'คุมประพฤติ' เตรียมพบ 'ทักษิณ' ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ไม่ต้องติดกำไลอีเอ็ม ออกทีวีได้

"รองอธิบดี​กรมคุมประพฤติ" เตรียมพบ "ทักษิณ"ภายใน 21 ก.พ.นี้ แจงขั้นตอนพักโทษ ชี้อาจไม่ต้องใส่กำไลอีเอ็ม เนื่องจากเข้าข่ายสูงอายุ -​เจ็บป่วย

13 ก.พ.2567 - พ.ต.ท.มนตรี บุณยโยธิน รองอธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวถึงขั้นตอนและวิธีการรับตัวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี​ จากกรมราชทัณฑ์ เพื่อเข้าสู่กระบวนการพักโทษ ภายใต้การกำกับดูแลของกรมคุมประพฤติ ว่า ภายหลังจากที่อดีตนายกรัฐมนตรีได้รับการพักโทษเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากมีคุณสมบัติตามเกณฑ์ที่กำหนด คือ อายุมากกว่า 70 ปีขึ้นไปและเจ็บป่วย ซึ่งหากนับตามวันที่และเวลาที่อดีตนายกรัฐมนตรีเข้าสู่กระบวนการรับโทษมาแล้วก่อนหน้านี้ คิดเป็น 1 ใน 3 หรือ 6 เดือน (180 วัน) จะทำให้ในวันที่ 18 ก.พ. นี้ นายทักษิณ ก็จะเข้าสู่กระบวนการพักโทษทันที แต่ก็ต้องรอดูใบแจ้งการพักโทษก่อนว่ามีรายละเอียดอย่างไร และผู้ได้รับการพักโทษไม่ว่าจะเป็นการพักโทษแบบกรณีปกติ หรือแบบกรณีมีเหตุพิเศษ ทุกรายมีเวลา 3 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับการพักโทษ ในการเข้าพบและรายงานตัวกับเจ้าหน้าที่คุมประพฤติ

โดยในกรณีของนายทักษิณ หรือบุคคลใดก็ตามซึ่งเป็นผู้สูงอายุมากกว่า 70 ปีขึ้นไปและมีอาการเจ็บป่วยนั้น ตามมาตรฐานการปฏิบัติ ทางกรมคุมประพฤติ จะเป็นฝ่ายเดินทางเข้าพบด้วยตัวเองภายใน 3 วัน คือ ตั้งแต่วันที่ 18 ก.พ.-วันที่ 21 ก.พ. ณ สถานที่พักโทษของแต่ละราย หรือสถานที่ที่ได้นัดหมาย เพื่อชี้แจงถึงกระบวนการพักโทษ เงื่อนไขการคุมความประพฤติ การปฐมนิเทศ และการดำเนินการเบื้องต้น แต่ก่อนจะเข้าพบ เจ้าหน้าที่กรมคุมประพฤติต้องได้รับการประสานยินยอมจากเจ้าตัวและญาติก่อนว่าสะดวกช่วงเวลาใด เราต้องเผื่อเวลาการให้การรักษาของแพทย์ด้วย เพื่อให้เกิดความสะดวกที่สุด ทั้งนี้ ในกรณีการพักโทษแบบปกติ ผู้ได้รับการพักโทษจะต้องไปรายงานตัวที่สำนักงานคุมประพฤติด้วยตัวเอง ภายใน 3 วันเช่นเดียวกัน

พ.ต.ท.มนตรี กล่าวอีกว่า สำหรับการเข้าพบผู้ได้รับการพักโทษกรณีมีเหตุพิเศษโดยเฉพาะบุคคลนั้น เป็นผู้เคยดำรงตำแหน่งทางการเมืองระดับสูง หรือเป็นบุคคลสำคัญของประเทศ ทางอธิบดีกรมคุมประพฤติจะมีการมอบหมายให้มีผู้บริหารระดับสูงเข้าพบพร้อมๆ กับเจ้าหน้าที่คุมประพฤติด้วย และกระบวนการแจ้งเงื่อนไขการพักโทษต่างๆ จะเป็นไปตามระเบียบกระทรวงยุติธรรมว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการคุมความประพฤติ พ.ศ. 2560 อาทิการรับคดี เมื่อสำนักงานคุมประพฤติได้รับคำสั่งให้คุมความประพฤติผู้ถูกคุมความประพฤติที่เป็นผู้ใหญ่จากศาล ให้เจ้าหน้าที่ธุรการดำเนินการเบื้องต้น ดังนี้ 1.จัดทำทะเบียนคดี และตรวจสอบข้อมูลบุคคล (ขั้นตอนนี้ดำเนินการที่สำนักงานคุมความประพฤติได้) 2.ตรวจสอบประวัติการกระทำความผิด 3.จัดทำสำนวนคดีโดยการรวบรวมเอกสารและหลักฐานที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วน 4.นำเข้าข้อมูลในระบบสารสนเทศ และสารบบคดีของสำนักงานคุมประพฤติ 5.ดำเนินการอื่นๆ ตามที่ได้รับมอบหมาย เป็นต้น

