามรัฐบาลไปแล้ว และขอบคุณนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม ที่เชิญสำนักงานการบินพลเรือนมาหารือ แต่สำนักงานการบินพลเรือน ตอบไม่ตรงข้อเท็จจริง เพราะบัตรโดยสารปัจจุบันยังคงแพงจนทำให้ประชาชนชาวใต้ได้รับผลกระทบ และนายกรัฐมนตรีก็ยอมรับว่า บัตรโดยสารเครื่องบินราคาแพงกว่าราคาเดินทางไปยังต่างประเทศ ซึ่งสถานการณ์ก่อนโควิด-19 ราคาบัตรโดยสารยังถูกกว่าปัจจุบัน
“ปัจจุบันบัตรโดยสารไปจ.กระบี่ พังงา สตูล ตรัง และจังหวัดฝั่งอันดามันทั้งหมดแพง จนทำให้ประชาชนภาคใต้ไม่เดินทางกลับภูมิลำเนา และไม่ไปร่วมงานบุญใด ๆ เพราะบัตรโดยสารแพง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงเป็นอุปสรรคจูงใจนักท่องเที่ยว ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลในการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงราคายังไม่เป็นธรรม เช่น ราคาบัตรโดยสารจากกระบี่ ไปเชียงใหม่ ราคา 2,000 บาท แต่ราคาจากเชียงใหม่ มากระบี่ราคา 6,000 บาท จึงทำให้จ.กระบี่เสียเปรียบ ดังนั้นชาวกระบี่ หรือภูเก็ต ก็จะขับรถมาขึ้นเครื่องที่สุราษฎร์ธานี หรือนครศรีธรรมราช เนื่องจาก บัตรโดยสารราคาถูกกว่า จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เลิกวิธีคิดและการอ้างหากต้องการบัตรโดยสารราคาถูกให้จองล่วงหน้า 2-3 เดือน เพราะก่อนหน้านี้ให้สารการบินโลว์คอส มาทำกิจการในประเทศไทย ก็มีการตัดราคาจนบริษัทรถโดยสารในประเทศ และ บขส.ได้รับผลกระทบ ขอสังเกตว่าบัตรโดยสารแพงนี้ รัฐมีการเอื้อประโยชน์ให้นายทุนหรือไม่”นายสฤษฏ์พงษ์ กล่าว
นายสฤษฏ์พงษ์ กล่าวต่อว่า พวกตนมีความกังวลหลังมีนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวมากขึ้น แต่สายการบินกลับไม่เพิ่มเที่ยวบิน โดยเฉพาะปัจจุบัน มีนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียหนีสงครามมาใช้ชีวิตท่องเที่ยวในประเทศไทย รวมถึงยังมีนักท่องเที่ยวชาวจีน อิตาลี ฯลฯ มาท่องเที่ยวในประเทศไทย โรงแรมเต็มทั้งหมด แต่สายการบินไม่เพิ่มเที่ยวบิน จึงทำให้ราคาแพงกว่าในอดีต ประหนึ่งเป็นการตักตวงทำกำไรชดเชยในช่วงโควิด-19 นอกจกานั้นยังมีชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักในประเทศไทย เข้ามาประกอบอาชีพที่กฎหมายสงวนไว้ให้เฉพาะคนไทยประกอบอาชีพเท่านั้น อาทิ ร้านตัดผม ร้านอาหาร โดยให้นายหน้า หรือนอมินีคนไทยเป็นผู้จดทะเบียนแทน จึงทำให้เกิดปัญหาการแย่งงานคนไทย ซึ่งอาจทำให้คนไทยถูกแย่งอาชีพในอนาคตได้ และยังมีชาวต่างชาติรวมตัวกันตั้งกลุ่มอิทธิพลดำเนินกิจการด้านโรงแรม และพัวพันยาเสพติด จึงขอให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาตั้งแต่ต้นทางด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อนุทิน' แจงเหตุไม่ร่วมดีเบต เป็นสไตล์ส่วนตัวไม่ชอบตอบโต้ ขอเอาเรื่องอธิปไตยให้จบก่อน
"อนุทิน" แจงเหตุไม่ร่วมดีเบต ภารกิจแน่น มองเรื่องความมั่นคงสำคัญกว่า เอาเรื่องอธิปไตยก่อน ยอมรับพูดไม่เก่ง ไม่ชอบตอบโต้ พยายามหลีกเลี่ยงทะเลาะกัน เผยจุดอ่อนให้พูด 3 ชั่วโมง ทำได้ แต่ให้พูด 2 นาที ทำไม่ได้
'เท้ง' โวย 'อนุทิน' สร้างวาทกรรม ปชน. แก้ ม.112 ทั้งที่พูดเรื่องนิรโทษกรรมคดีหมิ่นสถาบัน
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวตอบโต้นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่า ต้องบอกว่าการยกมือในวันนั้น ไม่ใช่การเห็นด้วยกับการแก้ไขมาตรา 112 แต่เป็นการผลักดันเรื่องนิรโทษกรรมของนักโทษที่โดนคดีทางการเมือง
โฆษกรัฐบาล ยัน 'ศุภจี' ไม่ขาดคุณสมบัติ ไม่ไปเลือกตั้งท้องถิ่นจริง แต่ทำหนังสือแจ้งเหตุแล้ว
"สิริพงศ์" ระบุ "ศุภจี" มีเหตุไม่ไปเลือกตั้งท้องถิ่นจริง แต่แจ้งเหตุแล้ว ยันไม่ขาดคุณสมบัติดำรงตำแหน่งการเมือง วอนอย่าสร้างความสับสน ให้คนทำงานเสียกำลังใจ
'เท้ง' ลั่นเลือกตั้งครั้งนี้ แข่งกันจัดตั้งรัฐบาลระหว่างพรรคประชาชนกับภูมิใจไทย
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน เปิดเผยว่า ในเมื่อคุณอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ประกาศชัดว่าจะไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคประชาชน
’อนุทิน‘ ชัด ไม่ร่วมรัฐบาลพรรคประชาชน ปมยังเดินหน้าแก้ ม.112
หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ระบุจุดยืนชัด ไม่จับมือจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคการเมืองที่ยังมีนโยบายแก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา 112 หลังดีเบตไทยรัฐทีวี ย้ำต่างอุดมการณ์ แต่ยังทำงานร่วมกันได้ หากเป็นเรื่องแก้ปัญหาประชาชน
'อนุทิน' เผย 'สีหศักดิ์' ตอบรับแคนดิเดตนายกฯ เหมาะสมสถานการณ์ชายแดน
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงเหตุผลที่ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดตัวเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยลำดับที่สอง

