เปิดสูตรนับโทษ 'ทักษิณ' เข้าเกณฑ์พักโทษ 6 เดือนทำไมเป็น 18 ก.พ. ไม่ใช่ 22 ก.พ.

18 ก.พ.2567 - นายธนกฤต วรธนัชชากุล อัยการผู้เชี่ยวชาญ ได้โพสต์เฟซบุ๊กว่ากรณีของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่อยู่ในเกณฑ์ได้รับประโยชน์จากการพักการลงโทษหลังจากได้รับโทษจำคุกมาแล้ว 6 เดือน ซึ่งเป็นไปตามพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ. 2560 มาตรา 52 นั้น การนับระยะเวลาจำคุก 6 เดือน ต้องนับตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 21 วรรคหนึ่ง คือ ให้เริ่มนับวันเริ่มจำคุกรวมเข้าไปด้วย และให้นับเป็นหนึ่งวันเต็มโดยไม่ต้องคำนึงถึงจำนวนชั่วโมง และตามมาตรา 22 ที่กำหนดให้โทษจำคุกเริ่มตั้งแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษา

วันเริ่มต้นของการรับโทษจำคุกของนายทักษิณ ชินวัตร จึงเป็นวันที่ 22 สิงหาคม 2566 ซึ่งเป็นวันที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอ่านคำพิพากษา โดยนับวันที่ 22 สิงหาคม เป็นหนึ่งวันเต็ม ไม่คำนึงถึงจำนวนชั่วโมง ว่าจะมีจำนวนชั่วโมงเหลืออยู่เท่าใดในวันนั้น ตามมาตรา 21 วรรคหนึ่ง ที่กล่าวไป

ข้อกฎหมายสำคัญอยู่ที่ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 21 วรรคสอง ที่กำหนดให้ระยะเวลาที่คำนวณเป็นเดือน ให้นับ 30 วันเป็นหนึ่งเดือน เมื่อคำนวณระยะเวลาจำคุก 6 เดือน ตามมาตรา 21 วรรคสอง จึงเท่ากับนำเอาระยะเวลา 6 เดือน คูณด้วย 30 วัน (6 x 30) เท่ากับระยะเวลา 180 วัน

ดังนั้น เมื่อนับวันที่ 22 สิงหาคม 2566 เป็นวันเริ่มต้นของการรับโทษจำคุกของนายทักษิณ ชินวัตร จึงครบกำหนด 6 เดือน ที่นับระยะเวลาเท่ากับ 180 วัน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 21 วรรคสอง ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2567 วันครบกำหนดรับโทษจำคุก 6 เดือน จึงตรงกับวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2567 และทำให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อยู่ในเกณฑ์ที่จะได้รับประโยชน์จากการพักการลงโทษตามพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ. 2560 มาตรา 52 ตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2567 เป็นต้นไป

หลักเกณฑ์การนับระยะเวลารับโทษจำคุกตามประมวลกฎหมายอาญาจึงมีความแตกต่างจากการนับระยะเวลาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

ซึ่งหากเป็นการนับระยะเวลาเป็นเดือนตามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์แล้ว ในกรณีนี้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/5 วรรคสอง จะครบกำหนด 6 เดือนในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567 ซึ่งเป็นวันก่อนหน้าจะถึงวันแห่งเดือนสุดท้าย อันเป็นวันตรงกับวันเริ่มระยะเวลานั้น

แต่สำหรับการนับระยะเวลารับโทษจำคุกมีหลักเกณฑ์ที่แตกต่างไปจากการนับระยะเวลาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ โดยต้องเป็นไปตามประมวลกฎหมายอาญาดังที่กล่าวไปแล้ว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สส.เพื่อไทย ดี๊ด๊า ประเทศไทยมีระบบที่เป็นมาตรฐาน!

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่าประชาชนที่ติดตามเรื่องนี้คงสบายใจขึ้นที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับ

สาวกเพื่อไทย ยื่นศาลรธน.สอบ 'ธนพร' ละเมิดอำนาจศาล

ที่บริเวณ​หน้าศาลรัฐธรรมนูญ​ นายนิยม นพรัตน์ หรือเค สามถุยส์ และนายทันกวินท์ รัฐวัฒก์อังกูร เดินทางมายังสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อยื่นหนังสือร้อง นายธนพร ศรียากูล ผู้อำนวยการสถาบันวิเคราะห์

'ชูศักดิ์' เผย 'เพื่อไทย' ได้รับความเป็นธรรม ศาลรธน. ไม่รับคำร้องปมล้มล้างการปกครอง

นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงภายหลังที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ทนายอิสระ ที่ขอให้ศาลมีคำสั่งให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย(พท.) ยุติการกระทำที่เข้าข่ายล้มล้างการปกครองจะผูกพันไปยังกรณีที่มีการยื่นคำร้องเดียว

'อิ๊งค์' ยิ้มรับ 'พ่อ-เพื่อไทย' รอดล้มล้างปกครอง ชาวเน็ตชี้จากนี้ไป 'ทักษิณ' ใส่เกียร์เหลิง

จากกรณีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติไม่รับไว้พิจารณาวินิจฉัย คำร้องที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ในฐานะประชาชน ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ

2 ตุลาการศาลรธน.เสียงข้างน้อย รับคำร้อง 'ทักษิณ' สั่งรัฐบาลเอื้อประโยชน์ฮุนเซน น่าจะเกิดผลใช้สิทธิล้มล้างปกครองฯ

จากกรณีนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ในฐานะประชาชน ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 10 ต.ค.2567 ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 กล่าวอ้างว่า นายทักษิณ ชินวัตร (ผู้ถูก

'แก้วสรร' แนะ 'ธีรยุทธ' ปรับยุทธวิธี เสริมความแกร่งของสำนวนมุ่งไปที่ กกต.-ปปช.

หลังตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติไม่รับไว้พิจารณาวินิจฉัย กรณีที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ในฐานะประชาชน ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