พ.ต.ท.มนตรี กล่าวเพิ่มเติม​ว่า สำหรับการติดหรือไม่ติดกำไล EM นั้น จะเป็นดุลพินิจของคณะกรรมการพักการลงโทษที่จะเป็นผู้พิจารณา ซึ่งในกรณีของนายทักษิณ ถือว่าเป็นผู้ได้รับการพักโทษกรณีมีเหตุพิเศษ เนื่องจากสูงอายุ มีอายุ 74 ปี และเจ็บป่วย ดังนั้น ตามหลักเกณฑ์ที่ผ่านมา คณะกรรมการฯ มักจะไม่ให้ได้รับการติดกำไล EM เพราะต้องคำนึงถึงปัญหาเรื่องสุขภาพและอัตราความเสี่ยงน้อยที่จะไปก่อเหตุกระทำผิดซ้ำได้ ส่วนเรื่องเงื่อนไขพิเศษสำหรับกรณีที่นายทักษิณ เป็นผู้ต้องขังจากคดีทุจริตคอรัปชั่น เจ้าหน้าที่คุมประพฤติจะมีการสืบเสาะข้อมูลมาอย่างครบถ้วนแล้ว และประเมินว่าหากได้รับการพักโทษ มีผู้อุปการะคือใคร บุคคลที่อุปการะหรือในภาษาปากอาจเรียกว่าผู้ค้ำประกัน มีอาชีพหรือมีที่อยู่เป็นหลักแหล่งอย่างไรบ้าง และนายทักษิณเมื่อได้รับการพักโทษจะมีอาชีพอะไร ไปพักโทษยังสถานที่ใด มีเงินสำหรับดำรงชีพหรือไม่ และให้ความช่วยเหลือตัวเองได้หรือไม่ ซึ่งถ้าข้อเท็จจริงที่ได้จากการสืบเสาะข้อมูลพบว่าไม่มีความสะดวกเพียงพอในด้านใดก็ตาม เจ้าหน้าที่คุมประพฤติก็ประเมินได้ว่าอาจไปก่อเหตุซ้ำได้ หรือทุจริตคอรัปชั่นได้ นี่เป็นหลักพื้นฐานสำหรับการสืบเสาะข้อเท็จจริง

ส่วนประเด็นการรายงานตัวของนายทักษิณหลังได้รับการพักโทษนั้น พ.ต.ท.มนตรี กล่าวว่า ปกติแล้วไม่ว่าผู้ได้รับการพักโทษจากกรณีปกติหรือแบบพิเศษฯ ก็จะต้องรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติทุก ๆ เดือน ไปจนถึง 4 เดือน แต่หลังจาก 4 เดือน ถ้ามีการรายงานตัวตามปกติก็สามารถผ่อนปรนเป็นรายงานตัวทุก ๆ 2 เดือนได้ และถ้าผู้ได้รับการพักโทษยังมีอาการเจ็บป่วยไม่หายดี เจ้าหน้าที่คุมประพฤติก็จะเป็นฝ่ายเดินทางไปเข้าพบเช่นเดิม นอกจากนี้ แม้ระหว่างการพักโทษของผู้ที่ติดกำไล EM อยู่จะมีอาการปกติแต่ถ้ามีอาการเจ็บป่วยในภายหลัง เจ้าหน้าที่คุมประพฤติก็ต้องเดินทางไปพบเองเช่นกัน เราจะไม่ให้กระทบต่อเรื่องสุขภาพของผู้ได้รับการพักโทษเด็ดขาด และจะอนุมัติชงเรื่องให้ได้รับการถอดกำไล EM จากคณะกรรมการพักการลงโทษ

เมื่อถามถึงเรื่องเงื่อนไขหลังได้พักโทษไปแล้วนั้น พ.ต.ท.มนตรี กล่าวว่า หากสถานที่พักโทษอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร หากจะเดินทางข้ามเขตพื้นที่ไปยังอีกจังหวัดหนึ่ง ถ้ามีเหตุจำเป็นต้องออกนอกพื้นที่เขตก็ให้แจ้งพนักงานคุมประพฤติ ซึ่งการออกนอกพื้นที่เขตชั่วครั้งชั่วคราวสามารถทำได้ ส่วนการเดินทางออกต่างประเทศจะไม่สามารถทำได้ และการออกรายงานทีวีต่าง ๆ สามารถกระทำได้ และไม่ต้องแจ้งแก่เจ้าหน้าที่คุมประพฤติ เพียงเจ้าตัวต้องดูว่าเนื้อหาที่จะไปพูดนั้นจะกระทบอะไรหรือไม่ หรือสร้างความเสียหายหรือไม่

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สส.รังสิมันต์ แจงเหตุกมธ.มั่นคงฯ เชิญ 'ทักษิณ' แจงปมนักโทษเทวดาชั้น 14

นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึง

‘เทพไท’ ตอกหน้าลิ่วล้อทักษิณ เมื่อทำเลวเหมือนเดิม ไม่แปลกคนค้านเป็นพวกเดิม

เมื่อสถานการณ์บ้านเมืองเป็นเช่นนี้ จำเป็นอยู่ดี คนที่ออกมาคัดค้านจะเป็นคนหน้าเดิมเป็นส่วนใหญ่ เมื่อคนพวกเดิมในระบอบทักษิณเข้ามาบริหารประเทศ

‘จตุพร’ ชี้ ‘ทักษิณ’ ตบหน้าคนไทยฉาดใหญ่ ไม่แยแสสังคม โชว์พูดตลกทำให้โง่ไปกินมาม่า

นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ระบุว่า ขณะนี้ประเทศถูกนักโทษคดีทุจริตท้าทายกระบวนการยุติธรรม สั่งการ แทรก