'เอ็ดดี้' ยกนิ้วให้ 'ทักษิณ'! เครื่องมือการแพทย์ศักยภาพสูงไร้ความหมายทันทีเมื่อได้รับการพักโทษ

18 ก.พ.2567- อัษฎางค์ ยมนาค นกวิชาการอิสระ โพสต์เฟซบุ๊ก หลังนายทักษิณ ชินวัตร ได้พักโทษออกจากโรงพยาบาลตำรวจ กลับไปยังบ้านจันทร์ส่องหล้า ว่า”เครื่องมือทางการแพทย์ที่มีศักยภาพสูงไร้ความหมายทันทีเมื่อได้รับการพักโทษ“

กรมราชทัณฑ์ ส่งตัวนายทักษิณ ชินวัตร ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ ด้วยเหตุผลว่า ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ขาดเครื่องมือทางการแพทย์ที่มีศักยภาพ ตั้งแต่วันแรกที่เหยียบแผ่นดินไทยจนถึงก่อนเช้าวันนี้

แต่หลังจากได้รับการพักโทษ ……..

เครื่องมือทางการแพทย์ที่มีศักยภาพสูงที่แม้แต่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ยังไม่มี ก็ไร้ความจำเป็นอีกต่อไป เพราะทักษิณกลับบ้านได้ทันที

บ้านจันทร์ส่องล้า คงมีเครื่องมือแพทย์ที่ทันสมัยเทียบเท่าโรงพยาบาลตำรวจ ทักษิณจึงกลับมาพักรักษาตัวที่บ้านได้ โดยที่ทางกรมราชทัณฑ์ไว้วางใจยิ่งกว่าการที่ทักษิณจะรักษาตัวในกรมราชทัณฑ์ ซึ่งกรมราชทัณฑ์ให้เหตุผลว่า เครื่องมือแพทย์ที่มีทันสมัยไม่พอ

………………………………………………………………………..

สื่อเคยรายงานข่าวเอาไว้ว่า

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 22 ส.ค.นายทักษิณเดินทางเหยียบแผ่นดินไทย ด้วยเครื่องบิน Gulf stream รุ่น G650-ER เครื่องบินส่วนตัวของทักษิณ

ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวทักษิณ ออกจากสนามบินดอนเมือง เดินทางไปศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยศาลฎีกาฯ บังคับโทษ 3 คดี นับโทษรวมจำคุก 8 ปี และราชทัณฑ์ได้ตัวส่งเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครทันที

ต่อมา กรมราชทัณฑ์ ส่งตัวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจกลางดึกที่ผ่านมา เมื่อเวลา 00.20 น. ภายหลังมีอาการแน่นหน้าอก

เอกสารข่าวจากกรมราชทัณฑ์ที่ส่งให้สื่อมวลชนเมื่อเวลาประมาณ 9.00 น. วันนี้ (23 ส.ค.) เปิดเผยคำชี้แจงจาก รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ในฐานะโฆษกประจำกรมราชทัณฑ์ ระบุว่า เมื่อเวลา 23.59 น. ของวันที่ 22 ส.ค. พัศดีเวรได้รายงานว่านายทักษิณ ซึ่งควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร แดน 7 อยู่ระหว่างการกักโรค เนื่องจากมีอาการป่วย

พยาบาลเวรเรือนจำ ได้ติดต่อขอคำแนะนำกับแพทย์ที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์ได้สอบถามอาการโดยละเอียดแล้ว ตลอดจนพิจารณาจากรายงานประวัติการรักษาของผู้ป่วยพบมีโรคประจำตัวหลายโรคที่อยู่ระหว่างการรักษาติดตามอาการ

เอกสารข่าวระบุว่า เนื่องจากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ยังขาดเครื่องมือทางการแพทย์ที่มีศักยภาพ แพทย์จึงมีความเห็นว่าเพื่อป้องกันความเสี่ยงอันตรายที่อาจจะส่งผลต่อชีวิต เห็นควรส่งตัวไปโรงพยาบาลตำรวจที่มีความพร้อม มีเครื่องมือทางการแพทย์ที่มีศักยภาพสูงกว่า

หลังจากนั้น เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ได้นำตัวส่งโรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งได้รับตัวไว้เพื่อทำการบำบัดรักษา
นับตั้งแต่วันนั้นถึงก่อนเช้าวันนี้ ทักษิณต้องอยู่ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดในโรงพยาบาลตำรวจ เพราะมีความพร้อมทางด้านเครื่องมือทางการแพทย์ที่มีศักยภาพสูง

ย้อนกลับมาสู่เหตุการณ์ปัจจุบัน

หลังจากได้รับการพักโทษ ……..

เครื่องมือทางการแพทย์ที่มีศักยภาพสูงที่แม้แต่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ยังไม่มี ก็ไร้ความจำเป็นอีกต่อไป เพราะทักษิณกลับบ้านได้ทันที

บ้านจันทร์ส่องล้า คงมีเครื่องมือแพทย์ที่ทันสมัยเทียบเท่าโรงพยาบาลตำรวจ ทักษิณจึงกลับมาพักรักษาตัวที่บ้านได้ โดยที่ทางกรมราชทัณฑ์ไว้วางใจยิ่งกว่าการที่ทักษิณจะรักษาตัวในกรมราชทัณฑ์ ซึ่งกรมราชทัณฑ์ให้เหตุผลว่า เครื่องมือแพทย์ที่มีทันสมัยไม่พอ

รวยจริงๆ รวยกว่าหน่วยงานของรัฐ

ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองท่านไหนที่ช่วยเหลือท่านทักษิณเกิดป่วยขึ้นมา ก็แวะไปนอนรักษาตัวที่บ้านจันทร์ส่องล้าบ้าง จะได้รับความสะดวกสบายกว่าการไปพักรักษาในโรงพยาบาลไหนๆ แน่นอน

อย่าคิดมาก ผู้หลักผู้ใหญ่ท่านบอกแล้วว่า ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน เป็นไปตามกฎหมายที่พรรคพวกของท่านได้วางไว้หมดแล้ว

ที่นี่ประเทศไทย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

การเมืองไทยปี 68 เข้มข้น-ขับเคี่ยว-ร้อนแรง ซักฟอกมี.ค.-ปรับครม.กลางปี

การเมืองไทยไม่ว่าปีไหนๆ ก็มีประเด็นร้อนเกิดขึ้นได้ตลอด บางเรื่องเกิดขึ้นตามปฏิทินการเมือง แต่บางประเด็นเป็นความร้อนแรงที่แทรกขึ้นมาแบบไม่มีใครคาดคิดมาก่อน

แม้วเดินสายโชว์บารมี อิ๊งค์ปราศรัยนครพนม

"ทักษิณ" ลุยหาเสียงผู้สมัครนายก อบจ. จ่อขึ้นเวทีเชียงราย 3 เวที "เทิง-เชียงของ-แม่จัน" ปราศรัยช่วย "สลักจฤฎดิ์-เมียยงยุทธ" ก่อนเดินสายลำปาง-นครพนม-บึงกาฬ-หนองคาย-มหาสารคาม-ศรีสะเกษ

'จักรภพ' จูงมือคู่ชีวิต พบ 'ทักษิณ' เชิญเป็นสักขีพยานจดทะเบียน 'สมรสเท่าเทียม'

นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายก และ อดีตโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วานนี้ (3 มกราคม) ตนพร้อมด้วย นายสุไพรพล ช่วยชู หรือ ป๊อบ คู่ชีวิต เดินทางเข้าพบ ดร.ทักษิณ ชินวัต

‘พ่อ-ลูก’ แห่ช่วยหาเสียง หลายพื้นที่สอย ‘ผู้สมัคร’

“แพทองธาร” ลุยช่วยหาเสียง อบจ.นครพนม 12 ม.ค.นี้ ส่วนพ่อนายกฯ ลงซ้ำ 18 ม.ค.นี้ “อนุทิน” ไม่หวั่น ขอแค่ส่งใจช่วยเครือข่ายสีน้ำเงินรักษาเก้าอี้ภาคอีสาน